Q-Life
เส้นกั้นระหว่าง “รัก” กับ “หลง” ตัวเอง
สำหรับผู้มีสุขภาพจิตดี สิ่งสำคัญที่สุดคือการเรียนรู้ที่จะรักและยอมรับตัวเอง แต่การ “รักตัวเอง” (Self-love) นี้ก็มีข้อจำกัดเพราะหากมากเกินไปก็อาจกลายเป็น “หลงตัวเอง” (Narcissism) มาดูกันว่าสองสิ่งนี้ต่างกันอย่างไร
ต้องการการยอมรับและเป็นจุดสนใจ คนที่รักตัวเองจะมี Self-esteem สูงคือการยอมรับและนับถือตัวเอง เมื่อประสบความสำเร็จในสิ่งใดสิ่งหนึ่งก็จะภูมิใจในตัวเองแต่ก็ไม่เดือดร้อนหากคนอื่นจะมองไม่เห็น ขณะที่คนหลงตัวเอง ไม่ว่าจะทำอะไรก็ต้องการอยู่ท่ามกลางสปอตไลต์ อยากเป็นที่สนใจตลอดเวลา หากถูกละเลยหรือเพิกเฉย จะรู้สึกว่างเปล่าและไร้ค่า
ว่าด้วยความไม่สมบูรณ์แบบ คนรักตัวเองมองว่าทุกคนมีจุดบกพร่อง เข้าใจและยอมรับตรงนั้นได้ หากเป็นจุดอ่อนของตัวเอง คนรักตัวเองจะพยายามแก้ไขเพื่อให้ดีขึ้น ส่วนคนหลงตัวเองคิดว่าตัวเองเก่งและเหนือกว่าคนอื่นเสมอ คนหลงตัวเองจะไม่ยอมรับจุดด้อยหรือข้อบกพร่อง เพราะมีชุดความคิดที่ฝังแน่นว่าตัวเองเกิดมาสมบูรณ์แบบแล้ว
ยอมรับตัวเอง คนรักตัวเองจะยอมรับในสิ่งที่เป็นและเป็นตัวของตัวเองที่สุด ไม่จำเป็นต้องอยากได้ใคร่มีเพราะคนกลุ่มนี้มีความสุขและพอใจในชีวิตอยู่แล้ว ส่วนคนหลงตัวเอง ลึกๆ แล้วไม่พอใจในตัวเอง และมักมโนถึงการใช้ชีวิตในรูปแบบที่อยากให้เป็น มักคิดว่าตัวเองน่าจะมีชีวิตที่ดีกว่านี้ แต่ก็ไม่ทำอะไรเพื่อให้ชีวิตที่หวังเป็นไปตามที่ต้องการ
นอบน้อมและมีคุณธรรม คนรักตัวเองจะมีความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น สนับสนุนผู้อื่น ยินดีเมื่อเห็นคนอื่นประสบความสำเร็จ และหากมีปัญหาก็พร้อมช่วยเหลือ ส่วนคนที่หลงตัวเอง นอกจากจะไม่ร่วมยินดียังออกแนวริษยา ใครมีความเดือดร้อน คนหลงตัวเองจะแสดงความเสแสร้งเป็นห่วง ทั้งที่ในใจไม่ได้รู้สึกอะไรมาก
ทุกคนเท่าเทียมกัน คนรักตัวเองจะเคารพตัวเองและเคารพผู้อื่น มองว่าในความเป็นมนุษย์ทุกคนมีศักดิ์ศรีเท่ากัน แต่คนหลงตัวเองจะพยายามแข่งกับคนอื่น ไม่อยากเห็นคนอื่นเหนือกว่าตน คนพวกนี้จะไม่มีความสุขถ้าไม่ได้เป็นจุดศูนย์กลางหรือไม่สามารถควบคุมคนอื่นได้
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลเพื่อธุรกิจเอสเอ็มอี