แม้จะมีของใช้สุนัขประเภทปลอกคอให้เลือกซื้อหลายแบรนด์ แต่แบรนด์ที่ขายปลอกคอพร้อมโบและเป็นงานแฮนด์เมดกลับไม่มีให้เห็นเท่าไหร่ ศุภฤกษ์ โชคเป็นธรรม จึงจับมือน้องสาว ศศิกาญจน์ โชคเป็นธรรม สร้างแบรนด์ของใช้สุนัขในชื่อ HUMAN & HOUND ที่มีจุดเด่นที่ความเป็นแฮนด์เมด

     “เราตัดสินใจทำแบรนด์ HUMAN & HOUND หลังจากไปเห็นปลอกคอสุนัขในแคนาดาและสหรัฐฯ ซึ่งเป็นงานแฮนด์เมดและรับทำแบบ Made to Order และเมื่อมองกลับมาที่บ้านเราก็เห็นว่าของใช้สุนัขที่เป็นงานแฮนด์เมดไม่ค่อยมีให้เห็นมากเท่าไหร่ นี่จึงเป็นเหมือนโอกาสทางการตลาดที่ต้องรีบคว้าไว้ ตอนนี้แบรนด์มีสินค้าหลักเป็นปลอกคอพร้อมโบ สายจูง สายรัดอก เสื้อ และเชือกจูงที่เพิ่งออกมาเมื่อเร็วๆ นี้” ศุภฤกษ์กล่าว

     ปลอกคอพร้อมโบเป็นสินค้าที่ทำให้แบรนด์ HUMAN & HOUND กลายเป็นที่รู้จัก เพราะเป็นสินค้าใหม่ในตลาดของใช้สุนัขในช่วง 2 ปีก่อนหน้านี้ ผ้าที่ใช้ตัดโบเป็นผ้าคอตตอนจึงทำให้โบอยู่ทรง มีลวดลายให้เลือกทั้งลายที่เห็นได้ทั่วไปในท้องตลาด เช่น ลายจุด ลายตาราง ลายดอก และลายที่ทางแบรนด์ออกแบบเองอย่างลายไทยที่ได้แรงบันดาลใจจากลายผ้าไทย และมีกลิ่นอายความเป็นไทยผสานกับความร่วมสมัย

     นอกจากนี้ สินค้าประเภทอื่นของแบรนด์อย่างเสื้อสุนัขตัดจากผ้าแคนวาส เพราะเนื้อผ้าหนาจึงไม่ขาดง่าย เน้นใช้สีพื้น และเสื้อใส่ได้สองด้าน โดยแต่ละด้านมีสีต่างกัน เช่น สีแดง-น้ำตาล และสีเขียวมะกอก-น้ำตาล ส่วนเชือกจูงถักจากคอตตอน 100 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งมีความแข็งแรงและให้สัมผัสที่นุ่มมือ จึงมั่นใจได้ว่าถ้าต้องทำธุระอื่นขณะจูงสุนัขหรือจับเชือกหลวมๆ แล้วสุนัขดึงเชือก เชือกจะไม่บาดมือแน่นอน สีของเชือกจูงมีทั้งที่ย้อมมาจากโรงงาน และสองพี่น้องเจ้าของแบรนด์ย้อมเอง โดยย้อมไล่โทนสีจากโทนสีเข้มไปหาโทนสีอ่อน

     “จุดเด่นของแบรนด์ HUMAN & HOUND อยู่ที่ 1.มีสินค้าสำหรับสุนัขอยู่หลายประเภท และมีสินค้าสำหรับคนเลี้ยงสุนัขอย่างผ้าพันคอที่ใช้ผ้าซาตินเพราะให้สัมผัสนุ่มลื่น ไม่บาดผิว ส่วนผ้าพันคอสุนัขใช้ผ้าคอตตอน 2.สินค้าทุกชิ้นเป็นงานแฮนด์เมดและรับสั่งทำแบบ Made to Order ลูกค้าสามารถปรับเปลี่ยนไซส์ ลาย หรือสีของด้ายได้ตามชอบ เช่น เสื้อสุนัขสามารถเปลี่ยนจากสีพื้นเป็นลายที่ชอบได้ แต่ด้านหนึ่งของเสื้อต้องเป็นผ้าแคนวาสเพื่อให้เสื้อมีความแข็งแรง 3.ลายผ้าบางลายตัดออกมาแล้วได้ลายไม่เหมือนกัน เช่น ลายตารางที่ตัดออกมาให้ริ้วไม่เหมือนกันได้ 5 สี และ 4.ใช้วัสดุที่มีความแข็งแรง เช่น ผ้าแคนวาส ตัวล็อกทองเหลือง และตัวล็อกแบบซิงค์เคลือบสี” ศศิกาญจน์กล่าว

     ในส่วนของการทำการตลาดออนไลน์ ศุภฤกษ์เล่าให้ฟังว่า เขาเลือกใช้วิธีการจัดแคมเปญแทนการซื้อโฆษณา เพราะแม้การซื้อโฆษณาจะได้ยอดไลค์และยอดผู้ติดตามเพจเพิ่ม แต่ยอดขายไม่เพิ่ม เพราะคนที่กดไลค์ กดติดตามไม่ใช่กลุ่มลูกค้าของแบรนด์เสมอไป ส่วนการจัดแคมเปญช่วยเพิ่มยอดขายได้มากเพราะเข้าถึงกลุ่มลูกค้ามากกว่า สำหรับแคมเปญที่ทำให้ HUMAN & HOUND เป็นที่รู้จัก คือ แคมเปญ 1 แชร์ = 1 บาท จัดร่วมกับ Soidog มูลนิธิเพื่อสุนัขในซอย ทั้งนี้ เจ้าของแบรนด์ต้องชี้แจงยอดบริจาคทั้งหมดและหน่วยงานที่รับบริจาคให้คนที่ร่วมแคมเปญได้ทราบเพื่อให้พวกเขามั่นใจว่า ทางแบรนด์บริจาคเงินจริง นอกเหนือจากนี้ การส่งสินค้าให้สุนัขเซเลบริตีใช้ก็ช่วยเพิ่มยอดขายได้มากเช่นกัน เพราะเมื่อคนเลี้ยงสุนัขที่ติดตามเพจเหล่านี้เห็นว่าสินค้าสวย น่าใช้ และคนเลี้ยงสุนัขเซเลบฯ เองก็ประทับใจในสินค้า พวกเขาจะตามมาซื้อและถ้าใช้ดีจริงจะมีการบอกต่อในกลุ่มคนเลี้ยงสุนัข

     ทั้งนี้ ศุภฤกษ์ได้พูดเสริมอีกว่า การขายสินค้าในหลายๆ ช่องทางออนไลน์เป็นผลดีกับธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจที่ต้องการเจาะกลุ่มลูกค้าต่างประเทศ เพราะคนแต่ละประเทศช้อปปิงออนไลน์ในช่องทางที่ต่างกัน เช่น ลูกค้าโซนยุโรป สหรัฐฯ ช้อปปิงผ่านเว็บไซต์ของแบรนด์ และ Esty ลูกค้าโซนเอเชียช้อปปิงผ่าน Pinkoi และลูกค้าไทยช้อปปิงออนไลน์ผ่านเฟซบุ๊ก

     ท้ายสุด ศศิกาญจน์มีข้อแนะนำดีๆ สำหรับว่าที่ผู้ประกอบการว่า ไม่ว่าจะทำธุรกิจใดๆ ก็ตามต้องวางตำแหน่งของแบรนด์ให้ชัด รู้ว่าแบรนด์จะอยู่ส่วนไหนของตลาด กลุ่มลูกค้าคือใคร และดูความต้องการของตลาด เพราะต่อให้สินค้าดี สินค้าล้ำแค่ไหน แต่ถ้าตลาดไม่ต้องการก็ขายไม่ได้

     Facebook : HumanAndHound

     Instagram : Human.n.Hound

     Line : Human.n.Hound

     Etsy : HumanNHound

     Pinkoi : human-n-hound
 


www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี