Text : Morning dew
 


 
Main Idea
 
 

• ข้อมูลจากองค์การอนามัยโลก ระบุภาวะสมองเสื่อมเกิดขึ้นกับผู้คนราว 50 ล้านคนทั่วโลกจนเริ่มกลายเป็นเรื่องปกติ คนที่มีอายุมากขึ้นมีความเสี่ยงสูงที่จะเป็นโรคสมองเสื่อม

 

• แม้จะยังไม่มีวิธีรักษาภาวะนี้ แต่ก็มีแนวทางปฏิบัติที่ช่วยลดความเสี่ยง มาดูกันว่ามีพฤติกรรมใดบ้างที่สามารถลดความเสี่ยงในการเกิดโรคนี้

     ภาวะสมองเสื่อม (Dementia) คือ อาการที่เกิดจากความผิดปกติของเปลือกสมอง ส่งผลกระทบต่อสติปัญญา ความคิด ความจําบกพร่อง หลงลืม ทั้งความจําระยะสั้นและระยะยาว การตัดสินใจผิดพลาด มีปัญหาในการพูด พูดซ้ำๆ ซากๆ ไม่เข้าใจคําพูด ไม่สามารถปฏิบัติงานต่างๆ ในชีวิตประจําวัน มีความสับสนในเรื่องของเวลา สถานที่ บุคคล มีความผิดปกติทางจิตและพฤติกรรม อาการเหล่านี้มีผลกระทบทําให้ไม่สามารถทํางานหรืออยู่ในสังคมได้


     ข้อมูลจากองค์การอนามัยโลก ระบุภาวะสมองเสื่อมเกิดขึ้นกับผู้คนราว 50 ล้านคนทั่วโลกจนเริ่มกลายเป็นเรื่องปกติ คนที่มีอายุมากขึ้นมีความเสี่ยงสูงที่จะเป็นโรคสมองเสื่อม แต่พันธุกรรมก็มีส่วน แม้จะยังไม่มีวิธีรักษาภาวะนี้ แต่ก็มีแนวทางปฏิบัติที่ช่วยลดความเสี่ยงของโรคโดยเฉพาะคนทั่วไปที่อายุยังน้อย มาดูกันว่ามีพฤติกรรมใดบ้างที่สามารถลดความเสี่ยงในการเกิดโรคนี้


     -ออกกำลังกาย อย่างน้อยสัปดาห์ละ 150 นาที จะเป็นการวิ่ง เดิน ปั่นจักรยาน ว่ายน้ำ หรือเล่นกีฬาอื่นๆ หรือจะออกแรงด้วยการทำงานบ้าน ทำสวนก็ได้ เพียงขอให้ร่างกายได้เคลื่อนไหวต่อเนื่องไม่น้อยกว่า 30 นาทีต่อครั้ง


     -ละเลิกการสูบบุหรี่ การสูบบุหรี่มีผลต่อการทำงานของสมองและอวัยวะต่างๆ ข้อมูลนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ อยู่ที่ว่าใครจะไหวตัวทันและเดินจากมันไปได้


    -เลือกรับประทานอาหารดีๆ เน้นผักผลไม้และอาหารไขมันต่ำ น้ำตาลน้อย โปรตีนดี อาหารเพื่อสุขภาพย่อมนำมาซึ่งสุขภาพที่ดีโดยเฉพาะเมื่อรับประทานให้สมดุล


     -อย่ากินอาหารเสริมแทนอาหารหลัก หากมั่นใจว่ารับประทานอาหารเพียงพอต่อโภชนาการที่ร่างกายควรได้รับในแต่ละวัน ก็ไม่จำเป็นต้องพึ่งอาหารเสริมและวิตามินทั้งหลายแหล่ที่มีราคาแพง

  
     -หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ ดื่มบ้างเป็นบางโอกาสคงไม่เป็นไร แต่การดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำจนติดเป็นนิสัย ร่างกายและสมองพังได้


     -หมั่นลับสมอง หลายงานวิจัยระบุการเล่นเกม เช่น เกมปริศนาอักษรไขว้ และซูโดกุ หรือกระทั่งเกมบวกเลขทะเบียนรถคันข้างหน้าก็ช่วยกระตุ้นเซลล์สมองไม่ให้ฝ่อเร็ว


     -ออกสังคมบ้าง การได้พบปะพูดคุยกับผู้คนรอบข้างย่อมดีกว่าการหมกตัวอยู่คนเดียว เพราะอย่างน้อยก็ทำให้สมองตื่นตัว ได้โต้ตอบและมีปฏิสัมพันธ์กับคนอื่น


     -เช็กไขมันในเลือด คอเลสเตอรอลเป็นปัจจัยเสี่ยงอย่างหนึ่ง และยังมีผลต่อความดันโลหิตสูงด้วย ทั้งคอเลสเตอรอลและความดันโลหิตสูงมีส่วนเชื่อมโยงกับภาวะสมองเสื่อม 


     -ระวังน้ำตาลในเลือด หากพบว่าเป็นหรือมีแนวโน้มเป็นเบาหวานจะได้หาทางบำบัด เพราะโรคเบาหวานก็มีส่วนทำให้สมองเสื่อมเช่นกัน  


     นักวิชาการผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับโรคอัลไซเมอร์ระบุจากการประเมิน พบว่า 1 ใน 3 ของผู้ป่วยภาวะสมองเสื่อมสามารถป้องกันแต่ต้นได้ การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตตามที่กล่าวมาข้างต้นก็เป็นหนทางที่ช่วยบรรเทาการเกิดโรคได้
 




www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจ Startup