เมื่องานประจำเพียงอย่างเดียวไม่อาจจะตอบโจทย์มนุษย์เงินเดือนอีกต่อไป ทำให้ใครหลายคนมองหาอาชีพเสริมหรือธุรกิจเล็กๆ ที่ทำควบคู่กันไป อย่าง “จิน-จินตณณิชา จันเจือ” พนักงานประจำที่ถัดในสายงานด้านกราฟฟิกและเว็บไซต์ได้ต่อยอดความเชี่ยวชาญของตัวเองกลายเป็นธุรกิจที่ทั้งแปลกใหม่และรายได้ดี นั่นคือ “บัตรประชาชนสัตว์เลี้ยง” จับกลุ่มประชาชนคนรักสัตว์ที่อยากมีบัตรประชาชนให้ลูกของตัวเอง

     โดยจินเล่าย้อนก่อนที่จะเริ่มต้นทำธุรกิจนี้ เธอเป็นทาสแมวมาก่อนและเคยขายชามอาหารสัตว์เลี้ยงบนโลกออนไลน์ แต่กลับกลายเป็นว่าสินค้าที่เธอขายนั้นดันไปเหมือนกับร้านอื่นๆ ณ จุดนั้นทำให้เธอตัดสินใจเทขายสินค้าทั้งหมด

     “เราเคยขายชามอาหารแมว แต่รู้สึกว่าร้านอื่นๆ ก็ขายเหมือนเราหมดเลย บางเจ้าก็ขายถูกกว่า เราเลยตัดสินใจโละให้หมดแล้วเลิกขาย จนมามีไอเดียทำบัตรประชาชนสัตว์เลี้ยงแทน เพราะเราถนัดสานงานด้านกราฟฟิกอยู่แล้ว เลยมาใช้ความถนัดตรงนี้ให้เป็นประโยชน์”

     จินได้ปิ๊งไอเดียมาจากการที่มองว่าคนเราทุกคนมีบัตรประชาชนเป็นของตัวเอง แต่สำหรับเจ้าสัตว์เลี้ยงจะมีเป็นสมุดพกของเขา เอาไว้เวลาไปหาหมอ ซึ่งตรงนี้ทำให้เธอคิดว่ามันน่าจะดีถ้าเกิดสัตว์เลี้ยงมีบัตรประชาชนของตัวเองบ้าง

      "คนเราทุกคนมีบัตรประชาชนใช่ไหมคะ แต่สัตว์เลี้ยงถ้าเราพาเขาไปหาหมอ ถึงจะได้สมุดพก เรามีความรู้สึกว่าเราอยากให้ลูกของเรามีบ้าง เราเลี้ยงแมว เราอยากทำให้ลูกๆ ของเรา ทำไปทำมาเลยคิดว่างั้นทำขายดีกว่า เพราะน่าจะมีคนคิดเหมือนเรา เราก็ไปลองดูในตลาด ก็เห็นว่ามีคนทำเหมือนกัน แต่เขาอาจจะไม่ได้ทำเหมือนของคนมาก เราถนัดด้านกราฟฟิกเลยลองออกแบบให้เหมือนของคนเลย ก็ลองทำดู”

     บัตรประชาชนสัตว์เลี้ยงของ PAY to PET ในช่วงเริ่มต้นยังเป็นบัตรในรูปแบบกระดาษเคลือบใส เพราะลงทุนต่ำ สามารถทำได้เลย เธอขายช่วงแรกในราคา 99 บาท แต่พอทำไปสักพักก็พบอุปสรรคในกระบวนการทำเพราะความช้า บางครั้งก็พิมพ์ออกมาได้สีไม่ตรงปก ทำให้เธอตัดสินใจลงทุนซื้อเครื่องพิมพ์บัตร PVC จนกลายเป็นบัตรแข็งที่มีความคล้ายบัตรประชาชนของคนเปี๊ยบ

