Text : กฤษณา สังข์วงค์
Photo : Otto


    
    ด้วยกระแสรักสุขภาพกำลังมา ทำให้หลายคนสนใจรับประทานอาหารคลีน ใช้เครื่องสำอางปลอดสารเคมี รวมถึงต้องการใช้สบู่สมุนไพรร้อยเปอร์เซ็นต์ที่ไม่ทำร้ายผิว ซึ่งปัจจุบันนี้มีให้เลือกใช้หลากหลายแบรนด์ และ Ruchi สบู่สมุนไพรของนางเงือกสาวช่องน้อยสีก็นับเป็นอีกแบรนด์ที่ได้ใจคนรักผิว 


    เพราะผู้คนสมัยนี้เริ่มหันกลับมาดูแลสุขภาพกันมากขึ้น โดยสังเกตได้จากการพิถีพิถันเรื่องอาหารการกิน หรือแม้กระทั่งสบู่ก็ยังใส่ใจในการเลือกสรร และด้วยความบูมของตลาดสุขภาพนี่เอง ทำให้ มิว-ลักษณ์นารา เปี้ยทา และ มีน-ทิพยรัตน์ รุจิระนันท์ สองพี่น้องที่เล็งเห็นความเติบโตของตลาดนี้ ตัดสินใจสร้างแบรนด์ Ruchi ขึ้น


 


    “คิดเล่นๆ กับพี่สาวว่าอยากทำสบู่ใช้เอง เพราะผิวของมิวค่อนข้างแพ้ง่าย พี่สาวจึงไปเรียนทำสบู่และเรียนเสริมเรื่องของสมุนไพรและการวาดลวดลายบนสบู่ หลังเรียนจบ พี่สาวทดลองทำสบู่ใช้เองที่บ้าน ซึ่งมิวทดลองใช้เองทุกสูตร หากสูตรไหนใช้แล้วไม่เกิดอาการแพ้ก็จะยอมให้คนทั้งบ้านใช้ แต่ถ้าสูตรไหนใช้แล้วแพ้ก็จะบอกพี่สาวให้ปรับปรุงสูตรขึ้นใหม่”


    จุดเด่นของ Ruchi เป็นสบู่กลีเซอรีนที่สกัดจากน้ำมันสกัดเย็นจำพวกน้ำมันมะพร้าว จึงอ่อนโยนต่อผิวกายและผิวหน้ามากกว่าสบู่น้ำมันที่มีส่วนผสมของโซดาไฟ อีกทั้งยังเป็นสบู่สมุนไพรร้อยเปอร์เซ็นต์ จึงสามารถใช้ได้กับเด็กเล็ก คุณแม่ตั้งครรภ์ และผู้สูงวัยได้โดยไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้


 



    “ในช่วงแรกเริ่มของการทำธุรกิจ เราขายส่งสบู่ให้กับกลุ่มลูกค้าที่เป็นโรงแรม รีสอร์ต และสปาเท่านั้น แต่เมื่อลูกค้าของพวกเขามีความต้องการซื้อกลับไปใช้เองที่บ้าน กอปรกับกระแสรักสุขภาพกำลังมา เราจึงถือโอกาสนี้เจาะกลุ่มลูกค้าทั่วไปด้วยการขายสบู่แบบปลีก ซึ่งขายผ่านตัวแทนจำหน่ายอย่างร้านสปา ออกบู๊ธขายด้วยตนเอง และสื่อสังคมออนไลน์อย่างอินสตาแกรม เฟซบุ๊ก รวมถึงเว็บไซต์” มีนกล่าว


    ทั้งนี้ เพราะสบู่รับประทานไม่ได้เหมือนอาหาร หากต้องการรู้ว่าจะชอบหรือไม่ก็จำต้องซื้อหรือนำสินค้าทดลองกลับไปใช้ที่บ้าน ดังนั้น การขายสบู่ผ่านช่องทางออนไลน์เพียงอย่างเดียวจึงไม่เพียงพอที่จะทำให้ Ruchi เป็นที่รู้จัก และยอมรับในวงกว้างได้ เช่นนั้นทั้งสองสาวจึงเน้นออกบู๊ธควบคู่ไปกับการขายผ่านช่องทางออนไลน์ 

 




