ท่ามกลางการผุดขึ้นของ Startup เป็นจำนวนมากในแต่ละปีกลับมีเพียงไม่กี่รายเท่านั้นที่จะอยู่รอดได้นานถึง 5 ปี และหนึ่งในสาเหตุหลักที่ทำให้ก้าวไปไม่ถึงฝั่งฝันก็หนีไม่พ้นเรื่องของเงินๆ ทองๆ โดย 24 เปอร์เซ็นต์ของ Startup ที่ต้องล้มเหลวก็เพราะประสบปัญหาจากการหมดเงินนั่นเอง แม้จะมีความคิดสร้างสรรค์ มีพลังและมีจิตวิญญาณซึ่งเป็นปัจจัยที่จะนำไปสู่ความสำเร็จก็ตาม ดังนั้นเพื่อไม่ก้าวพลาดบนเส้นทางการแข่งขันนี้ผู้ประกอบการรุ่นใหม่ควรใส่ใจและหลีกเลี่ยง 5 ข้อผิดพลาดทางการเงินดังต่อไปนี้
 
     1. ไร้การจัดการกระแสเงินสดที่ดี
         การบริหารจัดการเรื่องของกระแสเงินสดที่ไหลเวียนเข้าและออกนับเป็นเรื่องที่สำคัญในการดำเนินกิจการ จากข้อมูลขององค์กรวิชาชีพบัญชีระดับสากลอย่าง Association of Chartered Certified Accountants บอกว่า 82 เปอร์เซ็นต์ของธุรกิจที่ประสบกับความล้มเหลวก็เนื่องมาจากไม่ให้ความสนใจกับเรื่องของกระแสเงินสด และถือเป็นเรื่องโชคร้ายที่ Startup จำนวนมากที่ไม่เชี่ยวชาญเรื่องการเงินซึ่งจะนำไปสู่ความยุ่งยากได้ในภายหลัง ดังนั้นเพื่อหลีกเลี่ยงความผิดพลาดในเรื่องนี้นักธุรกิจรุ่นใหม่ต้องใส่ใจว่ามีอะไรเกิดขึ้นบ้างกับเรื่องของการเงิน ควรดูว่าเงินเข้ามาจากไหนและใช้จ่ายออกไปยังไง โดยสามารถจัดทำเป็นระบบง่ายๆ เช่น ใช้โปรแกรม Excel เพื่อทำการเก็บเป็นข้อมูล เพราะหากไม่ทำแบบนี้แล้วนั้นอาจไม่รู้ถึงเรื่องของผลกำไร ไม่มีบันทึกสำคัญสำหรับยื่นให้นักลงทุน รวมไปถึงอาจไม่มีวันรู้เลยว่าถูกยักยอกเงินไป
 
     2. ทำการระดมทุนมากเกินไปและเร็วเกินไป
         แม้เรื่องของการระดมทุนจะเป็นของคู่กันสำหรับการทำ Startup ซึ่งมีผู้ประกอบการรุ่นใหม่มากมายที่คิดถึงเรื่องนี้และใช้เป็นตัวชี้วัดความสำเร็จ แต่การหมกมุ่นมากเกินไปอาจไม่ใช่เรื่องดีต่อธุรกิจอย่างที่คิด เพราะการใช้เวลาที่มีค่าและพลังงานทั้งหมดไปกับการคิดหาเงินทุนจะเป็นตัวปิดกั้นคนทำธุรกิจออกจากเรื่องหรือหน้าที่อื่นๆ ที่มีความสำคัญมากกว่า เช่น แทนที่จะตั้งกลยุทธ์ทางธุรกิจอย่างมั่นคงและวางแผนการตลาดอย่างละเอียด โดยอาจติดอยู่ในกับดักของเกมการระดมทุน เพราะฉะนั้นควรจำไว้ว่าด้วยการวางแผนที่ดี ธุรกิจก็จะสามารถทำเงินได้ และถ้าธุรกิจสามารถทำเงินได้ เจ้าของก็สามารถบริหารเองได้โดยอาศัยการควบคุมหรือการเข้ามาเป็นเจ้าของจากคนภายนอกน้อยที่สุด
 
