Starting a Business

JUICEDR สูตรลับน้องใหม่ ดื่มเพื่อสุขภาพ

    เมื่อเทรนด์สุขภาพกำลังมาแรง จึงไม่แปลกใจที่อาหารเพื่อสุขภาพ รวมถึงน้ำผลไม้สกัดเย็นจะกลายเป็นสินค้าฮอตฮิตไปด้วย จนมีผู้เล่นในตลาดมากมาย ดังนั้น การเป็นแบรนด์น้องใหม่ที่พยายามแทรกเข้าไปในตลาดที่มีคู่แข่งมากหน้าหลายตาจึงต้องอาศัยการสร้างความแตกต่างและราคามาเป็นจุดขาย  





    “การที่เรามาทำ JUICEDR เป็นแรงบันดาลใจมาจากที่คุณแม่ป่วยเป็นมะเร็งที่ปอด และได้มีการผ่าตัดเอาเนื้อออก แต่คุณแม่ไม่ยอมทำคีโม ครอบครัวเราเลยพยายามดูแลเรื่องการใช้ชีวิตอาหารการกิน เพราะเชื่อว่าเราจะสามารถฟื้นฟูร่างกายให้มีสุขภาพดีได้อย่างธรรมชาติ ถ้ารับประทานอย่างถูกต้อง คุณพ่อจะทำน้ำผลไม้สกัดเย็นให้เราดื่มทุกวัน แต่การดื่มน้ำผลไม้สกัดเย็นเป็นยาขมมาก เพราะคุณพ่อไม่ได้สนใจรสชาติ มีผักผลไม้อะไรในบ้านก็ใส่ลงไปหมดเลย มันก็จะเหม็นไม่อร่อย ซึ่งปรากฏว่าคุณแม่สามารถดำรงชีวิตอย่างมีคุณภาพทำงานจนถึง 3 เดือนสุดท้าย มานาน 9 ปี หลังจากนั้นเราจึงคิดว่าน่าจะลองเอามาทำน้ำผลไม้สกัดเย็นขายเป็นดิลิเวอรี เพราะเห็นแล้วว่ามีประโยชน์จริงและเราก็มีเครื่องอยู่ที่บ้านอยู่แล้ว” ณัฐธิดา ลือชาพัฒนพร และ อรรถกร ไสยสมบัติ ร่วมกันเล่าถึงที่มาของน้ำผักผลไม้สกัดเย็น JUICEDR


    อย่างไรก็ตาม การเริ่มเข้าสู่ตลาดที่มีการแข่งขันค่อนข้างสูงก็ไม่เรื่องง่าย ในเรื่องนี้ณัฐธิดาบอกว่า จริงๆ ตลาดน้ำผลไม้สกัดเย็นเพื่อสุขภาพค่อนข้างกว้างมีกลุ่มเป้าหมายที่หลากหลาย ซึ่งส่วนใหญ่จะนิยมทำตลาดในกลุ่มคนลดน้ำหนัก แต่ JUICEDR นอกจากจะมีกลุ่มลดน้ำหนักแล้ว ยังมีกลุ่มเฮลตี้ สำหรับฟื้นฟูคนป่วย และดีท็อกซ์ล้างพิษออกจากร่างกาย โดยจะเน้นที่รสชาติที่อร่อยจริงๆ และคุณภาพการจัดส่ง


    “เราอยากทำน้ำผลไม้ที่รสชาติอร่อย เพราะถ้าไม่อร่อยมันจะเป็นเหมือนยาขม บางแบรนด์เป็นน้ำผักแบบผักมากๆ ซึ่งคนที่รักสุขภาพจริงๆ เท่านั้นถึงจะยอมดื่มได้ แต่เรามองว่า ยังมีอีกหลายกลุ่มที่อยากดื่มอะไรอร่อยๆ โชคดีที่เราทั้งคู่ชอบทำอาหาร เวลาที่เราทำน้ำผลไม้สกัดเย็น จะลองชิมแล้วเราจะรู้ว่าสูตรนี้ขาดหวาน ขาดเปรี้ยว เราก็มาดูว่ามีผลไม้อะไรที่ให้ความหวานบ้าง หรือให้ความเปรี้ยวบ้าง แล้วเราก็เติมผลไม้นั้น ดังนั้น JUICEDR จะเป็นน้ำผลไม้สกัดเย็น 100 เปอร์เซ็นต์ ไม่มีใส่น้ำตาล ไม่ใส่เกลือ ไม่ใช่สูตรสำเร็จจากเมืองนอก อีกอย่างเราให้ความสำคัญกับการจัดส่ง เราจะใส่กล่องโฟมที่บรรจุน้ำแข็ง เพื่อให้น้ำผลไม้อยู่อุณหภูมิ 4 องศาก่อนถึงมือลูกค้า เพื่อจะได้ไม่สูญเสียคุณค่าสารอาหารต่างๆ ระหว่างทาง” 


    ขณะที่อรรถกรกล่าวเสริมว่า JUICEDR เป็นแบรนด์เดียวในขณะนี้ที่มีสมูทตี้ ซึ่งเป็นการนำผักผลไม้มาปั่นให้เข้ากัน โดยไม่ใส่น้ำแข็ง จึงได้ทั้งน้ำทั้งเนื้อและกากใยของผักผลไม้อย่างครบถ้วน ที่สำคัญเพื่อลูกค้าตัดสินใจซื้อ JUICEDR ได้ง่าย จึงตั้งราคาไม่สูง





    “JUICEDR ไม่ได้เป็นออร์แกนิกเพื่อให้คนสามารถจับต้องได้มากขึ้น เราทำตลาดต่ำลงมานิดโดยใส่องค์ความรู้เข้าไปว่าเราจะทดแทนสิ่งเหล่านั้นยังไง เช่น แม้เราจะไม่ใช่ออร์แกนิก แต่เราเลือกทำความสะอาดผักผลไม้ด้วยระบบโอโซนซึ่งล้างสารเคมีและเชื้อโรคที่ไม่สามารถล้างออกได้ด้วยน้ำเปล่า อะไรที่มีความเสี่ยงแล้วทำให้คุณค่าสารอาหารหายไปเราต้องควบคุมให้ได้มากที่สุด แล้วผมเป็นวิศวกรไฟฟ้า จึงดีไซน์การผลิตเอง บางอย่างเราก็เอามาประยุกต์ดัดแปลง ไม่ได้ซื้อสำเร็จทุกอย่าง ทำให้ลดต้นทุนได้มาก และทำให้เราสามารถขายได้ในราคาเพียง 79 บาทเท่านั้น”


    ด้วยราคาที่ไม่สูงมาก ทำให้มียอดออร์เดอร์เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จึงทำให้ทั้งคู่ต้องขยายกำลังการผลิตเพิ่มมากขึ้น โดยในฐานะวิศวกร อรรถกรถึงกับลงมือสร้างนวัตกรรมเครื่องทำน้ำผลไม้สกัดเย็นขึ้นมาเอง และเมื่อทุกอย่างลงตัว ทั้งคู่ก็พร้อมจะที่จะขยายตลาดก้าวสู่ร้านสุขภาพ และซูเปอร์มาร์เก็ต ซึ่งด้วยเทรนด์น้ำผลไม้สกัดเย็นต่างประเทศที่มียอดขายแซงน้ำผลไม้ไปแล้วนั้น ทำให้มั่นใจได้ว่าตลาดนี้ในเมืองไทยมีแนวโน้มเติบโตสูงขึ้นอย่างแน่นอน  


    IG : juicedrshop
    Facebook : juicedr 
    เว็บไซต์ www.juicedrshop.com

          
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลเพื่อธุรกิจเอสเอ็มอี