เมื่อความฝันกับวิถีชีวิตที่ต้องเลือกนั้นสวนทางกัน ทำให้อดีตวิศวกรสาวตัดสินใจทิ้งอาชีพที่รักกลับบ้านแล้วสร้างฟาร์มเห็ดของตัวเองจนรายแตะหลักหมื่นขยับสู่หลักแสนในช่วงก่อนโควิด “สายฝน ดวงคำ” ผู้ก่อตั้งฟาร์มเห็ดคุณลุงกะทิ จังหวัดสุรินทร์ที่ใช้ช่องทางออนไลน์ในการโปรโมตธุรกิจของเธอทำให้มีผู้ติดต่อเกือบ 5 พันคนเลยทีเดียว

     โดยเธอเล่าถึงช่วงที่ต้องตัดสินใจกลับบ้าน จากเดิมที่เป็นวิศวกรอยู่จังหวัดนนทบุรี จนเริ่มเข้าลูปเช้าทำงาน เย็นกลับห้องนอน ทำให้เธอกลับมาตั้งคำถามกับชีวิตแต่ฟางเส้นสุดท้ายคือคุณแม่ป่วยหนัก 

     “จุดเปลี่ยนที่ทำให้เรากลับบ้านมาทำฟาร์มเห็ด ตอนนั้นเราทำงานสัก 2-3 ปีมันยังสนุก เรายังรู้สึกท้าทาย แต่พอเริ่มเข้าปีที่ 4 เริ่มมีคำถามว่าทำไมเราต้องตื่นเช้าไปทำงาน มืดกลับบ้าน ทำอย่างนี้ซ้ำๆ ทุกวัน จนรู้สึกว่าแล้วความสุขของเราอยู่ที่การทำงานมีเงินเดือนแล้วกลับมานอน แค่นี้เหรอ? จนเข้าปีที่ 5 แม่ป่วย แล้วเราไม่สามารถไปดูแลแม่ได้ เลยคิดว่างั้นเราตัดสินใจกลับบ้าน”

     หลังจากกลับบ้าน เธอตัดสินใจทำฟาร์มเห็ดในพื้นที่บ้านที่จังหวัดสุรินทร์ โดยสายฝนเล่าว่าฟาร์มเห็ดเป็นเกษตรกรรมที่ทำเงินได้เร็ว 30 วันก็เริ่มมีผลผลิตออกให้เก็บเกี่ยว ต่างจากเกษตรกรรมอื่นๆ โดยเธอลงทุนครั้งแรก 6 แสนบาทจากการทำรถไปรีไฟแนนซ์เพื่อเป็นทุนตั้งตัวในการกลับบ้านครั้งนี้ ใช้เวลาประมาณ 2 ปีก็สามารถคืนทุนได้

     “เดิมทีครอบครัวเราเป็นเกษตรกรที่ทำนาข้าว แต่ไม่ได้มีที่นา เช่าเอาเพื่อส่งให้เราเรียน จนวันที่เราตัดสินใจกลับบ้าน เราคิดว่าฟาร์มเห็ดใช้พื้นที่น้อยและจากที่เราเคยมีเงินเดือนทุกเดือน แต่ตอนนี้ไม่มีเงินเดือนแล้ว เลยคิดว่าจะทำเกษตรอะไรที่ให้เงินเราทุกเดือน ทุกวัน โดยไม่ต้องรอรายปีเหมือยทำนาข้าว หรือปลูกมะม่วง มะพร้าวก็ต้องรอ 3-4 ปีกว่าจะให้ผลผลิต แต่เห็ด 30 วันก็มีผลผลิตและมีรายได้หากเราวางแผน ตอนเริ่มทำครั้งแรกเราใช้พื้นที่แค่ 50 ตารางวา พอเริ่มเป็นไปได้ก็ขยายเป็น 300 ตาราง ลงทุนประมาณ 6 แสนบาท เราไม่มีเงินเก็บเลยเอารถไปรีไฟแนนซ์เพื่อให้ได้เงินมา 1 ก้อน สร้างชีวิตใหม่ ”

     สำหรับจุดเด่นของฟาร์มเห็ดคุณลุงกะทินั้นคือการเป็นฟาร์มเห็ดครบวงจรตั้งแต่การขายก้อนเห็ดจนถึงการแปรรูป นอกจากนี้ยังเลือกปลูกเห็ดสีสันสดใสอย่างเห็ดสีชมพูเพื่อนำไปสร้างเป็นบะหมี่เห็ด เจ้าแรกในประเทศไทยอีกด้วย

