Starting a Business

เศรษฐีไม่จำกัดอายุ เปิดเส้นทางธุรกิจลูกกวาด 100 ล้านของสาววัย 15

Text : วิมาลี วิวัฒนกุลพาณิชย์




Main Idea
 
  • “ทำไงถึงจะมีลูกกวาดที่พ่อกับแม่ไม่ห้ามให้กิน” คำถามที่กลายเป็นสารตั้งต้นให้กับสาวน้อย อลีน่า มอร์ส 
 
  • ได้ใช้เวลาร่วม 2 ปีพัฒนาลูกอมที่ดี และกลายเป็นผู้ก่อตั้ง Zolli Candy แบรนด์ลูกกวาดลูกอมที่ทำยอดขายเป็นอันดับ 7 ในเว็บไซต์อเมซอน 



     เชื่อว่ามีเด็กหลายคนฝันถึงการเป็นเจ้าของกิจการตั้งแต่อายุยังน้อย แต่จะมีสักกี่คนที่สานฝันให้เป็นจริงได้ อลีน่า มอร์ส สาวน้อยวัย 15 ปีจากเมืองวูล์ฟเวอรีน รัฐมิชิแกน สหรัฐอเมริกา เป็นหนึ่งใน Kidpreneur หรือผู้ประกอบการเด็ก ที่เรียกได้ว่าประสบความสำเร็จมากที่สุดคนหนึ่ง เธอเป็นผู้ก่อตั้ง Zolli Candy แบรนด์ลูกกวาดลูกอมที่ทำยอดขายเป็นอันดับ 7 ในเว็บไซต์อเมซอน สินค้าของเธอยังวางจำหน่ายตามซูเปอร์มาร์เก็ตและร้านค้าปลีกราว 25,000 แห่งทั่วสหรัฐฯ บริษัทของเธอเติบโตแบบก้าวกระโดดอย่างมาก ปี พ.ศ.2562 ที่ผ่านมา เธอกวาดรายได้จากการขายลูกกวาด 3.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 115 ล้านบาท





     ย้อนกลับไปในวันหนึ่งของปี พ.ศ.2555 อลีน่าติดตามคุณพ่อไปธนาคาร ระหว่างที่รอคุณพ่อทำธุรกรรม พนักงานธนาคารได้ยื่นลูกกวาดให้ อลีน่าได้แต่มองตาละห้อยเพราะเธอได้รับการปลูกฝังจากครอบครัวว่าลูกอมหวานๆ ทำให้ฟันผุ


     เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในธนาคารทำให้เธอตั้งคำถามว่า “ทำไงถึงจะมีลูกกวาดที่พ่อกับแม่ไม่ห้ามให้กิน เป็นไปได้ไหมที่จะผลิตลูกกวาดเพื่อสุขภาพออกมา” อลีน่าเฝ้าถามคำถามนี้ซ้ำๆ กับคุณพ่อ จนในที่สุดเธอก็ลงมือศึกษาและหาสูตรทำลูกกวาดดีๆ โดยค้นข้อมูลจากอินเทอร์เน็ต และดูคลิปในยูทูบ ใช้เวลาลองผิดลองถูกในครัวที่บ้านอยู่นาน 2 ปี จึงได้สินค้าต้นแบบออกมา


     ยังไม่พอ ด้วยความช่วยเหลือของผู้ปกครอง เธอยังร่วมมือกับทันตแพทย์ของเธอ และนักวิทยาศาสตร์การอาหาร (Food Scientist) พัฒนาสูตรลูกกวาดให้ดียิ่งขึ้น จนได้สูตรผสมที่ลงตัวระหว่างสารให้ความหวาน อิริทริทอล (Erythritol) กับไซลิทอล (Xylitol) รวมถึงการใช้หญ้าหวานด้วย ในขณะที่ส่วนผสมอื่นๆ ล้วนมาจากธรรมชาติทั้งสิ้น กระทั่งสีที่ใช้ผสมก็มาจากพืช เช่น บีทรูต และขมิ้น





     หลังจากนั้นคุณพ่อได้พาเธอตระเวนชมโรงงานต่างๆ ในรัฐมิชิแกนเพื่อคัดเลือกโรงงานที่จะมาผลิตลูกกวาดของอลีน่า ท้ายที่สุด ด้วยระยะเวลา 2 ปีในการคิดค้นสูตรบวกกับเงินออม 3,750 ดอลลาร์ฯ อลีน่าก็ได้ฤกษ์แนะนำ Zollipops เข้าสู่ตลาดในปี พ.ศ.2557 ในตอนที่เธอมีอายุเพียง 9 ขวบเท่านั้น โดยชื่อ Zollipops มีที่มาจากการที่โลล่า น้องสาวที่อายุน้อยกว่า 4 ปีของอลีน่าออกเสียง Xylitol ซึ่งเป็นส่วนผสมในลูกกวาดไม่ชัด  


