Text : Morning dew

     เพราะวิกฤตโควิด-19 นี่เองที่พนักงานจำนวนมากถูกบีบให้ต้อง Work from Home และสิ่งหนึ่งที่เลี่ยงไม่ได้คือ การประชุมออนไลน์ การจ่อมจมอยู่หน้าจอเพื่อสื่อสารกันเรียลไทม์แบบนั้น ถ้าต้องทำทุกวัน ผลที่ตามมาจึงเป็นความเครียด และเหน็ดเหนื่อย ไม่ใช่เหนื่อยแค่กายแทบหมดแรง แต่ยังเหนื่อยใจอีกด้วย อาการแบบนี้เรียกว่า Video Conference Fatigue หรือ Virtual Meeting Fatigue แต่ส่วนใหญ่เรียก Zoom Fatigue เนื่องจากเป็นโปรแกรมที่ใช้แพร่หลายสุด

     สำหรับคนที่ยังตัดขาดจากการประชุมออนไลน์ไม่ได้ มีคำแนะนำเกี่ยวกับการลดอาการเหนื่อยล้าจากกิจกรรมดังกล่าว เช่น

     1. ในการประชุมทั่วไป เราจะสื่อสารกันซึ่งหน้า ตาของเราจะกวาดไปมามองหน้าคนที่คุยด้วย แล้วอาจจะละสายตาไปมองอย่างอื่นรอบๆ แต่ในการประชุมออนไลน์ สายตามักจ้องเขม็งหน้าจอที่จุดเดียวเป็นเวลานานกว่าปกติซึ่งค่อนข้างผิดธรรมชาติสำหรับมนุษย์ หลังจากที่จ้องหน้าจออย่างต่อเนื่อง สิ่งที่ตามมาคือ การมองเห็นสิ่งที่อยู่ในจอในสัดส่วนที่ผิดเพี้ยนไป ทำให้เหมือนภาพคนที่ปรากฏบนจอมีขนาดใหญ่ขึ้น เกิดความเครียดไม่รู้ตัว วิธีแก้คือลดขนาดหน้าจอให้เล็กลง จะได้ไม่เหมือนถูกคุกคาม และยังเลี่ยงการสบสายตาได้บ้าง

     2. ในช่วงเวลาปกติ เราจะมองเห็นหน้าตัวเองก็ต่อเมื่อส่องกระจก แต่นั่นก็ใช้เวลาไม่มาก แต่ในโลกของการประชุมออนไลน์ เราเห็นหน้าตัวเองตลอดเวลา และมีโอกาสที่สมาธิจะหลุดเพราะมัวแต่ไปโฟกัสจุดเด่นจุดด้อยบนใบหน้าตัวเอง วิธีแก้ไขง่ายนิดเดียว ทำให้หน้าตัวเองหายไปจากจอโดยไม่ต้องปิดกล้อง แต่เลือกฟังก์ชัน “Hide self-view” ที่ซ่อนใบหน้าให้ตัวเองไม่เห็น แต่ผู้ร่วมประชุมคนอื่นๆ ยังมองเห็นเราตามปกติ  

     3. ถ้าเป็นการประชุมแบบปกติมักจะมีเวลาพักช่วงให้ เดินไปเข้าห้องน้ำ พักจิบชา กาแฟ ยืดเส้นยืดสายแล้วค่อยประชุมต่อ แต่การประชุมออนไลน์นั้นมักดำเนินต่อเนื่องแบบรวดเดียว แทบจะไม่พักช่วงเลย ร่างกายเลยเหมือนถูกตรึงไว้หน้าจอ การประชุมออนไลน์จึงเท่ากับร่างกายเคลื่อนไหวน้อยลง วิธีแก้คือ หากคอมพิวเตอร์ที่ใช้ติดตั้งกล้องในตัวอยู่แล้ว ก็อาจจะติดตั้งกล้องเพิ่มในรัศมีที่ห่างออกไปเพื่อให้ยังสามารถจับภาพได้เมื่อเราต้องละจากหน้าจอ แต่ถ้าวิธีนี้ยุ่งยาก ง่ายสุดคือ การปิดกล้องชั่วคราวแล้วลุกยืนหรือเปลี่ยนอิริยาบถ แม้แค่ช่วงสั้นๆ ก็ยังดี

     4. การสื่อสารไม่ใช่แค่พูดกับฟัง แต่ยังมีอวัจนภาษา หรือภาษากายเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย แต่ดูเหมือนการประชุมออนไลน์จะเน้นที่ฟังและพูดเป็นหลักทำให้ขณะสื่อสารต้องชดเชยด้วยการแสดงสีหน้าหรือท่าทางมากกว่าปกติ สมองก็ทำงานหนักกว่าปกติในการอ่านสีหน้าและแววตาของผู้ร่วมประชุม วิธีช่วยให้สมองไม่ทำงานหนักเกินไปคือ การปิดกล้อง แล้วใช้เสียงสื่อสารอย่างเดียวจะได้ไม่ต้องคอยอ่านสีหน้าหรือความรู้สึกคนอื่น และยังทำให้มีสมาธิที่การสนทนาขึ้นด้วย

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจ Startup