Text : Vim Viva 

     เรื่องราวมันเกิดขึ้นในบ่ายวันหนึ่งของฤดูร้อนปี 2016 สเปนเซอร์ เคลลี่ เด็กชายวัย 14 จากเมืองเลคโอเรียน รัฐมิชิแกน สหรัฐฯ ได้ทำจักรยานหายหลังจากที่จอดไว้หน้าร้านค้าแห่งหนึ่งเพียงชั่วขณะ จักรยานคันนั้นมีความหมายกับสเปนเซอร์อย่างมากเนื่องจากเป็นพาหนะคันเดียวที่พาเขาไปไหนมาไหนในเมือง อย่างไรก็ตาม บิดาของเขาได้ออกเงิน 300 ดอลลาร์ซื้อจักรยานคันใหม่ให้ก่อนโดยมีเงื่อนไขว่าสเปนเซอร์ต้องจ่ายค่าจักรยานคืนในปลายฤดูร้อน  
 
     ด้วยเหตุนี้ สเปนเซอร์จึงคิดหาวิธีที่จะเริ่มต้นธุรกิจอะไรสักอย่างเพื่อหาเงิน 300 ดอลลาร์มาคืนบิดา ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสำหรับเด็กอย่างเขาที่ถูกวินิจฉัยตั้งแต่ 4 ขวบว่าเป็นแอสเพอร์เกอร์ ซินโดรมซึ่งเป็นภาวะออทิสติกอย่างหนึ่ง สเปนเซอร์ไม่ยอมพูดหรือสื่อสารกับคนรอบข้าง โชคดีที่บิดามารดาเอาใจใส่พาไปพบแพทย์เพื่อบำบัด จนอายุ 7 ขวบเขาก็เริ่มพูดและแสดงความรู้สึกหรือความต้องการ จนสามารถใช้ชีวิตในสังคมได้
 
     ขณะที่คิดวนเวียนเรื่องหาเงินคืนบิดส วันหนึ่ง ขณะกำลังอาบน้ำ สเปนเซอร์ไม่อยากใช้สบู่เหลวที่มารดานำมาวางในห้องน้ำให้ เขาอยากใช้สบู่ก้อนมากกว่า แต่สบู่ก้อนทั่วไปมักมีส่วนผสมของเคมี คนทุกเพศทุกวัยใช้สบู่ แถมใช้เกือบทุกวัน สเปนเซอร์จึงตั้งคำถามกับตัวเองว่าทำไมไม่ทำสบู่ที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติและอ่อนโยนต่อผิวล่ะ



 

     หลังจากตัดสินใจจะทำสบู่ขาย ลำพังเด็กอายุ 14 ปีคนเดียวคงทำเองไม่ไหว สเปนเซอร์รู้ข้อจำกัดนี้ เขาจึงติดต่อผู้เชี่ยวชาญด้านการทำสบู่แบบแฮนด์คราฟท์ให้ผลิตให้ กระทั่งปี 2017 สบู่แฮนด์เมดใช้วัตถุดิบธรรมชาติก็วางจำหน่ายผ่านเว็บไซต์และแพลทฟอร์มออนไลน์ต่างๆ ภายใต้แบรนด์ Expedition สินค้าทุกก้อนตัดและแพ็คเองด้วยมือของสเปนเซอร์ นอกจากสบู่ก้อนแล้ว เขายังจำหน่ายบอดี้บัตเตอร์-ครีมบำรุงผิว และบาธบอมบ์-สบู่แช่ตัวในอ่างน้ำควบคู่กันด้วย   
 
     สเปนเซอร์เล่าว่าสบู่แต่ละก้อนประกอบด้วยน้ำมันที่ดีต่อผิว 5 ชนิด ได้แก่ น้ำมันมะพร้าว น้ำมันมะกอก น้ำมันข้าวโพด น้ำมันถั่วเหลือง และน้ำมันเมล็ดดอกทานตะวัน และมีส่วนผสมของเชียบัตเตอร์ สารสกัดจากเมล็ดเชียที่อุดมด้วยวิตามินเอธรรมชาติ สิ่งที่ทำให้  Expedition แตกต่างจากสบู่อื่นคือการใช้น้ำมันหอมระเหยคุณภาพสูง ปราศจากเคมีและสีสังเคราะห์ ฟองสบู่มีความนุ่มละมุน


