โดยปกติ MASS STUDIO จะเปิดคอร์สเรียนด้านศิลปะและดีไซน์เพื่อเตรียมความพร้อมสู่มหาวิทยาลัย ซึ่งในแต่ละปีมีนักเรียนสามารถสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้เป็นจำนวนมาก และด้วยความคุ้นเคยกับนักเรียนเหล่านั้น สมพล รุ่งยุคันต์ จึงเปิดสอนเวิร์กช็อปแล้วชักชวนนักเรียนที่ได้ไปเติมเต็มวิชาความรู้ต่างๆ ในรั้วมหาวิทยาลัยกลับมาสอนที่ MASS STUDIO ดังนั้น ที่ MASS STUDIO จึงเปิดสอนเวิร์กช็อปที่หลากหลายสลับหมุนเวียนกันไป

     “เริ่มจากว่าเราอยากให้วันเสาร์-อาทิตย์มีกิจกรรมสำหรับบุคคลทั่วไปที่ไม่ใช่นักเรียน ตอนแรกเลยเปิดเป็นคอร์สศิลปะ สีน้ำ จากนั้นก็มีคอร์สเกี่ยวกับงานฝีมือตามมาอีกมากมาย รวมๆ แล้วตอนนี้เรามีเวิร์กช็อปหลายคอร์ส เช่น สีน้ำ สีน้ำมัน จิวเวลรี่ จัดดอกไม้ เซรามิก สมุดทำมือ ปักผ้า เป็นต้น โดยจะเปิดหมุนเวียนสลับกันไปแล้วแต่ตลาดว่าช่วงนั้นคนกำลังสนใจอะไร”

     อย่างเช่น ครูจือ-ชุติกาญจน์ แต่งประกอบ เป็นครูที่สอนคอร์สปักผ้า ร้อยไหม โดยครูจืออธิบายขั้นตอนการเรียนคร่าวๆ ให้ฟังว่า การสอนเทคนิคการปักผ้าด้วยมือจะเริ่มต้นตั้งแต่ลายพื้นฐาน จนนำมาสร้างสรรค์ผลงานในรูปแบบของตนเองได้ ซึ่งผู้มาเรียนไม่จำเป็นต้องมีความรู้พื้นฐานมาก่อนก็สามารถมาเรียนได้ เพราะจะสอนพื้นฐานในการขึ้นรูป และ 4 เทคนิคหลักที่ใช้ในการปักผ้า เช่น ถมแบบฟันปลา ถมแบบโซ่ เดินเส้นแบบโซ่ การปักปมฝรั่งเศส เพื่อให้เอาไปปรับใช้ของตนเอง โดยเมื่อเรียนจบคอร์สในวันนั้น แล้วนำกลับไปปักต่อที่บ้านจนแล้วเสร็จ ครูจือจะให้ถ่ายรูปชิ้นงานนั้นแล้วส่งรูปมาให้ดูเพื่อตรวจและคอมเมนต์เพิ่มเติมอีกครั้ง





     “การสอนเทคนิคต่างๆ จะเดินสอนเป็นรายคน เพราะแต่ละคนต้องการเทคนิคที่ต่างกัน เช่น ถ้าจะปักรูปนี้จะต้องใช้เทคนิคอะไร จะต้องแก้ปัญหาหรือจัดการยังไง แรกๆ บางคนที่เพิ่งเริ่มมาปักผ้าฝีเข็มก็อาจจะไม่สม่ำเสมอ บ้างดูไม่เรียบร้อยไปบ้าง ต้องอาศัยการฝึกฝนไปเรื่อยๆ แต่การทำงานปักผ้าจะไม่มีสูตรตายตัวไม่มีถูกไม่มีผิด ฝีเข็มของแต่ละคนจะเหมือนเป็นลายเซ็นเฉพาะของตนเอง เช่น มีผู้ชายคนหนึ่งที่มาเรียนกับเรา แรกๆ ที่เขาทำจะดูฝืนๆ แต่เมื่อปล่อยให้เขาทำไปเรื่อยๆ เขาก็สามารถทำออกมาได้ งานปักของเขาจะเป็นลายมือผู้ชายดูสเปะสะปะบ้าง แต่ก็ยังดูเป็นงานศิลปะ ซึ่งจะได้อีกอารมณ์หนึ่ง”





     สำหรับคอร์สปักผ้า ร้อยไหมนี้จะรับคอร์สละไม่เกิน 12 คน ใช้เวลาเรียน 10.00-17.00 น. ซึ่งนอกจากปักผ้าบนสะดึงแล้ว ยังเปิดคอร์สปักบนหมวกอีกด้วย   

     ขณะที่ ครูต้า-กีตารัตน์ มโนสมุทร ซึ่งสอนสมุดเย็บมือ หรือ Bookbinding และการทำสแครปบุ๊ก (Scrapbook) บอกว่า เดี๋ยวนี้คนนิยมทำสมุดเย็บมือมากขึ้น ทั้งเพื่อใช้เป็นสมุดบันทึกของตนเอง เป็นของขวัญ และเพื่อนำไปขาย ซึ่งจริงๆ แล้วเทคนิคการเย็บสันในโลกนี้มีมากถึงร่วม 100 แบบ แต่ในการสอนจะเลือกเย็บสมุดแบบลวดลายที่เข้าใจได้ไม่ยาก ซึ่งผู้มาเรียนจะได้เรียนเทคนิคการเย็บสันและได้ตกแต่งหน้าปกตามสไตล์ตัวเอง อีกทั้งจะได้รับอุปกรณ์การเย็บเบื้องต้น เข็ม เหล็กเจาะกระดาษ เชือกกลับไปด้วยคนละ 1 ชุด





      “คนที่มาเรียนทำสมุดเย็บมือ ต้องรู้จักการประดิดประดอยพอสมควร เพราะจะต้องมีการเลือกโน่นนี่มาผสมกัน เป็นอะไรที่ทำเองทุกอย่าง ตั้งแต่เลือกกระดาษ ตกแต่งหน้าปก เลือกแบบ และต้องชอบงานแฮนด์เมด เพราะบางคนจะรู้สึกว่า สมุดสามารถหาซื้อได้ง่าย ไม่จำเป็นต้องมานั่งทำ แต่นี่กว่าจะได้เล่มหนึ่งต้องใช้เวลา”

     สำหรับคอร์สเย็บสัน ทำปกนี้จะรับนักเรียนคอร์สละ 10 คนเท่านั้น และจะมีการเปิดสอนส่วนตัวสำหรับคนที่ต้องการเรียนเดี่ยวๆ กับครู และไม่ว่างวันเสาร์-อาทิตย์ด้วย  
 
     ปักผ้า ร้อยไหม บนสะดึง 2,000 บาท หมวก 2,300 บาท
     เย็บสัน ทำปก 1,500-2,000 บาท (กลุ่มและตัวต่อตัว)
 
     โทร. 08-9020-0322
     FB : MASS STUDIO

 
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี