Startup YOLO Talk งาน Night สัมมนาครั้งแรกของ SME Startup ที่รวมแรงบันดาลจาก 6 นักสู้เพื่อฝัน
เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2565 SME Startup ได้จัดงาน Startup YOLO Talk ไปให้สุดแล้วหยุดที่ Success ซึ่งเป็นไนท์สัมมนาครั้งแรก ภายในงานจะเป็นการ Streaming ผ่านแพลตฟอร์มต่างๆ อาทิ Facebook Live และ Zoom โดยมีผู้เข้าร่วมชมสูงสุดกว่า 700 คน สามารถเข้าถึงคนบน Facebook ได้กว่า 5 แสนคนเลยทีเดียว
ภายในงานเต็มไปด้วยบทเรียนสร้างแรงบันดาลใจจากนักสู้เพื่อฝันทั้ง 6 คน ประกอบไปด้วย
- คุณอชิรญาณ์ พงษ์สุพรรณ เจ้าของร้าน Unkonwnbake กับบทเรียน Zero to One : เปิดตำราชีวิต ขายขนมยังไงให้หมดไวใน 9 วินาที
- คุณณัชพล ตุ๊เสงี่ยม : ศิลปิน NFT กับบทเรียน Draw to Dream : จับปากกาวาดฝัน ปั้นรายได้แตะแสนด้วย NFT
- คุณนิธิ สัจจทิพวรรณ : CEO บริษัท MyCloudFulfillment กับบทเรียน Walking Through Clouds : เพราะล้มจึงรู้ สู่สตาร์ทอัพ Fulfillment ที่ยืนหนึ่งในวงการ
- คุณรุ่งโรจน์ จันท์กระจ่าง เจ้าของแบรนด์ La Rocca กับบทเรียน Unique Lesson :บทเรียนจากนักสู้ ผู้ปั้นแบรนด์แฟชั่นไทยให้ล้ำกว่าใคร
- คุณภูณทัศน์ วิวัฒพัฒนอนันต์ ยูทูบเบอร์ ช่อง PEACH EAT LAEK กับบทเรียน Success Recipe : เปิดสูตรลับสร้าง Follower 7 ล้าน ฉบับยูทูปเบอร์สายกินแหลก
- คุณวัชระ ทองสุข CEO บริษัท บีฟอร์มี จำกัด กับบทเรียน Gamer to Richer :เกมธุรกิจของเด็กสร้างตัว ที่ปั้นรายได้ 20 ล้านต่อเดือน
ซึ่งทาง SME Startup ได้รวบรวมข้อคิดดีๆ จากทั้ง 6 บทเรียนมาฝากกัน
- บทเรียน Zero to One : เปิดตำราชีวิต ขายขนมยังไงให้หมดไวใน 9 วินาที
จากคนที่ไม่ชอบเรียนหนังสือ เคยเกเรมาก่อน เคยเจ๊งมาหลายรอบกับความไม่มีประสบการณ์ เกือบหมดตัวในช่วงโควิดรอบแรก กำเงินในมือ 7 หมื่นบาท แล้วคิดว่าจะทำยังไงให้เป็นร้านขนมได้อีกครั้ง คิดว่าจะขายกาแฟวันละไม่กี่แก้ว ขนมไม่กี่อย่างก็พอแล้ว คิดแค่ว่าไม่คาดหวังก็ไม่ผิดหวัง จนในที่สุดก็ขายได้วันละ 2 หมื่นบาท จนขยับมาเป็นนาทีละ 2 หมื่นบาท เร็วสุดตอนนี้คือ 9 วินาทีที่ขนมหมดอย่างรวดเร็ว!