     ด้วยคุณสมบัติที่ต่างจากลูกกวาดทั่วไป กล่าวคือ ไม่มีส่วนผสมหลายอย่าง ได้แก่ น้ำตาล กลูเตน ผลิตภัณฑ์จากนม ปลอดจีเอ็มโอ และเป็นขนมที่วีแกนรับประทานได้ อลีน่ากล้าที่จะประกาศว่า Zollipops คือ ลูกกวาดเพื่อสุขภาพช่องปากแบรนด์แรกของโลก ใช่ว่าเป็นการกล่าวอ้างลอยๆ เพราะหลายงานวิจัย รวมถึงผลการศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสาร International Journal of Dentistry ให้การยอมรับว่าลูกกวาด Zollipops มีสรรพคุณช่วยทำความสะอาดในช่องปาก ลดคราบหินปูนและแบคทีเรีย  


     ในปีแรกที่วางตลาด Zollipops ทำยอดขายได้ 70,000 ชิ้น แต่หลังจากที่ซูเปอร์มาร์เก็ต Whole Foods เป็นค้าปลีกเจ้าแรกที่นำ Zollipops ไปจำหน่ายก็ทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้นเท่าตัวเป็นเวลา 4 ปีติดต่อกัน ก่อนจะขยายไปยังห้างสรรพสินค้าและร้านค้าปลีกอื่นๆ เช่น วอลมาร์ท ทาร์เก็ต โครเกอร์ ฯลฯ และมีการพัฒนารสชาติเพิ่มขึ้นรวม 7 รสด้วยกัน ได้แก่ Zollipops, Zolli Drops, Zaffi Taffy, Zolli Caramelz, Zolli Gumeez, Zolli Beanz และ Zolli Ball Pops





     การเติบโตของธุรกิจทำให้สมาชิกในครอบครัว คุณพ่อซึ่งทำงานในตำแหน่งที่ปรึกษา บริษัทดีลอยต์ บริษัทตรวจสอบบัญชีชื่อดัง และคุณแม่ซึ่งอยู่ฝ่ายขาย ต้องเข้ามาช่วยงานเต็มตัว โดยคุณพ่อนั่งเก้าอี้ผู้จัดการ ส่วนคุณแม่ดูแลประสานงานทั่วไป ขณะที่น้องสาวรับหน้าที่ถ่ายคลิปลงในแชนนัลยูทูบของบริษัท ส่วนอลีน่าซึ่งกำลังเรียนมัธยมก็ใช้เวลาหลังกลับจากโรงเรียนดูแลกิจการ


     Zolli Candy ได้รับการจัดอันดับเป็น 1 ในบริษัทเอกชนที่เติบโตเร็วสุด โดยปี พ.ศ.2562 ที่ผ่านมา ทำยอดขายรวม 3.7 ล้านดอลลาร์ฯ หรือราว 115 ล้านบาท และยอดขายในเดือนพฤษภาคมปีนี้ ซึ่งตรงกับช่วงเทศกาลอีสเตอร์ มียอดจำหน่ายผ่านอเมซอน อี-คอมเมิร์ซรายใหญ่ของอเมริกาถล่มทลายมาก ดันให้รายได้โตมากกว่า 250 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับเทศกาลอีสเตอร์ปีที่แล้ว


     อลีน่ากล่าวว่าเป็นอานิสงส์จากการระบาดของโควิด-19 การต้องกักตัวเองอยู่ในบ้านเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อ ทำให้ผู้คนหันมาซื้อสินค้าออนไลน์มากขึ้น เมื่อบวกกับการใส่ใจสุขภาพ และระมัดระวังเรื่องการกิน สินค้าของ Zolli Candy จึงขายดิบขายดี


     เมื่อประสบความสำเร็จระดับหนึ่ง อลีน่าก็ตอบแทนสังคมด้วยการบริจาคเงิน 10 เปอร์เซ็นต์จากกำไรทั้งหมดเข้าโครงการ One Million Smiles เพื่อดูแลสุขภาพช่องปากและบรรเทาปัญหาฟันผุในเยาวชน นอกจากนั้น เธอยังเป็นตัวแทนของนักธุรกิจหญิงอายุน้อยสุดที่ได้ขึ้นปกนิตยสาร Entrepreneur และอยู่ในรายชื่อ 5,000 ซีอีโอของนิตยสาร INC ที่บริษัทเติบโตเร็วสุด โดยธุรกิจของเธอขยายตัวมากถึง 696 เปอร์เซ็นต์ในเวลา 3 ปี   


     ด้วยวัยเพียง 15 ปี และมีประสบการณ์ในการดูแลธุรกิจมาแล้ว 6 ปี อลีน่าประสบความสำเร็จเร็วมากเมื่อเทียบกับหลายคน เส้นทางธุรกิจของเด็กวัยรุ่นคนนี้ยังทอดไปอีกยาวไกล หลังจบไฮสกูล เป้าหมายต่อไปของอลีน่าคือ การเรียนต่อระดับอุดมศึกษาในสาขาที่เอื้อต่อการดำเนินธุรกิจในอนาคต และนี่คือเรื่องราวของ Kidpreneur ที่ไม่เพียงแต่ฝัน แต่ยังลงมือทำความฝันให้เป็นจริงอีกด้วย
 

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจ Startup