Text : Morning dew

Main Idea

 

• แค่กินอาหารร่วมก็ติดโรคได้ ถ้าไม่ใช้ช้อนกลาง โดยเฉพาะโรคติดต่อผ่านทางน้ำลายจะมีโอกาสเสี่ยงในการได้รับเชื้อที่ออกมาทางน้ำลาย 

 

• ดังนั้น ช้อนกลาง เป็นเหมือนเกราะป้องกันการติดโรคต่างๆ และลดความเสี่ยงจากโรคที่ติดต่อผ่านทางอาหารและน้ำ แต่ทำไมคนไทยส่วนใหญ่ กลับมองข้ามความสำคัญของช้อนกลาง

     หลังจากที่มีข่าวนักวิ่งมาราธอนสาวซึ่งดูแลสุขภาพมาตลอด เลือกรับประทานอาหารคลีน เล่นโยคะ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ และไม่เคยป่วยไข้รุนแรง แต่จู่ๆ กลับล้มป่วยด้วยโรคมะเร็งกระเพาะอาหาร ตรวจพบก็เป็นระยะสุดท้ายแล้ว ยังผลให้เธอต้องเสียชีวิตก่อนวัยอันควร ซึ่งเรื่องราวของเธอได้จุดกระแสให้เกิดการรับรู้เกี่ยวกับสุขอนามัยในการใช้ “ช้อนกลาง” มากขึ้น หลังจากที่แพทย์ระบุสาเหตุหนึ่งของมะเร็งกระเพาะอาหารมาจากการติดเชื้อแบคทีเรีย “Helicobactor Pylori หรือเรียกสั้นๆ H.Pylori

     แบคทีเรียชนิดนี้สามารถแพร่ผ่านน้ำลาย เมื่อร่างกายรับเชื้อเข้าไปจะกระตุ้นให้เกิดการอักเสบในกระเพาะอาหาร อาการจะคล้ายคนเป็นโรคกระเพาะ ถ้าไม่เฉลียวใจ แค่กินยาลดกรด กินยาแก้ปวด แต่ไม่หาหมอเพื่อตรวจสอบที่มาของต้นเหตุ ก็จะทำให้เกิดการอักเสบซ้ำซากเรื้อรัง จนนำไปสู่การเป็นมะเร็งกระเพาะอาหารในที่สุด

     ด้วยเหตุนี้จึงมีการพูดถึงการใช้ช้อนกลางเมื่อรับประทานอาหารร่วมกับผู้อื่น ซึ่งปัญหาอย่างหนึ่งที่ทำให้การรณรงค์เรื่อง กินร้อน ช้อนกลาง ไม่ประสบความสำเร็จเท่าใดนักอาจเป็นเพราะคนส่วนใหญ่มีทัศนคติการไม่ใช้ช้อนกลางคือ การแสดงความสนิทสนมอย่างหนึ่ง และหากเรียกร้องหาช้อนกลางขึ้นมาเมื่อใด เท่ากับเป็นการรังเกียจเพื่อนร่วมโต๊ะอาหาร ทำให้หลายคนไม่กล้าทักท้วงเพราะเกรงใจบ้าง เพราะไม่อยากให้คนอื่นมองว่าเรื่องเยอะหยุมหยิม เลยต้องปล่อยเลยตามเลย

     หากถือคติ Prevention is better than cure ป้องกันแต่แรกดีกว่าติดโรคแล้วมารักษาภายหลัง การใช้ช้อนกลางคือ ทางออกที่ดีที่สุด รวมถึงการไม่ใช้หลอดดูดร่วมกัน การไม่กัดกินไอศกรีมจากโคนหรือแท่งเดียวกัน ไปจนถึงการไม่ใช้ช้อนกลางในน้ำจิ้ม เนื่องจากสามารถลดความเสี่ยงในการรับเชื้อโรคติดต่อที่ส่งผ่านน้ำลาย เช่น โรคไข้หวัดทุกสายพันธุ์ วัณโรค คางทูม ไวรัสตับอักเสบ คอตีบ โปลิโอ ไอกรน คออักเสบ ทอนซิลอักเสบ มือเท้าปาก หูดข้าวสุก เริมที่ปาก เยื่อหุ้มสมองอักเสบ ไข้กาฬหลังแอ่น และโรคหัด เป็นต้น

     คนที่คิดว่าตัวเองแข็งแรง ไม่เคยใช้ช้อนกลางก็ไม่เคยเห็นเป็นอะไรก็อย่าประมาทไป เพราะสมัยนี้มันมีโรคอุบัติใหม่เกิดขึ้น หลายๆ โรคพบเห็นน้อย หรือไม่เคยพบเห็นมาก่อนด้วยซ้ำ ดังนั้น ระมัดระวังไว้ก่อน ไม่นำพาตัวเองไปสู่ความเสี่ยงจะดีกว่า เปลี่ยนพฤติกรรมตอนนี้ยังทัน และทำให้เป็นความเคยชิน โดยเฉพาะคนที่เริ่มมีอายุมากขึ้น คนสูงวัย และเด็ก กลุ่มนี้ภูมิคุ้มกันไม่แข็งแรงพอ เสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ง่าย


www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจ Startup