ทำไมถึงขายหมดภายใน 9 วินาที? คนแย่งกันโทร เพราะโทรติดยาก เค้กมีจำนวนจำกัดต่อวัน ที่สำคัญทางร้านไม่มีคำว่าลูกค้ากับคนขายขนม มีแค่คนทำขนมกับพี่และน้อง กลายเป็นคอมมูนิตี้เล็กๆ ที่มากกว่าร้านเค้กทั่วไป มีความเป็นห่วงจากพี่และน้องที่คอยติดตามร้านเค้ก เป็นสิ่งที่ทำให้ผ่านช่วงเวลาที่เหนื่อยและท้อมาได้ โดย มิ้นท์ - อชิรญาณ์ ได้ฝากไว้ว่า มันคือจังหวะชีวิตของคนที่มาไม่เท่ากัน ถ้ามันยังมาไม่ถึงก็แค่ทำ ทำจนกว่ามันจะมาถึง
- บทเรียน Draw to Dream : จับปากกาวาดฝัน ปั้นรายได้แตะแสนด้วย NFT
จากคำถามว่าศิลปะจะกลายเป็นอาชีพได้จริงไหม สู่เส้นทางของศิลปิน ที่แค่อยากวาดรูป แต่ด้วยความโชคดีที่พ่อและแม่ไม่เคยคาดหวังว่าจะต้องประกอบอาชีพตามความคาดหวังของสังคม ทำให้ที่บ้านสนับสนุนเต็มที่ในการวาดรูป รางวัลแรกที่ลงประกวด ได้เงินมาหนึ่งก้อน นี่คือการจุดประกายว่าสามารถหาเงินได้จากงานศิลปะที่ลงมือทำ
ช่วงโควิดมีผลกระทบกับทุกอาชีพ ด้วยความที่เจอความลำบากด้านการเงิน ความเครียดกระทบจิตใจในช่วงโควิดจนถึงต้องปรึกษาจิตแพทย์ และระหว่างทางนั้นมาตอบคำถามตัวเองว่าต้องการอะไรในชีวิตกันแน่? ความสุขคืออะไร? ขอแค่ได้ทำงานที่ตัวเองรัก ไม่ต้องรวยก็ได้ ทำให้เขาอยากออกจากบริษัทที่ทำอยู่และมีเป้าหมายว่าอยากจัดงานนิทรรศการครั้งแรกของตัวเองแต่กลับไม่เป็นอย่างที่คาดหวัง การจัดแสดงงานศิลปะครั้งนั้น แม้ว่าจะเจ๊งแต่ก็ได้เรียนรู้สิ่งที่เรียกว่า “จงเป็นกระบอกเสียงของตัวเอง” คือการลงทุนระยะยาวในผลงานของตัวเอง กล้าที่จะทำและประกาศมันออกไป
ด้วยเงินลงทุน 3 หมื่นเพื่อลงทุนในการทำงานศิลปะบนโลก NFT แม้ว่าตอนแรกจะยังไม่มีคนซื้อ แต่เขาก็พยายามในการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าด้วยการแนะนำตัวในช่องทางต่างๆ จนเริ่มเข้าตาและได้รับเชิญให้ไปขายในแพลตฟอร์มที่ต้องถูกเชิญเท่านั้น เขาจึงเริ่มต้นสร้างอาร์ตเวิร์คที่เป็นตัวเอง สร้างคอนเทนต์จากที่สิ่งเรียนรู้มา จนขายงานชิ้นแรกได้ในราคา 25,000 บาท
เขาเคยถูกประมูลผลงานได้ถึงหลักแสน และตัดสินใจว่าจะเป็น NFT Artist อย่างเต็มตัว ทำรายได้รวมทั้งหมดจากผลงาน 14 ชิ้นแตะหลัก 2 ล้านบาท! เพราะเขากล้าที่จะเป็นตัวเอง กล้าที่จะนำเสนอ กล้าที่จะเป็นกระบอกเสียงของตัวเอง
