Starting a Business
ปูนาช็อกโกแลต ไอเดียหนุ่มออฟฟิศ กลับไปพลิกธุรกิจปูนาหาเงินมากกว่าอาชีพเก่า 5 เท่า
การอุบัติขึ้นของโควิดได้เข้าไปทำลายหลายสิ่งให้สูญสิ้นในชั่วพริบตา ราวกับว่าเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาให้เกิดสิ่งใหม่ๆ ขึ้นมาทดแทน เหมือนกับ วธชสิทธิ์ ศรีสร้อย หรือ ต้า ที่ต้องจบเส้นทางพนักงานออฟฟิศทิ้งเงินเดือนประจำด้วยตำแหน่งสุดท้าย ผู้อำนวยฝ่ายการตลาด บริษัท วิจัยพัฒนาผลิตภัณฑ์สมุนไพร เอกชนแห่งหนึ่ง หันกลับไปตั้งหลักที่บ้านเกิดในจังหวัดขอนแก่น
เมื่อการกลับมาของต้าเข้าถึงหูเพื่อนสนิทที่ทำฟาร์มปูนาจึงมาขอให้หนุ่มวัย 38 ปีคนนี้ช่วยทำการตลาดออนไลน์ สร้างคอนเทนต์และยิงแอดให้ ปรากฏเพียงเดือนเดียว เพื่อนของเขามีรายได้ถึง 2 แสนบาท ณ จุดนั้นทำให้ วธชสิทธิ์ ได้พบเส้นทางธุรกิจใหม่ของตัวเองคือ การเลี้ยงปูนาเชิงธุรกิจครบวงจร ที่สามารถทำรายได้มากกว่าอาชีพเดิมถึง 5 เท่า และยังเป็นผู้บุกเบิกแปรรูปปูนามิติใหม่ Sweet crab กินได้ทั้งตัวเป็นเจ้าแรก
3 เสาหลักในการเริ่มต้นธุรกิจ
อดีตนักการตลาดอย่าง วธชสิทธิ์ เล่าให้ฟังว่าก่อนที่เขาจะตัดสินใจเริ่มธุรกิจนั้นต้องมีองค์ประกอบ 3 อย่าง
1. ความรู้ในสิ่งที่จะทำ
สำหรับเขาถึงแม้จะเกิดต่างจังหวัดแต่ก็ไม่ได้ทำงานเกษตรมาตั้งแต่แรก เมื่อตัดสินใจที่จะทำอาชีพนี้จึงต้องไปหาความรู้เพิ่มเติม ไม่ว่าจะเป็นจากทางออนไลน์ การไปเรียนรู้จากฟาร์มอื่นๆ หรือแม้แต่การสร้าง contract กับฟาร์มใหญ่ๆ เพื่อให้เกิดความรู้ในงานที่ทำให้มากที่สุด
2. Marketing
แน่นอนว่าประสบการณ์ทางด้านการตลาดจากบริษัทเก่าทำให้เขาไม่ลืมที่จะนำมันมาต่อยอดกับธุรกิจของตัวเองในทุกมิติ อาทิ การใช้ story ที่สื่อว่าตัวเองคือ เจ้าของฟาร์มปูนาอาเธอร์ปาร์ค มากกว่าเป็นบริษัท ทำให้มีโอกาสในการเสนอขายสินค้าและได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานราชการ นอกจากนี้เขายังเปิดรับสมาชิกลูกฟาร์มเพื่อรับซื้อปูนา และเปิดรับแฟรนไชส์ที่ต้องการทำธุรกิจแบบเดียวกับเขาทั่วประเทศ ปัจจุบันมีสมาชิกที่เป็นลูกฟาร์ม 100 ฟาร์ม กับอีก 12 แฟรนไชส์
3. การแปรรูป
ในการทำธุรกิจเกษตรของวธชสิทธิ์นั้นองค์ประกอบอย่างหนึ่งที่เขาให้ความสำคัญคือ การนำผลผลิตไปแปรรูปเพื่อต่อยอดและเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้า และด้วยประสบการณ์ในการทำงานที่เกี่ยวกับสมุนไพรบวกกับทักษะทางด้านเชฟ ทำให้หนุ่มคนนี้มองว่าการแปรรูปสินค้าของเขาจะต้องแตกต่างไม่ใช่สินค้าที่มีอยู่ในท้องตลาด
