Text : Vim Viva 

     ลีโอ ตัน และเบนจามิน ลิว สองหนุ่มสิงคโปร์วัย 34 ปีเป็นเพื่อนสนิทมายาวนาน 16 ปีแล้ว ลีโอทำงานโรงแรมที่มีเครือข่ายในหลายประเทศ ทั้งสิงคโปร์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย และฟิลิปปินส์ ส่วนเบนจามินอยู่ในสายฟินเทค ดูแลระบบแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศให้กับโรงแรมต่างๆ กว่า 100 แห่งในสิงคโปร์

     ทุกอย่างคงดำเนินไปด้วยดีหากไม่เกิดวิกฤตไวรัสโควิด-19 ระบาดที่ส่งผลกระทบอย่างมากต่อหน้าที่การงานของลีโอและเบนจามิน ทั้งคู่จึงปรึกษากันว่าถึงเวลาต้องหาธุรกิจทำแล้ว หลังจากนั้นก็ทำการสำรวจโอกาสและความเป็นไปได้ ก่อนตัดสินใจเปิดร้านเครื่องดื่มประเภทน้ำมะพร้าวปั่นเนื่องจากเป็นเทรนด์เครื่องดื่มที่กำลังได้รับความนิยมในสิงคโปร์ และเป็นเครื่องดื่มที่ทั้งคู่โปรดปราน





     หลังจากตระเวนชิมตามร้านต่างๆ ลีโอและเบนจามินได้กลับมาคิดสูตรน้ำมะพร้าวปั่นรสชาติต่างๆ และเปิดร้าน “CocoBoss” สาขาแรกที่สเปซ@โกวัน ด้วยความที่ทั้งคู่ไม่ได้มีประสบการณ์ในการทำธุรกิจเกี่ยวกับอาหารและเครื่องดื่ม ธุรกิจแรกของพวกเขาจึงปัญหาจุกจิกและความท้าทายต่างๆ ให้ทดสอบอยู่เสมอ

     “โควิดทำให้มาตรการรักษาความปลอดภัยมีความเข้มงวดขึ้น และนั่นก็ส่งผลต่อการดำเนินการและขั้นตอนต่างๆ ในการให้บริการ ซึ่งเราเองก็ต้องให้ความร่วมมือด้วยการอบรมพนักงานให้ทำตามระเบียบที่รับกำหนด” ลีโอกล่าว ไม่เท่านั้นการระบาดของโควิดยังทำให้ระบบการขนส่งรวนไปด้วย





     น้ำมะพร้าวปั่นถือเป็นเทรนด์เครื่องดื่มล่าสุดที่กำลังเป็นที่คลั่งไคล้ในกลุ่มผู้บริโภคชาวสิงคโปร์ และมีหลายร้านให้บริการมาระยะหนึ่งแล้ว เช่น Mr. Coconut, CocoCane และ Coconutnut ซึ่งสูตรน้ำมะพร้าวปั่นโดยทั่วไปประกอบด้วย น้ำมะพร้าว ไอศกรีมรสกะทิ เนื้อมะพร้าวอ่อน น้ำเชื่อม และน้ำแข็งปั่นรวมกันพร้อมกับเติมท้อปปิ้งต่างๆ ตามความชอบ เช่น ลอดช่อง สาคู ทับทิมกรอบ คุกกี้ เจลลี่ หรือจะเพิ่มไอศกรีมกะทิทั้งลูกก็ได้

     ลีโอกล่าวว่าแม้สูตรน้ำมะพร้าวปั่นแต่ละร้านจะไม่แตกต่างกันนักแต่ที่ CocoBoss จะเน้นใช้วัตถุดิบที่สดใหม่ และเพิ่มรสชาติที่หลากหลายกว่าคู่แข่ง เช่น น้ำมะพร้าวเผาปั่น และน้ำมะพร้าวปั่นรสคาราเมลเกลือซึ่งกลายเป็นเครื่องดื่มลายเซนต์ของทางร้าน นอกจากนั้น ยังมีรสชาติใหม่ๆ ให้ลูกค้าลิ้มลอง อาทิ มะพร้าวปั่นรสชาเขียวมัทฉะ มะพร้าวปั่นรสคุกกี้แอนด์ครีม มะพร้าวปั่นรสอโวคาโด และมะพร้าวปั่นรสเฮเซลนัท





     การกำหนดจุดขายที่รสชาติและความสดใหม่ของวัตถุดิบซึ่งถือเป็นความแตกต่างทำให้ CocoBoss  ตั้งราคาจำหน่ายแก้วละ 5.80-6.90 ดอลลาร์สิงคโปร์ (145-170 บาท) ซึ่งสูงกว่าบรรดาร้านคู่แข่งที่ขายกันเฉลี่ย 4.20-5.50 ดอลลาร์หรือราว 105-135 บาทต่อแก้ว ถึงกระนั้น กลับได้รับการอุดหนุนอย่างท่วมท้น ทำยอดขายวันละหลายร้อยแก้ว ส่วนหนึ่งอาจเป็นผลจากการบอกต่อของลูกค้าและมีการรีวิวในโซเชียลมีเดียทำให้มีผู้ติดตาม CocoBoss เพิ่มมากขึ้น

     ลีโอเผยว่า CocoBoss สาขาแรกใช้เวลาเพียง 4 เดือนก็คืนทุนทำให้ตัดสินใจขยายสาขาอย่างรวดเร็ว รวมแล้ว 6 สาขาในระยะเวลาเพียง 7 เดือนส่วนใหญ่อยู่ตามศูนย์การค้า ลีโอและเบนจามินมีแผนจะขยายร้าน CocoBoss เพิ่มในอนาคต และวาดหวังจะปลุกปั้นให้เป็นแบรนด์ไลฟ์สไตล์ หรือเป็น “สตาร์บัคส์” ในวงการร้านน้ำมะพร้าวปั่น 

     ผู้ก่อตั้ง CocoBoss ยอมรับว่ากระแสน้ำมะพร้าวปั่นที่มาแรงเนื่องจากผู้บริโภคกำลังมองหาเครื่องดื่มทางเลือกใหม่หลังจากที่ผูกติดกับชานมไข่มุกมานาน น้ำมะพร้าวปั่นซึ่งมีภาพลักษณ์ดีกว่าในแง่ของการเป็นเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพเมื่อเทียบกับชานมไข่มุกจึงกลายเป็นกระแสอย่างรวดเร็ว เขาเชื่อว่าเทรนด์น้ำมะพร้าวปั่นจะอยู่ได้นานกว่าชานมไข่มุก และอาจคงอยู่ตลอดไป





     ลีโอกล่าวว่าอันที่จริง หากจับตามองจะเห็นว่าธุรกิจน้ำมะพร้าวปั่นมีการแข่งขันสูงมากเนื่องจากมีผู้เล่นรายใหม่ทะยอยเข้ามาชิงส่วนแบ่งตลาด อย่างไรก็ตาม เขาไม่รู้สึกวิตกแต่อย่างใด ยังคงยึดมั่นกับการคงคุณภาพของสินค้าและบริการให้ต่อเนื่องสม่ำเสมอ ซึ่งถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ CocoBoss ขยายฐานลูกค้าประจำเหนียวแน่นได้เรื่อยๆ 
 

ที่มา :
https://theurbanwire.com/coconut-shakes-the-latest-craze/
https://vulcanpost.com/764499/cocoboss-coconut-shakes-singapore/
 
 
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจ Startup