เคยชิมกันหรือยัง สายไหมรสชาติผลไม้ ส้ม ทุเรียน มะม่วง มะพร้าว ฯลฯ สีสันสวยสะดุดตา เนื้อละเอียด ละลายในปาก ที่สำคัญไม่หวานมากจนเกินไป ส่วนเครปก็มีทั้ง ชาไทย ชาโคล มัทฉะกรีนที ที่เหนียวนุ่ม และมีกลิ่นหอมชวนให้ลิ้มลอง หรือจะรับประทานกับไอศกรีม ด้วยการนำมาเป็นท็อปปิ้ง ก็แปลกใหม่แถมยังมีรสชาติที่เข้ากันกับไอศกรีมอย่างไม่คาดคิดมาก่อน ดูไปแล้วแทบไม่น่าเชื่อว่านี่คือสายไหมขนมจากภูมิปัญญาไทย 

     ทั้งหมดนี้เกิดจากแนวคิดของ แจน-เจนนิสา คูวินิชกุล เจ้าของโรตีสายไหมพันธุ์ใหม่ Candy Crepe ที่ต้องการยกระดับโรตีสายไหมให้เทียบชั้นขนมฝรั่งอย่างเค้กและมาการอง

     “จริงๆ แล้ว โรตีสายไหมนี่อร่อยไม่แพ้เค้กหรือมาการองเลย เป็นขนมที่มีเสน่ห์ในตัวของมันเอง หากินไม่ง่ายเพราะต้องไปถึงจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่สำคัญสายไหมจะมีความลงตัวทั้งสีสัน รสชาติ ดูแล้วมีความสุข ซึ่งต่างชาติเองก็ไม่เคยเห็นสายไหมที่มีลักษณะเป็นเส้นผมอย่างของบ้านเรามาก่อน เลยมีแนวคิดที่จะนำมาสร้างมูลค่าเพิ่มเพราะเชื่อว่าหากนำมาต่อยอดจะทำอะไรได้หลายอย่างสามารถสร้างความแตกต่างให้แก่ขนมชนิดนี้โดยเฉพาะการส่งออกต่างประเทศ”
                 
     อย่างไรก็ตาม ความท้าทายในการยกระดับขนมภูมิปัญญาชาวบ้านให้ขึ้นห้างและโกอินเตอร์นั้นก็ไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเจนนิสา ต้องลงมือทำสองส่วนควบคู่กันไป นั่นคือการสร้างต่อยอดในแง่ความคิดสร้างสรรค์ การพัฒนาสูตร การแปลงโฉมให้มีความหลากหลายและแปลกใหม่ ซึ่งในส่วนนี้จะได้เห็นโรตีรสผลไม้ 9 รสที่มีเฉดสีโดดเด่น และแป้งเครปที่มีให้เลือก 6 แบบ รวมถึงการนำสายไหมมาจัดในรูปแบบต่างๆ ให้น่ารักแปลกตา และการนำมาเป็นท็อปปิ้งไอศกรีมโฮมเมดที่แสนอร่อย

     นอกจากนี้ ในส่วนที่สองที่สำคัญไม่แพ้กันคือการยืดอายุและการเก็บรักษาโรตีสายไหม เพราะอย่างที่ทราบกันจุดอ่อนของโรตีสายไหมคือเก็บได้ไม่นาน แต่เมื่อเจนนิสามีเป้าหมายที่จะนำไปขายในซูเปอร์มาร์เก็ตและส่งออก จึงต้องลงทุนทำวิจัยเพื่อการพัฒนาให้มีอายุยาวนานขึ้น โดยได้ร่วมกับ สวทช.จนสามารถพัฒนาสายไหมให้สามารถเก็บได้นานถึง 6 เดือนโดยปราศจากสารกันเสีย จากปกติที่เก็บได้เพียงแค่สัปดาห์เดียว ขณะที่แป้งเครปเก็บได้นาน 1 เดือน จากที่เคยเก็บได้เพียง 3 วันเท่านั้น  ดังนั้น จึงไม่แปลกใจที่ได้เห็น Candy Crepe ในแพกเก็จจิ้งสวยงามไปวางขายในท็อปส์ ซูเปอร์มาร์เก็ต และกลายเป็นสายไหมอเนกประสงค์ที่ใช้ตกแต่งหรือรับประทานกับอะไรก็อร่อย ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยกระแสตอบรับอย่างล้นหลามยังทำให้เจนนิสาสามารถขยายสาขาร้าน Candy Crepe ได้ถึง 4 สาขาภายในเวลาปีครึ่งเท่านั้น

     เมื่อโรตีสายไหมภูมิปัญญาชาวบ้าน ถูกนำมาแต่งตัวใหม่ และสร้างแบรนด์ ก็ย่อมสามารถเพิ่มมูลค่าได้อย่างแน่นอน!!
 
 

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี