Text : รัชนี พันธ์รุ่งจิตติ
Photo : Otto


    
    การเกิดและเติบโตในครอบครัวที่ทำธุรกิจรับจ้างผลิตเสื้อผ้าให้กับแบรนด์ดังๆ ทำให้สองพี่น้อง แน๊ต-สุภิญญา และ นิว-นวพร มธุรพร ได้มีโอกาสคลุกคลีและเรียนรู้ธุรกิจนี้มาแต่ตั้งเด็ก ด้วยเหตุนี้จึงตั้งใจที่จะสานต่อธุรกิจของครอบครัว และพยายามต่อยอดด้วยการสร้างแบรนด์เสื้อผ้า Alla Moda ของตนเอง โดยอาศัยฐานธุรกิจเดิมมาเป็นตัวหนุนช่วย
  
    “ครอบครัวเราเป็น OEM รับจ้างผลิตเสื้อผ้าให้กับแบรนด์ดังอยู่แล้ว ประกอบกับตัวเองเป็นคนชอบแฟชั่นมาตั้งแต่เด็ก ก็เลยตัดสินใจเรียนทางด้าน Fashion Entrepreneurship ที่ลอนดอน เพราะตั้งใจเลยว่ายังไงก็จะต้องมาทำธุรกิจของครอบครัว แต่พอได้มาทำงานจริงๆ ได้มีโอกาสคุยกับช่างที่เก่ง ได้เจอซัพพลายเออร์ ได้ไปดูสินค้า เลยกลายเป็นแรงบันดาลใจให้เราอยากจะสร้างแบรนด์ของตัวเองขึ้นมา ซึ่งคิดว่าถ้าไม่เริ่มทำในตอนนี้มันก็จะเป็นแค่ความฝันอยู่อย่างนั้น เลยทำแบรนด์ Alla Moda ขึ้นมาเมื่อปีที่ผ่านมา” สุภิญญา ซึ่งเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงในการปั้นแบรนด์ Alla Moda เล่าถึงจุดเริ่มต้นในการต่อยอดธุรกิจครอบครัว





    สุภิญญานั้นเรียนมาทางด้านแฟชั่นโดยตรงจึงรับผิดชอบดูแลงานด้านการผลิตและการออกแบบทั้งหมด ส่วนนวพร น้องสาวเรียนมาทางไฟแนนซ์ จึงเป็นฝ่ายสนับสนุน ดูแลงานด้านการเงิน สต๊อก ฯลฯ จึงเป็นการแบ่งภารกิจหน้าที่ลงตัวตามความถนัดของทั้งคู่ 

    ทั้งนี้ Alla Moda ถูกวางคอนเซ็ปต์เอาไว้ว่าเป็นแบรนด์เสื้อผ้าสำหรับผู้หญิงคนเมือง ที่ ณ ปัจจุบันจะมีไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายตั้งแต่เช้าจรดค่ำ เสื้อผ้าจึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ทำให้ชีวิตมีสีสันขึ้น โดย Alla Moda จะเป็นทางเลือกสำหรับสาวเมืองที่สามารถสวมใส่เพียงชุดเดียวแต่ทำกิจกรรมต่างๆ ได้ตลอดทั้งวัน โดยไม่ต้องไปเปลี่ยนชุดให้ยุ่งยาก




    “ด้วยความที่เราเป็นผู้ผลิตอยู่แล้ว ทำให้มีความได้เปรียบ คือเรามีโอกาสที่จะทดลองตลาดก่อนที่จะลงมือผลิตจริง พอเริ่มทำคอลเลกชั่นใหม่ขึ้นมา ทำตัวอย่างเสร็จเวลาไปออกบู๊ธก็เอาไปทดลองขายก่อน ลูกค้ามีคอมเมนต์อะไรกลับมา เราก็เอามาปรับอีกทีแล้วค่อยทำจริงขึ้นมา ซึ่งถ้าเราไม่มีโรงงานเองจะทำแบบนี้ไม่ได้แล้วก็จะมีปัญหาเรื่องจำนวนที่สั่งผลิต คือต้องมีสต๊อกเยอะพอสมควร อีกอย่างบางทีลูกค้าบอกว่าขอเอวเข้าหน่อย เราสามารถปรับให้ได้ ถือเป็นบริการจากทางเรา ส่วนผ้าจะนำเข้า โดยเราจะเลือกผ้าที่มีจำนวนน้อย มีจำกัด เพื่อไม่ให้ซ้ำกับใคร” 

    ขณะที่นวพรกล่าวเสริมว่า นอกจากการขายผ่านออนไลน์แล้ว ยังเน้นออกบู๊ธในงาน Flea Market ทำให้มีโอกาสได้คุยกับลูกค้า ทำให้ลูกค้าเข้าถึงแบรนด์ ไว้ใจแบรนด์มากขึ้น และยังใช้กลยุทธ์สร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าเก่าเพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับแบรนด์อีกด้วย




    “การออกบู๊ธเป็นการเปิดให้ลูกค้าได้เจอกับเราจริงๆ ทำให้การตัดสินใจซื้อออนไลน์ง่ายขึ้น แต่ก็ต้องเลือกงานเพราะเดี๋ยวนี้ Flea market มีเยอะมาก โดยจะเลือกจากทำเลและกลุ่มเป้าหมายเป็นหลัก แต่เนื่องจากเราเป็นแบรนด์เสื้อผ้า เวลาซื้อก็อยากให้เขาลองสวม เพราะเป็นเรื่องของแพตเทิร์น เราเลยจะมีห้องลองให้ด้วย เพื่อที่เราจะได้สามารถแนะนำไซส์ที่เหมาะสมหรือทรงที่เหมาะสมกับเขาได้ ขณะเดียวกันเรามองว่าเรื่องความสัมพันธ์กับลูกค้าเป็นเรื่องสำคัญมาก เราจะมีบันทึกลูกค้าเอาไว้หมดเลย

    นอกจากจะบันทึกสัดส่วน เบอร์โทร.แล้ว เรายังบันทึกสไตล์ความชอบของเขา    หรือบางทีมีกระทั่งว่าเขามากับใครด้วย คือทำข้อมูลค่อนข้างละเอียดมาก เพื่อที่ว่าเราจะได้บริการได้ถูกใจเขา อีกอย่างเราจะให้ความสำคัญกับลูกค้าเก่า เพราะเป็นเหมือนฐานที่ทำให้แบรนด์ของเราแข็งแรง โดยเราจะให้โอกาสลูกค้าเก่าได้เห็นสินค้าก่อน ถ้าจะออกคอลเลกชั่นใหม่ เราจะส่งรูปไปให้เขาส่วนตัวก่อนที่จะลงออนไลน์ เพื่อจะได้มีโอกาสเลือกซื้อก่อนคนอื่น เขาจะรู้สึกพิเศษขึ้นมา”

    สำหรับเป้าหมายของ Alla Moda นั้น สุภิญญาบอกว่า ทุกวันนี้ก็มีลูกค้าในเอเชียเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้น จึงตั้งใจจะเปิดตลาดต่างประเทศด้วย โดยในขณะนี้กำลังศึกษาตลาด และเตรียมความพร้อมของสินค้า โดยคาดว่าอีกไม่นานจะได้เห็น Alla Moda ไปโลดแล่นในต่างประเทศอย่างแน่นอน

FB : ALLA MODA Thailand    
Tel : 09-2279-0390
Line : allamodafashion

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลเพื่อความสำเร็จของธุรกิจเอสเอ็มอี (SME)