 
 

     ในระยะเวลา 2 ปีของการเริ่มธุรกิจ สเปนเซอร์ทำยอดขายไปเกือบ 100,000 ดอลลาร์หรือ 3 ล้านกว่าบาท มีฐานลูกค้ากว่า 2,000 คน หลายคนกลายเป็นลูกค้าประจำ สเปนเซอร์ให้สัมภาษณ์ว่า “การเป็นผู้ประกอบการทำให้ผมรับมือกับภาวะแอสเพอร์เกอร์ซินโดรมได้ดีขึ้น ก่อนหน้านั้น การสื่อสารกับคนรอบข้างไม่ใช่เรื่องง่าย แต่พอมาเริ่มทำธุรกิจ ผมสามารถเอาชนะอุปสรรค มันช่วยเปลี่ยนชีวิตผม  ทำให้ผมมีเป้าหมายและรักในสิ่งที่กำลังทำ”    
 
     ปัจจุบัน Expedition Soap Co. กลายเป็นธุรกิจครอบครัว บิดาและมารดาเข้ามามีส่วนร่วม รวมถึงแกรนท์ น้องชายวัย 16 ที่รับผิดชอบดูแลการผลิต สินค้าของพวกเขาในส่วนที่เป็นสบู่มีให้เลือกมากถึง 73 กลิ่นด้วยกัน นอกจากจำหน่ายออนไลน์แล้ว ยังวางจำหน่ายตามร้านค้าอีกด้วย

 
     สเปนเซอร์ซึ่งขณะนี้อายุ 19 ปีได้วางมือจากธุรกิจชั่วคราวเพื่อศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยโอ้คแลนด์สาขาบริหารธุรกิจ ขณะเดียวกัน เขายังหาเวลาเข้าอบรมเพื่อเพิ่มพูนทักษะในการดำเนินธุรกิจ และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผู้ประกอบการคนอื่น นอกจากนั้น สเปนเซอร์มักได้รับเชิญจากเวทีต่าง  ให้ไปบรรยายเกี่ยวกับธุรกิจของเขาเพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้คนในสังคม



 

     สิ่งหนึ่งที่สเปนเซอร์ได้เรียนรู้จากการเป็นผู้ประกอบการคือไม่มีความสำเร็จใดที่เกิดขึ้นในชั่วข้ามคืน ทุกอย่างต้องผ่านการทำงานอย่างหนัก การดำเนินธุรกิจต้องมาควบคู่กับความรับผิดชอบ อย่ายอมแพ้หรือละเลิกกลางคัน เป้าหมายของสเปนเซอร์คือการเพิ่มยอดขายเท่าตัว และผลักดันธุรกิจให้เติบโต
 
     เขายังกล่าวอีกว่าสิ่งที่ดียิ่งกว่าการเป็นเจ้าของธุรกิจคือการได้ตอบแทนสังคม รายได้ส่วนหนึ่งจากการจำหน่ายสินค้า สเปนเซอร์มอบให้องค์กรที่เคยสนับสนุนเขา เช่น สมาคมออทิสติกสหรัฐฯ และศูนย์ให้ความช่วยเหลือผู้ป่วยออทิสติกมหาวิทยาลัยโอ้คแลนด์ นอกจากนั้น เขายังสร้างเว็บไซต์ ExpeditionSoapsFundraising.com เพื่อเป็นช่องทางระดมทุนช่วยเหลือสังคมอีกด้วย

 
ที่มา
https://detroit.cbslocal.com/2020/01/29/meet-the-teenage-brothers-who-own-expedition-soaps/
www.freep.com/story/money/business/columnists/carol-cain/2018/09/08/soap-business-teen-aspergers-thrive/1206739002/
 
 
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจ Startup