กำเนิดปูนาเคลือบช็อกโกแลต เคลือบสตอร์บอรี่
อีกหนึ่งวิธีที่ทำให้ธุรกิจเลี้ยงปูนาของ วธชสิทธิ์ เติบโตอย่างรวดเร็วก็คือ ในช่วงสองเดือนแรกนั้นเขาเน้นไปที่การแปรรูปปูนาให้เป็นอาหาร เพราะสามารถทำให้เข้าถึงผู้บริโภคได้ง่ายและเร็ว โดยโจทย์ในการแปรรูปของเขาคือ ต้องแตกต่าง จึงนำปูนาที่มีรูปร่างสวยงามเป็นตัวชูโรงในการทำเป็นขนมหวาน ใช้ปูขนาดเล็กต้มน้ำตาล กะทิ ไปฟิวชันกับช็อกโกแลต หรือสตอร์บอรี่เพื่อดับคาว ทำเป็น box set ในหนึ่งกล่องมีปูนาจำนวน 4 ตัว จำหน่ายกล่องละ 149 บาท
“ตอนเริ่มทำฟาร์มผมกู้เงินมา 1 แสนบาท ไปซื้อพ่อพันธุ์แม่พันธุ์เพื่อมาขายเลย ไม่ต้องการมาเสียเวลานั่งเพาะเลี้ยง 3 เดือน 6 เดือน ใช้ความเป็นพ่อค้านำทำให้มีกระแสเงินสดหมุนเวียนตั้งแต่แรก สอง ผมใช้ปูจากแหล่งธรรมชาติที่ราคาไม่แพง มาแปรรูปเป็นปูนาเคลือบช็อกโกแลต กลายเป็นที่สนใจของเหล่ายูทูบเบอร์กระตุ้นให้คนสนใจ ทำให้มีรายได้สองทางและยอดขายทะลุหลักแสนตั้งแต่เดือนแรก”
ครึ่งปีกับธุรกิจใหม่
สำหรับช่วงระยะเวลาเพียง 5-6 เดือนกับธุรกิจตัวใหม่นี้ วธชสิทธิ์ บอกว่าสำหรับเขายังไม่ถือว่าประสบความสำเร็จ เพราะเป้าหมายของเขาคือ ต้องการพัฒนาผลิตภัณฑ์แปรรูปอีกหลายๆ ตัวเพื่อนำไปจำหน่ายใน modern trade
“ปัจจุบันก็มีรายได้มากกว่าตอนเป็น ผอ. 5-6 เท่า รู้สึกสนุก และคิดว่าตลาดยังไปได้อีกมาก ตอนนี้กำลังขอจดสิทธิบัตร ผงมันปูนา ซึ่งได้ทำงานวิจัยร่วมกับอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยขอนแก่น ให้สามารถเก็บในอุณหูภูมิปกติได้ไม่เสีย 1 ปี จะทำให้ขนส่งออกต่างประเทศได้ง่าย เพราะปกติมันปูที่ขายในปัจจุบันต้องฟรีซแข็งเท่านั้นถึงส่งออกได้”
สำหรับการทำธุรกิจเลี้ยงปูนาของหนุ่มขอนแก่นคนนี้มีรายได้มาจาก 3 ช่องทางคือ หนึ่ง ขายพ่อแม่พันธุ์ปูนา 60% สอง การแปรรูป 30% และสาม การเป็นที่ปรึกษา อบรม 10%
"สิ่งที่ผมได้ประสบการณ์จากการทำตรงนี้คือ การทำธุรกิจไม่ต้องมองอะไรใหญ่โตหรือเน้นใช้เทคโนโลยีขั้นสูง เอาสิ่งใกล้ตัวจากแหล่งที่เราอยู่มาต่อยอดจับเป็นธุรกิจสร้างรายได้ และสร้างงานให้กับตัวเองและชุมขน และต้องรู้จักวิธีการทำงาน ซึ่งผมมีหลักในการทำงานคือ ต้องทำให้ตัวเองสบายที่สุด หมายความว่าเราไปอยู่ที่ใดก็ได้ในโลกนี้แล้วงานมันสามารถรันได้ด้วยตัวเอง"
นับเป็นการเริ่มต้นอาชีพใหม่ได้อย่างน่าสนใจ
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจ Startup