Text : วิมาลี วิวัฒนกุลพาณิชย์



 
 Main Idea
 

• ที่มาเลเซีย มีธุรกิจถุงยางอนามัยจากผู้ประกอบการรายย่อยที่เพิ่งเปิดตัวไปหมาดๆ ใช้ชื่อว่า “P’sang”

 

• ด้วยความเป็นแบรนด์น้องใหม่ในตลาด จึงฉีกรูปแบบถุงยางอนามัยแบบเดิมๆ ไม่ว่าจะเป็นแพ็กเกจจิ้งที่มาในถ้วยเล็กๆ มีฝาซีลเลียนแบบแพ็กเกจจิ้งเนยในโรงแรม ไปจนถึงรสชาติที่ฉาบเคลือบบนถุงยางอนามัยกว่า 100 รสชาติ

 



     ต้องยอมรับว่าถุงยางอนามัยหรือคอนด้อมเป็นธุรกิจหนึ่งที่มักผูกขาดโดยแบรนด์ใหญ่ข้ามชาติที่มีเพียงไม่กี่รายทั้งที่ตลาดถุงยางอนามัยนั้นเป็นตลาดใหญ่และสร้างรายได้มหาศาล  ข้อมูลจากบริษัทวิจัยตลาดระบุผลจากการให้ความรู้ด้านเพศศึกษาเพื่อป้องกันโรคอันเกิดจากการมีเพศสัมพันธ์ และโครงการวางแผนครอบครัวในประเทศต่างๆ โดยเฉพาะประเทศกำลังพัฒนาทำให้ตลาดถุงยางอนามัยขยายตัวต่อเนื่องมาโดยตลอด

     มีการประเมินว่าตลาดถุงยางอนามัยโลกในปี 2022 จะมีมูลค่า 11,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯหรือราว  3.5 แสนล้านบาท และแน่นอนว่าแบรนด์ที่ยังครองความเป็นอันดับ 1 ก็คือดูเร็กซ์จากประเทศอังกฤษ ที่มาเลเซีย มีธุรกิจถุงยางอนามัยจากผู้ประกอบการรายย่อยที่เพิ่งเปิดตัวไปหมาดๆ ในปลายเดือนกพ.ปีนี้ เป็นแบรนด์น้องใหม่ในตลาดใช้ชื่อว่า “P’sang” ถือเป็นแบรนด์ท้องถิ่นรายแรกที่ฉีกรูปแบบถุงยางอนามัยแบบเดิมๆ ไม่ว่าจะเป็นแพ็กเกจจิ้งที่มาในถ้วยเล็กๆ มีฝาซีลเลียนแบบแพ็กเกจจิ้งเนยและแยมในโรงแรม ไปจนถึงรสชาติที่ฉาบเคลือบบนถุงยางอนามัยที่ออกแบบไว้กว่า 100 รสชาติ

     ผู้ริเริ่มแบรนด์ P’sang  คือ เจฟฟ์ ชิน นักจัดรายการวิทยุทางคลื่น My.FM และวิทยากรผู้เดินสายบรรยายเกี่ยวกับการทำการตลาดผ่านโซเชียลมีเดีย เจฟฟ์ได้ลงขันกับหุ้นส่วนอีก 2 คนในการทำธุรกิจถุงยางอนามัยโดยสืบเนื่องจากประสบการณ์ส่วนตัวในการซื้อถุงยางอนามัยมาใช้และพบว่ามีตัวเลือกน้อย ไม่มีความหลากหลาย และผูกขาดโดยแบรนด์ใหญ่ นอกจากนั้น การไปยืนพินิจพิจารณาเพื่อเลือกถุงยางอนามัยในร้านสะดวกซื้อยังทำให้รู้สึกอึดอัดเมื่อมีสายตาของคนรอบข้างจับจ้อง ด้วยเหตุนี้ เขาจึงหวังว่าธุรกิจจำหน่ายถุงยางอนามัยทางออนไลน์จะช่วยตอบโจทย์ในเรื่องนี้ด้วย
              