    “จริงอยู่ที่การขายของผ่านช่องทางออนไลน์ไม่ต้องลงทุนเยอะ แต่เพราะกลุ่มลูกค้าบางกลุ่มต้องการทดลองใช้สบู่ก่อนตัดสินใจซื้อ เราจึงต้องหันมาให้ความสำคัญกับการออกบู๊ธด้วย ซึ่งการออกบู๊ธแต่ละครั้ง เราหวังเพียงให้ Ruchi เป็นที่รู้จักด้วยการนำสินค้าตัวอย่างไปแจก และถือเป็นโชคดีที่มีนักธุรกิจต่างชาติเดินเข้ามาดูบู๊ธ มาหยิบนามบัตร และติดต่อกลับมาภายหลังเพื่อสั่งซื้อสบู่ไปขายยังประเทศเขา โดยตอนนี้เรามีลูกค้าต่างชาติทั้งจีน ญี่ปุ่น และเมียนมาร์” มิวกล่าว



 


    ตอนนี้แม้ Ruchi จะกำลังไปได้สวยจนอดดีใจไม่ได้เพราะลูกค้าชาวไทยและต่างชาติต่างให้ความสนใจ แต่อย่างไรเสีย สองสาวก็มิวายต้องกังวลใจกับปัญหาที่ต้องเผชิญอย่างเลี่ยงไม่ได้ นั่นคือการละลายของสบู่ เพราะสบู่ Ruchi ทำจากกลีเซอรีนจึงละลายง่ายเมื่อโดนแดด อีกทั้งสบู่ยังมักหดตัวในช่วงฤดูร้อน และเกิดความชื้นในช่วงฤดูฝน ซึ่งส่งผลให้ประสิทธิภาพของสบู่ลดน้อยลงหากเก็บรักษาไม่ถูกวิธี ทั้งนี้สมุนไพรที่เกิดในแต่ละฤดูกาลยังส่งผลให้สบู่มีสีที่ต่างกัน เช่น สบู่มะขามที่ทำออกมาช่วงฤดูกาลหนึ่งจะมีสีเข้ม แต่อีกช่วงฤดูกาลหนึ่งกลับมีสีอ่อน ซึ่งความไม่เท่ากันของสีนี่เองที่ทำให้ลูกค้าหลายรายคิดว่าประสิทธิภาพของสบู่ลดลง   



 


    “นอกจากต้องควบคุมเรื่องประสิทธิภาพของสบู่ให้คงที่แล้ว เรื่องของแพ็กเกจจิ้งสินค้าก็สำคัญ โดยแต่ละเทศกาล Ruchi จะมีแพ็กเกจจิ้งพิเศษที่เข้ากับช่วงเทศกาลนั้นๆ เพื่อกระตุ้นยอดขาย อย่างช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา เราจะมีเซตปีใหม่ที่แพ็กเกจจิ้งจะดูโตหน่อย จึงเหมาะที่จะให้เป็นของขวัญผู้หลักผู้ใหญ่ ส่วนช่วงวาเลนไทน์ แพ็กเกจจิ้งจะดูหวานๆ น่ารัก แต่สามารถมอบให้คนพิเศษได้อย่างไม่เคอะเขิน ทั้งนี้ เพราะความหรูหราของแพ็กเกจจิ้ง ลูกค้าหลายรายจึงนิยมสั่งสบู่ของเราไปเป็นของชำร่วยในวันแต่งงานด้วย” มิวเล่า


    อย่างไรก็ตาม แม้ Ruchi จะมีฐานลูกค้าหลักเป็นกลุ่มสปา โรงแรม รีสอร์ต และกลุ่มลูกค้ารองเป็นกลุ่มบุคคลทั่วไปที่มีทุกเพศทุกวัย และนิยมสั่งซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์และออฟไลน์แล้ว สองสาวยังมีแพลนที่จะเปิดหน้าร้านในอนาคต เพื่ออำนวยความสะดวกแก่กลุ่มลูกค้าสูงวัยที่ไม่ถนัดการสั่งซื้อผ่านเว็บไซต์ หรือไม่สะดวกเดินทางไปตามงานต่างๆ ที่ทั้งสองไปออกบู๊ธ  


Facebook : ruchi
Instagram : ruchisoap
www.ruchisoap.com


www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลเพื่อความสำเร็จของธุรกิจ SME (เอสเอ็มอี)