Text : น้ำค้าง
 

 
     เป็นข้อมูลที่น่าตกใจไม่น้อยเมื่อจำนวนเด็กไทยที่เป็นโรคอ้วนเพิ่มขึ้นจวนเจียนจะทำสถิติโลกได้ ตลอดเวลาที่ผ่านมา เราเน้นรณรงค์ให้ผู้ใหญ่ออกกำลังกาย โดยหลงลืมไปว่าการออกกำลังกายในเด็กก็สำคัญเช่นกัน มาดูกันว่า จะใช้วิธีไหนหลอกล่อให้ลูกหลานในบ้านขยับแข้งขยับขาหรือเคลื่อนไหวร่างกายได้บ้าง

     ชวนกันทำกิจกรรม แทนที่จะพากันจมอยู่บนโซฟาหน้าจอทีวี ผู้ปกครองลองชวนเด็กออกไปทำกิจกรรมเบาๆ เช่น เดินชมนกชมไม้ในสวน ปั่นจักรยานในหมู่บ้าน ทำสวน หรือหากิจกรรมกลางแจ้งที่เด็กๆ ชอบมาทำร่วมกัน

     ตั้งเป้าวันละชั่วโมง ว่ากันว่าเด็กๆ ควรได้เคลื่อนไหวอย่างน้อยวันละ 1 ชั่วโมง และควรเป็นกิจกรรมที่ผสมผสานเพื่อสร้างความแข็งแร็งให้กล้ามเนื้อหัวใจ (เช่น วิ่งหรือเดินเร็ว) สร้างความแข็งแกร่งให้กล้ามเนื้อมัดต่างๆ (วิดพื้น ห้อยโหนตามเครื่องเล่น) และเสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูก (กระโดดเชือก) กิจกรรมต่างๆ แยกทำเป็นช่วงได้ ไม่จำเป็นต้องดำเนินรวดเดียวใน 1 ชั่วโมง

     ใช้อุปกรณ์เข้าช่วย เด็กๆ ชอบของเล่นอยู่แล้ว ลองซื้อ Pedometer/Step Counter หรือเครื่องนับจำนวนก้าวเดินมาให้พกติดตัวเพื่อกระตุ้นให้เด็กเคลื่อนไหวมากขึ้น

     จูงใจด้วยอุปกรณ์กีฬา เลือกกีฬาที่เด็กสนใจ แล้วจัดหาให้เป็นของขวัญ เช่น ไม้เทนนิส รองเท้าสตั๊ด ลูกบาสเกตบอล สเกตบอร์ด ชุดว่ายน้ำเท่ๆ สิ่งเหล่านี้อาจปลุกความเป็นนักกีฬาในตัวเด็กให้ฉายแววออกมาก็ได้

     ชี้นำโดยผู้ปกครอง เป็นวิธีง่ายๆ เพราะเด็กต้องพึ่งผู้ปกครองในการพาไปสถานที่ต่างๆ อยู่แล้ว อยู่ที่ว่าผู้ใหญ่จะเลือกพาไปที่ไหน ถ้าพาไปสนามเด็กเล่น สนามกีฬา สวนสาธารณะ โอกาสที่เด็กจะกระโดดโลดเต้น เคลื่อนไหวร่างกายเรียกเหงื่อได้มากมายย่อมมีสูง

     พาไปเข้าคลาส เน้นคลาสที่มีการเคลื่อนไหวมากๆ พาเด็กไปลองสำรวจก่อนว่าสนใจคลาสไหน เช่น ฟันดาบ เทควันโด้ คลาสเต้นรำ ไปจนถึงคลาสกีฬาต่างๆ ให้เด็กเลือกที่ชอบที่สุด

     เนียนให้ออกแรง อยากให้เด็กได้เคลื่อนไหว วิธีเนียนๆ คือเวลาไปห้างสรรพสินค้าหรือที่ใดก็ตาม ให้จอดรถไกลจากตัวอาคาร จะได้เดินเยอะๆ หรือเลือกขึ้นลงบันไดแทนการใช้ลิฟต์และบันไดเลื่อน เป็นต้น
      

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลเพื่อธุรกิจเอสเอ็มอี