     อีกอย่างหนึ่งที่ทำให้เขาสนใจธุรกิจถุงยางอนามัยคือการได้มีโอกาสเยี่ยมชมโรงงานผลิตถุงยางอนามัยและทึ่งในเทคโนโลยีการผลิต จึงเกิดจินตนาการว่าจะเป็นอย่างไรถ้ามีถุงยางนับร้อยพันรสชาติให้ลูกค้าเลือก และมีการออกแบบแพ็กเกจจิ้งให้สร้างสรรค์กว่าของเดิมๆ ที่ขายในตลาด หลังเสร็จสิ้นการเยี่ยมชมโรงงาน เขาก็ได้แรงบันดาลใจในการเปลี่ยนตลาดถุงยางอนามัยในมาเลเซียและในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ให้มีนวัตกรรมขึ้น ถุงยางอนามัยจะไม่ใช่สินค้าที่ตอบสนองความต้องการพื้นฐานแต่ต้องนำมาซึ่งประสบการณ์ใหม่ๆ แก่ผู้ใช้ด้วย

     เจฟฟ์มองว่าตลาดถุงยางอนามัยในปัจจุบันครองส่วนแบ่งโดยแบรนด์ใหญ่ไม่กี่ราย และแบรนด์เหล่านั้นโดยมากเน้นที่การทำแคมเปญการตลาดมากกว่าตัวสินค้า ดังนั้น ถุงยางอนามัยจึงน่าเบื่อเพราะไม่มีอะไรใหม่ๆ นำเสนอ สำหรับถุงยางอนามัย P’sang เจฟฟ์บอกพิถีพิถันทุกรายละเอียด เขาเริ่มทำ R&D หรือการวิจัยและพัฒนาตั้งแต่ปี 2017 และต้องเลื่อนการเปิดตัวออกไป 2 ครั้งเพื่อให้แน่ใจว่าคุณภาพเต็มร้อย และผ่านมาตรฐานการตรวจสอบ

     ในการทำวิจัยตลาดแบบ blind test เจฟฟ์ใช้วิธีให้ทีมงานปิดตาและวางถุงยางอนามัยบนลิ้นให้ชิมรสชาติเพื่อแยกความแตกต่าง และจดจำรสชาติ และประเมินว่ารสชาติไหนที่น่าจะโดนใจผู้บริโภค  ใช้เวลาพัฒนาสินค้าอยู่ 13 เดือนก็ได้เวลาเปิดตัว 5 รุ่นด้วยกัน ได้แก่ Ori, Asian Fit, 1+1+1, Zer0 และ Bubblegum โดยช่วงแรกแนะนำหลายรสชาติที่ไม่มีในตลาด อาทิ รสกาแฟบราซิล รสแชมเปญ รสแอปเปิล และรสวิสกี้ โดยที่ออกแบบไว้มีหลายร้อยรสชาติ ซึ่งจะทะยอยเปิดตัวเป็นระลอกๆ

     และอีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้ P’sang แตกต่างจากถุงยางอนามัยยี่ห้ออื่นคือแพ็กเกจจิ้งที่เลียนแบบแพ็กเกจจิ้งเนยและแยมแบบ individual pack คือเป็นถ้วยขนาดเล็กทรงตื้นมีฝาซีลที่เปิดได้ด้วยมือข้างเดียว เจฟฟ์กล่าวว่าแพ็กเกจแบบนี้ดูไม่ประเจิดประเจ้อ เพราะคนส่วนใญ่ดูไม่ออกว่าคืออะไร ทำให้ผู้พกพาถุงยางอนามัยลดความเหนียมอายลงได้

     ช่วงก่อนการเปิดตัวสินค้าในตลาดอย่างเป็นทางการ เจฟฟ์ได้ทำแคมเปญ soft opening โดยแนะนำสินค้า แนะนำเว็บไซต์ผ่านเฟซบุ๊กและโซเชียลมีเดีย พร้อมกับแจกตัวอย่างให้ลูกค้าทดลองใช้ฟรี 1,000 ชิ้นเพียงลูกค้าแชร์ข้อความและติดแฮชแท็ก P’sang ผลคือมีผู้ร่วมกิจกรรมจำนวนมาก และแม้ไม่ทันเปิดตัวอย่างเป็นทางการ เว็บไซต์จำหน่ายถุงยางอนามัยออนไลน์แบรนด์ P’sang ก็มีผู้คนสมัครสมาชิกแล้วกว่า 10,000 ราย เรียกว่าเป็นนิมิตหมายอันสำหรับการเริ่มต้นธุรกิจใหม่
 

ที่มา : https://vulcanpost.com/657136/psang-msian-condom-startup-buttercup-packaging/
 

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจ Startup