     “เราไม่ได้ขายเฉพาะเห็ด แต่เป็นฟาร์มที่ครบวงจร ทั้งก้อนเห็ด ดอกเห็ดและแปรรูปเห็ด ที่หน้าฟาร์มเราจะเปิดเป็นร้านก๋วยเตี๋ยว ทั่วไปก็จะมีเส้นเล็ก เส้นใหญ่ แต่เราเป็นเส้นบะหมี่เห็ด เจ้าแรกของไทยและยังขายให้ลูกค้านำไปทำกินเองได้ด้วย เราใช้ชื่อแบรนด์ว่าฮักธม ฮักแปลว่าความรัก ส่วนธมเป็นภาษาเขมร แปลว่ายิ่งใหญ่ เราต้องการสื่อให้ลูกค้ารู้ว่ากว่าจะมีวันนี้ เราเดินมาด้วยความรักที่อยากส่งให้กับครอบครัว ให้กับคนที่ได้กินของเรา นอกจากนี้ตัวเห็ด ในท้องตลาดจะมีแค่สีดำกับขาว แต่เราเพิ่มสีชมพู สีเหลืองเพื่อนำมาเป็นส่วนผสมของเส้นเห็ดเรา อย่างเห็ดสีทองจะเป็นเห็ดพันธุ์นางรมทอง สีชมพูเป็นเห็ดนางนวลชมพู”

     นอกจากการทำฟาร์มเห็ดแล้ว สายฝนยังเพิ่มรายได้และกระจายความรู้ให้แก่ผู้อื่นด้วยการเปิดคอร์สออนไลน์สอนเพาะถั่วงอกเชิงธุรกิจให้คนที่สนใจด้วย

     “ปกติที่ฟาร์ม เราทำเพาะเห็ดเป็นหลัก แต่มีอีกอย่างที่เราทำคือเพาะถั่วงอก แล้วเราเป็นศูนย์เรียนรู้ให้คนเข้ามาที่ฟาร์ม แต่พอโควิด คนเดินทางมาที่ฟาร์มค่อนข้าวลำบาก เลยคิดว่าทำไงดีให้คนได้เรียนรู้ง่ายขึ้น เก็บค่าคอร์สไม่ได้แพงมาก คนจับต้องได้และทำธุรกิจเลี้ยงครอบครัวได้ เลยเกิดไอเดียทำคอร์สสอนเพาะถั่วงอก เราปลูกถั่วงอกก็จะมีรายได้ประมาณ 3-4 หมื่นต่อเดือน ถ้ารวมๆ รายได้ในฟาร์มช่วงก่อนโควิดก็มีแตะหลักแสน แต่ตอนนี้ก็ดรอปลง”

     สิ่งสำคัญที่ทำให้ฟาร์มเห็ดลุงกะทิประสบความสำเร็จนั่นคือความอดทนและการนำองค์ความรู้เดิมที่มีด้านการทำงานมาปรับใช้กับการทำเกษตร ทำให้ตอนนี้ธุรกิจของเธออยู่ตัวและเต็มไปด้วยความสุขในการทำงานทุกวัน

     “ความอดทนสำคัญมาก บางอย่างไม่ได้สำเร็จจากการที่เราทำครั้งเดียว แต่เกิดจากการทำซ้ำๆ จนชำนาญ นอกจากนี้เรายังนำเอาความรู้ที่เคยเป็นวิศวกร เกี่ยวกับการวางแผนทำงานของพนักงานในโรงงานมาใช้ ทำให้เรากำหนดเป้าหมายและมาปรับให้การทำเกษตเราต่างจากรุ่นพ่อแม่ ที่เขาจะทำเฉพาะฤดูกาล แต่เราเอาความรู้มาวางแผนว่าจะทำยังไงให้มีรายได้เป็นรายวัน รายเดือน รายปี เลยเป็นความสนุกอย่างหนึ่งที่เราสามารถทำอาชีพเดิมในรูปแบบใหม่ และเป็นความสุขที่มากขึ้น เพราะเราได้ใช้ชีวิตกับครอบครัว กับคู่ชีวิตมากขึ้น” เธอเล่าปิดท้าย 

 

 

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจ Startup