เราคุ้นเคยกันดีกับน้ำทับทิมที่คั้นแล้วบรรจุขวดขาย และเราก็พอจะทราบคุณค่าทางโภชนาการของเครื่องดื่มชนิดนี้ว่า มีวิตามินซีสูง อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ทับทิมเป็นผลไม้จัดอยู่ในตระกูลเบอร์รีและที่มีถิ่นกำเนิดในตะวันออกกลาง ผู้เขียนได้มีโอกาสไปเยือนตุรกี ประเทศที่ทับทิมเป็นหนึ่งในพืชเศรษฐกิจที่มีความสำคัญพอๆ กับมะกอก และส้ม ได้มีโอกาสชิมน้ำทับทิมที่คั้นขายกันสดๆ และพบความประหลาดใจว่า การคั้นน้ำทับทิมนั้นจะใช้วิธีผ่าครึ่งผลทับทิมแล้วคั้นทั้งเปลือก รสชาติที่ออกมาจึงเจือรสเฝื่อนฝาด ซึ่งเป็นวิธีที่ทำมานาน และเปลือกทับทิมก็มีสรรพคุณทางยา

     เมื่อกลับมาค้นข้อมูลก็พบว่า เปลือกทับทิมที่เราโยนทิ้งนั้น มีประโยชน์ไม่น้อยไปกว่าเนื้อและเมล็ดของมัน อีกทั้งเครื่องดื่มชาทับทิมนั้นก็มีการบริโภคมานานนับพันปีแล้ว ชาทับทิมมักไม่ค่อยมีขาย ถ้าจะมีส่วนใหญ่ทำมาจากดอกทับทิมหรือเมล็ดทับทิม ส่วนเปลือกนั้นมักถูกมองข้ามทิ้งขว้างกลายเป็นขยะ กระทั่งปลายทศวรรษ 1990 นักวิทยาศาสตร์ได้วิจัย และพบสรรพคุณต่างๆ มากมาย มาดูกันว่ามีอะไรบ้าง

     แอนตี้ออกซิแดนซ์สูง แถมยังมีสารประกอบเข้มข้นที่ต่อต้านอนุมูลอิสระอย่างทรงประสิทธิภาพ นอกจากช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันในร่างกาย ยังส่งผลต่อสุขภาพผิว ทำให้ผิวมีความยืดหยุ่นสูง ลดริ้วรอย และจุดด่างดำต่างๆ และช่วยชะลอวัยได้ด้วย เราจึงเห็นทับทิมถูกนำมาเป็นส่วนผสมในเครื่องสำอางและเครื่องประทินผิวด้วย

     บำรุงหัวใจ ชาทับทิมมีสรรพคุณคล้ายยาละลายลิ่มเลือด เมื่อดื่มเป็นประจำทุกวันจะป้องกันการเกิดลิ่มในหลอดเลือด และช่วยเพิ่มปริมาณออกซิเจนไปยังหัวใจมากขึ้น นอกจากนั้น สารบางอย่างในทับทิมยังช่วยลดความดันโลหิตและคอเลสเตอรอลจึงเท่ากับลดความเสี่ยงในการเป็นโรคหลอดเลือดแข็ง โรคหลอดเลือดสมอง และโรคหัวใจ

     ต้านการอักเสบในร่างกาย โดยเฉพาะบริเวณข้อ และปกป้องกระดูกอ่อน ช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวดจากโรคเกี่ยวกับข้ออักเสบ และโรคเก๊าต์ และยังลดภาวะกระดูกพรุนในคนวัยทองอีกด้วย  

     ลดความเสี่ยงโรคมะเร็ง เนื่องจากมีฟลาโวนอยด์และสารต้านอนุมูลอิสระสูงจึงช่วยยับยั้งการเติบโตของเซลล์มะเร็ง

      ล้างพิษและฆ่าเชื้อในระบบทางเดินอาหาร ว่ากันว่าการจิบชาทับทิมสามารถบรรเทาอาการท้องร่วง ติดเชื้อซาลโมเนลลา และลำไส้อักเสบ

     นอกจากนั้น ยังมีสรรพคุณอื่น เช่น ป้องกันอาการสมองเสื่อม ลดความเสี่ยงโรคอัลไซเมอร์ วิธีทำชาจากเปลือกผลทับทิมสามารถทำได้เองด้วยวิธีง่ายๆ กล่าวคือ นำเปลือกทับทิมที่ล้างสะอาดแล้ว หั่นเป็นชิ้นก่อนตากแดดให้แห้งสนิทจนแข็ง (เหมือนมะตูมตากแห้ง) หากต้องการลดความขมความเฝื่อน ให้ตัดเยื่อขาวๆ ซึ่งเป็นส่วนที่ห่อหุ้มเนื้อและเมล็ดทับทิมออก ให้เหลือแต่เปลือกแข็งสีแดง หลังจากที่ตากแดดจนแห้งดีสามารถนำมาชงชาในสัดส่วน 10-20 กรัมต่อน้ำ 200 มิลลิลิตร โดยต้มน้ำให้เดือดแล้วเทใส่แก้วที่มีเปลือกทับทิมแห้งปิดฝาทิ้งไว้ 25 นาที แล้วจิบโดยไม่ต้องเปิดฝา หรือนำเปลือกทับทิมแห้งมาบดจนเป็นผงละเอียดแล้วชงกับน้ำร้อนดื่มก็ได้ เท่านี้ก็จะได้ “ชาทับทิม” เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพที่ถูกมองข้ามมานาน
 

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี