Text   : รัชนี พันธ์รุ่งจิตติ  
Photo : Otto


    มีหลายธุรกิจที่เริ่มต้นมาจากการตอบสนองความต้องการของตนเอง รวมถึง JAP FAC กระเป๋าผ้าที่เรียบง่ายแต่ใช้งานได้มากกว่าหนึ่งแบบของสองหนุ่มสาวเพื่อนซี้ คณัสนันท์ เข็มทอง และ เจนจิรา ทรัพย์สกุล


  
    “เริ่มมาจากตอนที่เราทั้งคู่เรียนอยู่ปี 2 คณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร เรามีของพวกอุปกรณ์การเรียนการออกแบบที่ต้องใส่กระเป๋าเยอะ ก็อยากได้กระเป๋าที่มีฟังก์ชันสำหรับใส่ของ เลยลองออกแบบกระเป๋าขึ้นมากันเอง โดยเริ่มขายที่งานกิฟต์ของคณะซึ่งก็ขายได้ จากนั้นก็ไปขายตามงานอื่นๆ แล้วก็เริ่มลงขายทางออนไลน์ โดยกระเป๋าของเราจะเลือกใช้ผ้าแคนวาสกับผ้ายีนส์เป็นหลัก ซึ่งเป็นความชอบส่วนตัว อย่างผ้ายีนส์จะมีความพิเศษในตัวคือ มันจะเปลี่ยนไปตามลักษณะของผู้ใช้ เวลาเราใส่ก็จะเป็นริ้วรอยของเรา กระเป๋าก็เช่นกันเราใช้ชีวิตยังไง มีประสบการณ์แบบไหนมันบ่งบอกตัวเราเองได้จากริ้วรอยนั้น” คณัสนันท์เล่าจุดเริ่มต้น และแนวคิดการทำกระเป๋าผ้า JAP FAC

    คอนเซปต์ของกระเป๋า JAP FAC นอกจากจะเลือกใช้ผ้าแคนวาสกับผ้ายีนส์เป็นหลักรูปทรงเรียบง่าย ส่วนใหญ่จะมีฟังก์ชันการใช้งานมากกว่า 1 ฟังก์ชัน เช่นเป็นเป้ก็ได้ หรือจะเลือกใช้สายที่จะสะพายข้างก็ได้ เป็นต้น 

    “กระเป๋าทุกใบเราจะช่วยกันออกแบบ วาดขึ้นมาจากกระดาษแล้วแชร์กันว่าจะเพิ่มลดตรงไหน แล้วก็ลองทำขึ้นมาก่อน พอเห็นของจริงแล้วเราก็ช่วยแก้กันอีกที แล้วเราจะทำตัวเหมือนเป็นลูกค้า คือจะเอากระเป๋าต้นแบบนั้นมาลองใช้เอง ถ้าเกิดปัญหาก็ปรับแก้ไขในจุดนั้น กระเป๋าบางแบบต้องแก้ไข 2-3 รอบกว่าจะเอาออกมาขาย ซึ่งเราเองก็โชคดีที่ได้ช่างเย็บกระเป๋าที่เขามีประสบการณ์มาก เขาก็จะช่วยดูอีกทีก่อนว่าแบบที่เราคิดนั้น เวลาทำเวลาใช้จะติดขัดอะไรหรือเปล่า เพราะบางทีความคิดฝ่ายเดียวของเรามันอาจจะไม่เวิร์กก็ได้ เพราะเรามองแต่ในฝั่งของการออกแบบ”



    สำหรับช่องทางการขายนอกจากออนไลน์แล้ว ก็จะมีออกบู๊ธตามงาน Flea Market ปัจจุบันก็เพิ่มช่องทางไปฝากวางตามร้านต่างๆ และขายที่เว็บไซต์ Pinkoi ของไต้หวัน 

    “เว็บไซต์นี้มีข้อดีคือ เขามองเราเป็นดีไซเนอร์ เขาไม่ได้มองเราเป็นพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ เวลาทำอะไรเราก็ค่อนข้างภูมิใจ มีการจัดเวิร์กช็อปให้ดีไซเนอร์ได้รู้จักกัน แชร์ประสบการณ์กัน แล้วเชิญเราไปออกงานแฟร์ที่ไต้หวัน ของเราที่ไปขายที่นั่นก็ไม่ได้แพงสำหรับเขา ทำให้เราได้ลูกค้าเพิ่มกลับมาด้วย จนตอนนี้ถ้านับรายได้จากคนไทยน้อยลง แต่สัดส่วนของต่างชาติเพิ่มขึ้น ต่อไปเราก็คิดกันว่า อยากจะทำแบรนด์ JAP FAC ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น ซึ่งไม่ใช่แค่ไปโปรโมตว่า เราขายกระเป๋า แต่อยากไปขายในหลายๆ ที่ อยากออกไปงานแฟร์ใหญ่ๆ ด้วย”

     ทั้งคู่วางแผนที่จะออกแบบกระเป๋าที่มีการใช้งานเฉพาะมากขึ้น อย่างเช่น กระเป๋าใส่กล้อง เพื่อเป็นอีกทางเลือกสำหรับผู้สนใจกระเป๋าที่มีคอนเซปต์ในแบบฉบับของ JAP FAC      



www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี