เพื่อให้การเงินของเรามีสภาพคล่องและมีเงินทุนสำรองไว้ใช้เวลาฉุกเฉิน การนำเงินที่เหลือจ่ายไปเก็บรักษาในธนาคารเพียงอย่างเดียวย่อมไม่เพียงพอ จึงต้องมีแนวทางการเก็บเงินที่เป็นระบบมากกว่าเดิม เพื่อสร้างนิสัยและพื้นฐานการอดออมให้กับตัวเราเอง และสร้างบัญชีเงินสำรองในกรณีฉุกเฉินขึ้นมา ดังนี้

     1. ค่าใช้จ่ายส่วนตัวรายเดือน
         สำหรับค่าใช้จ่ายรายเดือนของแต่ละคนนั้น มากน้อยแตกต่างกันไป ที่สำคัญเรามักคิดกันว่าค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือนนั้นมีความผันผวน ไม่แน่นอน บางเดือนจ่ายมาก บางเดือนจ่ายน้อย ดังนั้น การมีเงินติดกระเป๋าเอาไว้เยอะๆ ต้องเป็นตัวเลือกที่ถูกต้อง แต่ในความเป็นจริงแล้ว “ไม่ควรทำแบบนั้น”

     แนวทางการประหยัดเงินก็คือ ควรนับเฉพาะค่าครองชีพที่จำเป็นในแต่ละเดือน แล้วนำไปหักลบกับเงินเดือน หรือรายได้จากการทำธุรกิจ ก็จะทราบตัวเลขคร่าวๆ ว่าจะเหลือเงินประมาณเดือนละกี่บาท จากนั้น หักเงินออกไป 1,500 บาท หรือ 10,000 บาท ก็แล้วแต่รายรับหรือเงินเหลือจ่าย โดยนำไปเข้าบัญชีอื่นเพื่อเก็บรักษาเอาไว้โดยไม่ต้องกังวลกับอัตราดอกเบี้ยหรือความคุ้มค่าจากการลงทุนแต่อย่างใด เพราะการนำเงินไปฝากธนาคาร มีความปลอดภัยกว่าอยู่ในกระเป๋าสตางค์ของเราอยู่แล้ว อยู่ในกระเป๋าสตางค์นอกจากไม่มีดอกเบี้ย ยังมีโอกาสสูญเสียไปโดยเปล่าประโยชน์อีกต่างหาก แต่ถ้าอยู่ในธนาคารจะมีโอกาสให้เรานำมาใช้ประโยชน์ได้ในอนาคต

     2. ค่าใช้จ่ายส่วนตัวราย 2 เดือน
         สำหรับเงินที่จะนำไปฝากในบัญชีธนาคารตามหัวข้อนี้ ไม่ต่างจากข้อแรก เพียงแต่เป็นเงินที่เราต้องตัดออกจากเงินเหลือเก็บปกติของทุก 2 เดือน เพื่อนำไปเข้าบัญชีอื่น หลายคนอาจคิดว่าเป็นไปได้ยาก เพราะค่าใช้จ่ายในปัจจุบันสูงมาก ไหนจะต้องหักไปฝากบัญชีออมทรัพย์ปกติ บัญชีรายเดือน แต่เชื่อเถอะว่า มนุษย์เราทุกคนแท้ที่จริงแล้ว มีความสามารถในการคำนวณการใช้เงินได้อย่างลงตัว บางคนประหยัดช่วงต้นเดือน ไปฟุ้งเฟ้อตอนปลายเดือน บางคนกินหรูอยู่สบายตอนเงินเดือนออก แล้วไปใช้ชีวิตไส้แห้งตอนสิ้นเดือน ขณะที่บางคนจัดสรรการใช้เงินอย่างลงตัวตลอดเดือน ฉะนั้นการอดออมเงินส่วนหนึ่งหรือตัดเงินออกไปเข้าบัญชีธนาคารตั้งแต่ต้นเดือนย่อมไม่ส่งผลกระทบสักเท่าไหร่  

     3. เงินทุนสำรอง
         เงินในกองนี้จะเป็นเงินที่มีความสำคัญมากๆ ไม่ว่าเจ็บไข้ได้ป่วย ก็สามารถดึงออกมาใช้ได้ หรือถ้าเป็นการทำธุรกิจ ก็ควรเป็นเงินหมุนเวียนทางธุรกิจสำรองที่เป็นสายป่านหรือเชือกเส้นสุดท้ายที่หล่อเลี้ยงธุรกิจได้อีก 6-8 เดือนเป็นอย่างน้อย การจะมีเงินทุนสำรองที่มากมายมหาศาลได้ ต้องค่อยๆ เก็บสะสม มีระเบียนวินัยในการอดออมและไม่สุรุ่ยสุร่าย

     4. เงินหยอดกระปุก
         อย่าทำเป็นเล่นไป เงินหยอดกระปุกที่ว่านี้ ช่วยให้มนุษย์เงินเดือนมีเงินถุงเงินถัง และเป็นทุนเริ่มต้นธุรกิจกันมามากมายนับไม่ถ้วนแล้ว ใครที่กำลังไม่เห็นด้วยลองคิดง่ายๆ ว่า เราเลิกดื่มกาแฟวันละแก้ว เท่านั้นก็จะเก็บเงินส่วนนี้ได้แล้วละ ไม่ยากจริงๆ
 

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจ Startup