     อีกทั้งจินยังเล่าว่าตั้งแต่ที่เธอทำมา นอกจากสัตว์เลี้ยงยอดฮิตอย่างสุนัขหรือแมวแล้ว เธอยังพบว่ามีลูกค้าที่เลี้ยงสัตว์แปลกๆ อีกมากมาย อาทิ ไก่ งู ลิง แม้กระทั่งตุ่นก็ยังมี แถมยังมีลูกค้าบางคนที่มาให้เธอทำบัตรประชาชนที่ไม่ใช่สัตว์เลี้ยงอีกด้วย

     “จุดเด่นของเราคือการรับทำสัตว์ทุกชนิดเลย มีทั้งบัตรงู ไก่ลิง หนู ได้หมด ขอแค่ลูกค้าบอกมา ก็มีบัตรแปลกๆ เข้ามาอยู่เรื่อยๆนะ เช่น บัตรตุ๊กตา บัตรต้นไม้ เหมือนคนเขาทำเพื่อความน่ารัก ไม่ได้กะจะเอาไปจริงจังหรือใช้งานอะไร”

     โดยขั้นตอนการทำบัตรหนึ่งใบนั้นใช้เวลาไม่นาน เริ่มต้นจากลูกค้าส่งรายละเอียดของสัตว์เลี้ยงเข้ามา จากนั้นทางจินก็จะจัดทำและส่งบัตรที่ออกแบบกลับไปให้ลูกค้าเช็คก่อนพิมพ์ เมื่อลูกค้าตรวจสอบแล้วก็คอนเฟิร์มกลับมา โดยบัตร 1 ใบใช้เวลาทำเฉลี่ยประมาณ 10 นาที ซึ่งจินใช้เวลาหลังเลิกงานในการทำบัตรประชาชนสัตว์เลี้ยง

     “ส่วนตัวพอเราเลิกงานเสร็จประมาณ 5.30 น. ก็ตรงกลับบ้านเลย แล้วก็นั่งทำจนถึง 4 ทุ่ม อาบน้ำเข้านอน หรือถ้าขยันก็ทำต่อจนตีหนึ่งตีสอง ส่วนเสาร์อาทิตย์จะเป็นเวลาที่เราทำเต็มแม็กซ์เลย แต่ก่อนเราทำคนเดียว แต่ตอนนี้มีจ้างเพื่อนช่วยทำด้วย ลิมิตเราทำได้คือ 30 ใบต่อวัน”

     จินเล่าเสริมว่าช่วงที่ออเดอร์พีคที่สุดคือช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมาเพราะมีลูกค้านำไปรีวิวและโพสต์ให้ ทำให้มีคนสนใจเข้ามาสั่งอย่างล้มหลาม สามารถสร้างรายได้แตะครึ่งแสนในเวลา 1 อาทิตย์

     “ปกติรายได้จะคำนวณยากนิดหนึ่งเพราะออเดอร์แต่ละวันไม่เท่ากัน ถ้าเฉลี่ยช่วงปกติจะอยู่ที่ 5,000 - 10,000 บาทต่อเดือน แต่ช่วงเดือนมีนาคมคือพีคสุดๆ ที่อยู่ๆ มีคนมารีวิวแล้วเหมือนแจ็กพอร์ตแตก ล่าสุดรายได้ 60,000 ภายในอาทิตย์เดียว”

     จากมนุษย์เงินเดือนที่มีเพิ่มเติมคืองานเสริม จินปิดท้ายว่าการทำธุรกิจนี้ สิ่งสำคัญที่ต้องมีคือความใส่ใจในทุกกระบวนการ เพราะสัตว์แต่ละชนิดมีข้อมูลแตกต่างกัน หรือแม้แต่รอยเลอะเล็กๆ จากการพิมพ์ก็ควรใส่ใจและไม่ส่งไปให้ลูกค้าเพื่อต้องการมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้เขา นี่คือหัวใจสำคัญที่ทำให้ลูกค้าชื่นชอบสินค้าและดีใจที่ได้รับสินค้าของเธอ

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจ Startup