     3. พยายามควบคุมทุกอย่าง
         เป็นเรื่องธรรมดาที่คนทำธุรกิจ Startup รุ่นใหม่พยายามที่จะควบคุมทุกอย่างเพราะคิดว่าตัวเองเป็นคนเดียวที่รู้จักตัวโปรดักต์ บริการและแผนธุรกิจอย่างทะลุปรุโปร่ง แต่เนื่องจากการไร้ประสบการณ์ที่ผู้ประกอบการมีถือเป็นหน้าต่างบานใหญ่ของการจัดการการเงินอย่างไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร ดังนั้นจึงเป็นเรื่องที่ดีในการขอคำแนะนำและข้อมูลด้านกลยุทธ์ทางการเงินไม่ว่าจะเป็นจากนักบัญชี นักวางแผนทางการเงินหรือมิตรทางธุรกิจที่มีความเชี่ยวชาญทางการเงิน หรืออาจจะจ้างคนหรือทีมงานเข้ามาช่วยดูแล ซึ่งบุคคลแหล่านี้สามารถจะช่วยให้การบริหารจัดการเรื่องของการเงินมีศักยภาพมากขึ้นได้
 
     4. จ้างคน “ผิด”
         เพราะเรื่องของ “คน” สำคัญเสมอ ดังนั้นการเลือกคนเข้าทีมจึงเป็นสิ่งที่ต้องใส่ใจ ต้องรู้ว่าคนที่จะจ้างนั้นมีข้อดีและข้อเสียตรงไหน การจ้างคน “ผิด” นั้นไม่ได้หมายถึงเสียค่าใช้จ่ายในเรื่องของเงินเดือนเท่านั้นแต่ยังรวมไปถึงค่าฝึกอบรมต่างๆ ค่าหาคนใหม่และค่าใช้จ่ายอื่นๆที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้พนักงานที่ไร้ศักยภาพยังส่งผลถึงความสามารถในการผลิตและยอดขายที่ลดลง อีกอย่างที่ไม่ควรตกหลุมพรางคือการจ้างคนหรือที่ปรึกษาราคาถูกเพราะอาจไม่มีประสบการณ์หรือไม่น่าเชื่อถือซึ่งจะทำให้เจ้าของธุรกิจต้องเสียค่าใช้จ่ายมากขึ้นในภายหลังอีกด้วย
 
     5. ใช้จ่ายไม่ตรงจุด
         การที่เป็นคนมีอุดมการณ์และมาพร้อมกับความคิดสร้างสรรค์ที่ถือเป็นข้อดีในการทำ Startup แต่กลับเป็นอีกปัจจัยที่สามารถทำให้คนเหล่านี้ใช้จ่ายไปกับเรื่องที่ผิดที่ผิดทาง เช่น ผู้ประกอบการรุ่นใหม่มักใช้จ่ายเงินจำนวนมากเกินไปในเรื่องของการพัฒนาโปรดักต์หรือบริการใหม่โดยไม่มีการทำการตลาดที่เพียงพอ ดังนั้นการใช้เวลาและเสียค่าใช้จ่ายเพื่อทำต้นแบบผลิตภัณฑ์ให้ออกมาเพอร์เฟคที่สุดโดยไม่ได้ลงสนามและขายของจริง จะทำให้นักธุรกิจไฟแรงเหล่านี้พลาดประโยชน์ที่ควรจะได้ไปหลายอย่าง เช่น การได้รับฟีคแบคจากลูกค้าและผู้ใช้ รวมไปถึงการสร้างปฏิสัมพันธ์กับผู้บริโภคและเรียนรู้สิ่งที่พวกเขาต้องการจริงๆ เพื่อนำมาใช้ปรับปรุงและทำให้ธุรกิจสามารถตอบโจทย์ได้อย่างตรงประเด็น  
 

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจ Startup