- บทเรียน Walking Through Clouds : เพราะล้มจึงรู้ สู่สตาร์ทอัพ Fulfillment ที่ยืนหนึ่งในวงการ
สตาร์ทอัพไม่ต่างอะไรกับโจรสลัด โจรสลัดต้องออกสู่ทะเลและหวังว่าจะค้นพบที่ดินที่คนยังไม่พบเจอ สตาร์ทอัพก็เช่นกัน ต้องหาโอกาส ตลาดใหม่ๆ เริ่มต้นจากชีวิตช่วงแรกที่เคยมีปม เป็นเด็กที่เรียนไม่เก่ง พูดไม่เก่ง ไม่มีความมั่นใจ เคยโดยบูลลี่ในวัยเรียน จนเข้ามหาลัยฯ สิ่งแรกที่ต้องการคือ “การยอมรับ” ทำให้เขาตัดสินใจเที่ยวกลางคืนและเมาตลอดเวลา ยิ่งการเป็นลูกชายคนโต ยิ่งโดนกดดันจากครอบครัว แต่ยิ่งโดนกดดัน ยิ่งหนี จุดเปลี่ยนสำคัญคือพาร์ทเนอร์ของพ่อ ที่เขาไม่ชอบเรา เคยพูดกับพ่อถึงว่า “เลี้ยงเสียข้าวสุก” ทำให้เขาเริ่มพิสูจน์ตัวเองจากคำพูดนั้น
เขาเริ่มมองหาโอกาสธุรกิจเพื่อพิสูจน์ตัวเอง จนเจอบริษัทที่จุดประกายธุรกิจคือเว็บไซต์ขายจิวเวลรี่ออนไลน์และเริ่มทำธุรกิจจิวเวลรี่ของตัวเอง เป็นสตาร์ทอัพแรกของเขาที่ตัดสินใจทำ ตอนนั้นทำเพราะเชื่อว่า “รวยแน่” แม้ว่าจะไม่ได้ชอบสิ่งนี้ก็ตาม ตอนนั้นกดดันตัวมากว่าต้องประสบความสำเร็จให้ได้ ธุรกิจจิวเวลรี่ ขายดีในช่วงแรก หลังจากนั้นเริ่มดรอปลง เพราะมีปัญหาเรื่องหลังบ้านและโฟลวในการทำงาน จนถึงจุดที่ต้องจบธุรกิจนี้ลง ทำให้เรียนรู้ว่า การจะทำอะไรสักอย่างต้องหลงใหลมันเป็นพิเศษ
ปัจจุบันคือ MyCloudFulfillment คลังสินค้าออนไลน์ ที่ได้บทเรียนจากสิ่งที่เคยล้มเหลวมาก่อน ทั้งยังมีจุดแข็งจากธุรกิจเดิมที่บ้านคือคลังสินค้า ทำให้กลายเป็นธุรกิจที่เติบโตได้อย่างต่อเนื่อง โดยเขาได้มองเห็นรอยรั่วจากธุรกิจโดยเสริมด้วยการทำ E-commerce เพราะคลังสินค้าแบบเดิมนั้นกำลังค่อยๆ ดรอปลง แม้ว่าที่บ้านจะยังไม่ยอมรับ เขาจึงตัดสินใจเปิดบริษัทใหม่ จากวันแรกที่ได้ 5 กล่องต่อวันสู่ 4 แสนออเดอร์ต่อเดือน ทุกวันนี้การทำธุรกิจด้วยความเชื่อว่า SME ไทยไปต่อได้ ร้านเล็กๆ ไม่สามารถต่อกรกับบริษัทใหญ่ได้ เพราะทรัพยากรไม่เพียงพอ MyCloudFulfillment คือตัวกลางที่จะทำให้ธุรกิจเล็กๆ แข่งขันได้
ใครที่อยากเริ่มต้น คุณเมฆได้ฝากไว้ 3 อย่างคือ 1. เจ๊งให้เร็วที่สุด ในราคาที่ถูกที่สุด 2.นอนให้ดึก ดูว่าทั่วโลกเกิดอะไรขึ้น อ่านข่าวให้เยอะ 3.อย่าหวังพึ่งใครและอย่าทำคนเดียว คุณไม่ได้เก่งที่สุดในโลก
- บทเรียน Unique Lesson :บทเรียนจากนักสู้ ผู้ปั้นแบรนด์แฟชั่นไทยให้ล้ำกว่าใคร
