Text : Duckkiez
Photo : Otto



   การฉีกคอนเซปต์ให้ต่างจากคู่แข่งเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่ช่วยให้ธุรกิจอยู่ในความสนใจของกลุ่มเป้าหมาย เหมือนอย่างร้านตัดผม Smile Club Hair Diner ของ 3 แฟชั่นไอคอนหนุ่ม ซัน-เมธัส เทพนวล บุตร-สุริยะ อัศวนิก และ โทนี่ รากแก่น ที่ให้ความรู้สึกเหมือนนั่งในร้านอาหารอเมริกันยุค 50’s มากกว่าร้านตัดผม เพราะร้านตกแต่งในสไตล์ร้านอาหาร American Diner สีชมพู-ฟ้าที่แม้จะเป็นโทนสีที่ขัดกับลุคของหนุ่มๆ เจ้าของร้าน แต่เมื่อมองเข้าไปในรายละเอียดจะเห็นถึงความสนุก ซุกซนตามสไตล์ Smile Club


 
    “ร้านตัดผมของพวกเราชื่อ Smile Club เป็นร้านตัดผมครบวงจรที่มีทั้งบาร์เบอร์และซาลอน ตอนนี้มี 2 สาขาซึ่งตกแต่งต่างกันอย่างเห็นได้ชัด สาขาแรกใช้ชื่อ Smile Club Thailand เปิดที่ร้านเพลินวาน พาณิชย์ (สยามสแควร์ วัน) ในโซนสลัดบางรอด คอนเซปต์ในการตกแต่งคือร้านตัดผมในชุมชน ลูกค้าที่มาจึงรู้สึกเหมือนกำลังนั่งตัดผมในร้านตัดผมแถวบ้าน ส่วนสาขาสองชื่อ Smile Club Hair Diner ตกแต่งในคอนเซปต์ร้านอาหาร American Diner เพราะอยากให้ลูกค้าได้ประสบการณ์ที่ต่างออกไป รู้สึกว่าที่นี่เป็นมากกว่าแค่ร้านตัดผม” ซันกล่าว



     Smile Club Hair Diner ได้แรงบันดาลใจการออกแบบตกแต่งจากร้านอาหารอเมริกันยุค 50’s ทันทีที่ผลักประตูเหล็กสีเงินเข้าไปจะเจอกับร้านอาหาร American Diner ที่มีเก้าอี้ตัดผมตั้งแทนที่โต๊ะอาหาร สีสันที่ใช้ภายในร้านเป็นสีชมพูและสีฟ้าดังจะเห็นได้จากแสงไฟ เฟอร์นิเจอร์ เช่น โซฟา โต๊ะ เก้าอี้ รวมทั้งอุปกรณ์สำหรับใช้ในการตัดผม เช่น เก้าอี้ตัดผม ผนังร้านถูกประดับด้วยแผ่นสเกตบอร์ดหลากหลายลาย ภาพโฆษณาไทยสมัยก่อน และภาพแฟชั่นเซ็ตของหนุ่มๆ เจ้าของร้าน

     นอกจากนี้ ร้าน Smile Club Hair Diner ยังมีห้องทำผมส่วนตัว 1 ห้องไว้รองรับลูกค้าที่ทำอย่างอื่นเพิ่มเติมจากการตัดผม เช่น ย้อมสีผม และยังมีห้อง Smile Club Shoes Care Service ให้ลูกค้านำรองเท้ามาขัดทำความสะอาดได้ โดยที่นี่รับขัดทั้งรองเท้าหนัง ผ้าใบ หรือแม้แต่รองเท้าส้นสูงของสาวๆ จุดเด่นของช่างขัดรองเท้าที่นี่ คือ ก่อนลงมือขัดจะวิเคราะห์สภาพหนังว่าเป็นหนังประเภทใดและทำความสะอาดด้วยวิธีที่เหมาะสมที่สุด



     “นอกจากบริการขัดรองเท้า ร้านของเรายังจำหน่ายของที่ระลึกด้วย โดยมีทั้งที่ร่วมผลิตกับแบรนด์อื่น เช่น Pomade รุ่น Limited Edition ร่วมผลิตกับ Nothing N Nothing ร้านตัดผมจากประเทศเกาหลี และของที่ระลึกของเราเอง เช่น ไฟแช็ก และหมวก Smile Cap ซึ่งของที่ระลึกทุกชิ้นมีตัวตนของ Smile Club ซ่อนอยู่ นั่นคือความสนุกสนาน ซุกซน เห็นแล้วยิ้ม” บุตรกล่าว



     อย่างไรก็ดี เมื่อทั้ง 2 สาขาตกแต่งแตกต่างกันอย่างชัดเจน กลุ่มลูกค้าที่เข้ามาจึงมีความต่างกันด้วย โดยบุตรบอกกับเราว่า ลูกค้า Smile Club Thailand ส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่น นักเรียน นักศึกษาทั้งที่ตั้งใจมาตัดผมและบังเอิญผ่านมาเจอ ส่วนลูกค้า Smile Club Hair Diner เป็นกลุ่มคนเริ่มทำงานที่ตั้งใจมาตัดผมจริงๆ เพราะร้านตั้งอยู่ในเวิ้งโบราณซึ่งลูกค้าที่จะหาร้านเจอต้องเป็นคนที่รู้จักร้านอยู่แล้ว

     ซ.เอกมัย 10 (เวิ้งโบราณ) เปิดบริการเวลา 11.00-20.30 น.
     โทร.09-5515-4526
     Facebook : smileclubthailand
     Instagram : smileclub_thailand
     Line : smileclubhairdiner

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลเพื่อธุรกิจเอสเอ็มอี