การออกกำลังกายเป็นสิ่งที่ดี แต่หลายคนอาจจะไม่ทราบว่าการจะได้ประโยชน์จากตรงนั้น คุณต้องออกกำลังกายมากพอที่จะก่อมรรคผล อยากรู้ว่าออกกำลังกายมากพอหรือไม่ หากสังเกตตัวเองอาจจะพอบอกได้จากสัญญาณต่างๆ ดังต่อไปนี้

     1. ป่วยง่าย ไม่สบายบ่อย โดยทั่วไป การเป็นหวัดปีละ 1-2 ครั้งเป็นเรื่องปกติมากๆ แต่ถ้าล้มหมอนนอนเสื่อบ่อยๆ นั่นแสดงว่าภูมิคุ้มกันร่างกายไม่ดี โรคภัยจึงรุมเร้าง่าย สัญญาณที่ร่างกายส่งออกไปคือ ควรต้องออกกำลังกายเพื่อกระตุ้นการทำงานของเนื้อเยื่อกล้ามเนื้อ ซึ่งหน้าที่อย่างหนึ่งของเนื้อเยื่อเหล่านี้คือ การควบคุมระบบภูมิคุ้มกันภายในร่างกายนั่นเอง การออกกำลังกายจึงช่วยเพิ่มต้านทานในร่างกายได้

     2. ท้องผูก ระบบทางเดินอาหารโดยเฉพาะส่วนลำไส้ควรต้องมีการเคลื่อนไหว บีบรัดเป็นลูกคลื่นเพื่อเคลื่อนย้ายกากอาหารไปยังปลายลำไส้เพื่อพร้อมสำหรับการขับถ่าย การขาดการออกกำลังกายจะทำให้กล้ามเนื้อลำไส้ไม่แข็งแรง ไม่มีแรงบีบรัด และหากปล่อยทิ้งไว้ไม่แก้ไข ก็จะเข้าสู่ภาวะ “ลำไส้ขี้เกียจ” ซึ่งสามารถบรรเทาได้ด้วยการออกกำลังกายที่ให้เกิดการเคลื่อนไหวของลำไส้มากขึ้น ยิ่งเคลื่อนไหวมาก เป็นประจำ จะทำให้กล้ามเนื้อแข็งแรง ขับเคลื่อนกากอาหารออกจากร่างกายได้เร็วขึ้น

     3. หายใจไม่ทัน หายใจถี่ และเกิดขึ้นบ่อยโดยเฉพาะช่วงทำกิจกรรม เช่น เดินขึ้นบันได ยกของ ทั้งที่ก่อนหน้าไม่เคยเป็น อันนี้สะท้อนระบบทางเดินหายใจและระบบเมตาบอลิซึมในร่างกาย ควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจร่างกายเพื่อหาสาเหตุ และแก้ไข หากไม่ร้ายแรงมากก็เป็นไปได้ที่แพทย์จะให้คำแนะนำต่างๆ ซึ่งน่าจะรวมถึงการออกกำลังกายด้วย  

     4. อารมณ์ไม่เสถียร จิตตก หม่นมัว ไม่สดชื่น มีผลการวิจัยพบว่า การออกกำลังกายช่วยกระตุ้นการหลั่งฮอร์โมนและสารเคมีอันมีผลต่อสภาพจิตใจ จึงบำบัดอาการทางจิต เช่น ภาวะซึมเศร้า เครียด วิตกกังวลได้เป็นอย่างดี

     5. นอนไม่หลับ การนอนไม่หลับไม่ว่าสาเหตุใด อาจช่วยได้ด้วยการออกกำลังกาย เพราะการออกกำลังกายนำไปสู่การเร่งการทำงานของอวัยวะต่างๆ ในร่างกาย รวมถึงการทำงานของนาฬิกาชีวภาพ หรือนาฬิกาชีวิตที่คอยบอกเวลา ในเวลาเราตื่นในยามเช้า หลับในตอนกลางคืน หรือรับประทานอาหารในช่วงเช้า กลางวัน และเย็น เวลาในระบบการออกกำลังกายรวมถึงเวลาขับถ่าย
       

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจ Startup