จากชีวิตวัยเด็กลำบาก เกิดจากชุมชนแออัดและได้รู้ว่าการดิ้นรน เอาตัวรอด ต้องผลักตัวเองให้ออกมาสู่โลกกว้าง แม้ว่าจะจบคณะสถาปัตย์ฯ แต่วาดรูปไม่เป็น จนเริ่มขายของที่สะพานพุทธ ด้วยความที่ชอบแต่งตัว ชอบเสื้อผ้า และเริ่มจับเงินแสนได้ในเวลา 1 ปี การจับเงินแสนครั้งนั้นคือจุดเปลี่ยน เขาเริ่มขายของและจับพลัดจับผลูได้ไปขายที่สวนจตุจักร จนเจอลูกค้าชาวต่างชาติและเจอลูกค้าชาวญี่ปุ่นและได้ร่วมงานกับเขา ได้เงินเดือนที่ดี มากกว่านั้นคือประสบการณ์
ตอนที่ออกจากงานครั้งนั้น ยังเคว้งคว้าง หาตัวเองไม่เจอ จนวันหนึ่งคิดว่าอยากทำอะไรของตัวเอง อยากมีเสื้อแบบนี้ กางเกงแบบนี้ เริ่มจากทำให้ตัวเองใส่ คนเริ่มมองว่าสวย ยุคแรกเริ่มจากกระเป๋า ทำเพราะชอบ และคิดว่าจะทำยังไงให้แตกต่างจากคนอื่น ทำให้เขาเริ่มต้นสร้างแบรนด์ Larocca studio จุดเด่นคือความแตกต่าง วัตถุดิบที่แตกต่าง เลือกใช้วัตถุดิบมือสอง นำมา Remake ใหม่ให้กลายเป็นสินค้าที่ไม่เหมือนใคร
โดยเขาได้ฝากไว้ว่าถ้าคิดจะทำอะไรแล้ว ลงมือทำเยอะๆ อยากให้ทุกคนทำให้เยอะมากกว่าเดิม ไม่ใช่ทำแค่หนึ่งแล้วบอกว่ายังไม่ดี บางคนทำถึงร้อย ยังไม่ประสบความสำเร็จก็มี
- บทเรียน Success Recipe : เปิดสูตรลับสร้าง Follower 7 ล้าน ฉบับยูทูปเบอร์สายกินแหลก
จากนักแข่งกิน ที่คิดอยากเก็บผลงานของตัวเองไว้ดูเล่น เลยลองทำช่องในยูทูป คิดแค่อย่างเดียวคืออยากเก็บความทรงจำเผื่อวันหนึ่งอาจจะกินเยอะไม่ได้ขนาดนี้แล้ว ด้วยเงินทุนก้อนแรก 1 แสนบาท เฉลี่ยการออกกองในหนึ่งครั้งว่าต้องเสียเท่าไร มีเวลากี่ชั่วโมงในการทำงาน ต้องถ่ายได้กี่เทป? ใครจะรู้ว่าบางวัน เขาต้องไปกินจุถึง 3 เทป แลกมาด้วยร่างกายและความเหนื่อยล้า
ช่วงแรกเขาทำเทปสต๊อกด้วยเงินทุนก้อนเดียวที่มี จนเริ่มมีสปอนเซอร์ติดต่อเข้ามาเป็นครั้งแรก และมีคนดูเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนทำให้เขาสามารถสร้างผู้ติดตามได้ถึงทุกวันนี้ แม้ว่าการเริ่มต้นจะไม่ได้สวยงามแต่ต้องกลับมาถามตัวเองว่าเราทำเต็มที่แล้วหรือยัง และด้วยการที่เขาคิดว่าเราไม่ควรจะพึ่งพารายได้จากทางเดียว เขาจึงเริ่มมองหาธุรกิจอะไรบางอย่าง ควรมีมากกว่า 1 ทาง แม้ว่าวันหนึ่งเขาจะทำยูทูปไม่ได้ก็ยังมีทางเลือกอื่นอยู่
แม้ว่าวันหนึ่งสิ่งที่ทำจะไม่ประสบความสำเร็จ ก็ต้องบอกตัวเองว่าอย่างน้อยเราพยายามแล้ว แค่ได้ลงมือทำในสิ่งที่รักก็พอแล้ว นอกจากนี้เขาพยายามต่อยอดสิ่งที่ทำไปเรื่อยๆ ด้วยความที่เป็นคนชอบกิน เขาจึงไลฟ์ขายขนม ทุกขนมที่มาขายผ่านการกินมาแล้วว่าชอบ เป็นอีกหนึ่งช่องทางการหารายได้ของเขา
- บทเรียน Gamer to Richer :เกมธุรกิจของเด็กสร้างตัว ที่ปั้นรายได้ 20 ล้านต่อเดือน
เริ่มทำธุรกิจตั้งแต่อายุ 14 ปี ในตอนนั้นเขาเริ่มเล่นเกม เก็บของในเกมเพื่อไปขาย สามารถนำเงินจริงไปแลกกับเงินในเกมได้ โดยเขาสามารถหาเงินได้ประมาณ 5 พันบาทจากการเล่นเกม จนเริ่มเล่นเกมเพื่อหาเงินจริงจังในเกมด้วยการเป็นพ่อค้าในเกม ตอนนั้นเริ่มได้เงินหลักหมื่น และเริ่มมองหลายเกมมากขึ้น ไม่กี่ปีก็สามารถจับเงินหลักแสนได้ จากแค่เล่นเกม สู่การสร้างเกมของตัวเอง จนเริ่มยิงโฆษณาเฟซบุ๊กเพื่อหาคนเล่นเกมมากขึ้นเพื่อยอดเติมเงินที่มากขึ้น ภายในเดือนเดียว มียอดเติมเกมกว่า 6 แสนบาท ทำให้เขามองเห็นโอกาสในเส้นทางนี้
ด้วยความที่เป็นคนคิดเร็ว ทำเร็ว และเจ็บเร็วกว่าเพื่อน ในช่วงหนึ่งเขาซื้อเครื่องขุดบิตคอย ได้รายได้ต่อวันหลายหมื่น ทำได้ไม่นาน บิตคอยราคาร่วง เครื่องขุดที่ซื้อมากลับจ่ายค่าไฟไม่คุ้มอีกต่อไป เงินเก็บที่เขาเก็บมากลับสูญหายไปในพริบตา ตอนนั้นเราคิดแค่ว่าเรายังเหลืออะไรอีกบ้าง เลยเริ่มต้นใหม่ เขาเห็นสินค้าตัวหนึ่งที่น่าสนใจ เลยไปหาสินค้าและลองหยิบเอาคลิปสินค้ามายิงโฆษณา แล้วประสบความสำเร็จ ยอดขายดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง เขาสามารถปั้นรายได้หลายสิบล้าน
ปัญหาหลักๆ ของธุรกิจปัจจุบันคือ ไม่ว่ายอดขายจะเยอะแค่ไหน ก็ไม่สามารถเข้าตลาดหลักทรัพย์ได้เพราะไม่มีใครรู้จัก แบรนด์ดิ้งจึงกลายมาเป็นเรื่องที่สำคัญและได้สร้างคอมมูนิตี้ “งานบ้านสมาคม”
โดยวัชระได้ฝากไว้ว่าเวลาที่เราทำอะไรใหม่ๆ เราไม่สามารถรู้ได้ว่าต่อไปจะเจออะไร ต้องทำอะไรก่อนถึงจะรู้ว่าจะอะไร ถ้ามัวแต่คิดก็อาจจะไม่ได้ทำสักที
สุดท้ายนี้ต้องขอขอบคุณผู้สนับสนุนอย่างเป็นทางการ
สำหรับในครั้งหน้า ทาง SME Startup จะมีงานสัมมนาหรือกิจกรรมอะไรที่น่าสนใจ สามารถติดตามได้จากทางเว็บไซต์ https://www.smethailandclub.com/startup.html และ Facebook Page https://www.facebook.com/SMEStartupFreecopy
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจ Startup