Text : เจษฎา ปุรินทวรกุล

 

     ใครที่กำลังใฝ่ฝันว่าจะเลือกเส้นทางชีวิตมาเป็นผู้ประกอบการอย่างเต็มตัว คงมีเรื่องที่ต้องเก็บไปคิดกันมากมาย แต่รู้หรือไม่สิ่งที่สำคัญที่สุดที่เราต้องคิดและวางแผนให้รอบคอบคือเรื่อง “การเงินการบัญชี” ดังนั้น สิ่งที่ผู้ประกอบการมือใหม่ควรทำคือ ตั้งใจศึกษาเรื่องการเงินการบัญชีให้ดี แต่ถ้ามีเวลาไม่เพียงพอ หรือมีเรื่องที่ต้องให้คิดและตัดสินใจรออยู่อีกมาก ลองจ้างพนักงานการเงินและบัญชี หรือผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินการบัญชีมาช่วยเหลือ ก็เป็นทางออกที่ดีไม่น้อย โดย 8 เหตุผลที่เราควรมีผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินการบัญชีในช่วงเริ่มต้นของการทำธุรกิจ มีดังต่อไปนี้ 

    1. ทำให้เราสามารถโฟกัสกับการทำธุรกิจได้อย่างเต็มที่ ในช่วงเริ่มต้น ผู้ประกอบการควรให้ความสำคัญกับการวางรากฐานของธุรกิจให้แข็งแรง สร้างแนวคิดเรื่องการบริการ พัฒนาผลิตภัณฑ์ให้โดดเด่น มีความแตกต่างกับคู่แข่งในท้องตลาด เวลาที่อยู่ในมือของเรา จึงควรทุ่มไปที่การวางแผนบริหารจัดการภายในองค์กร กลยุทธ์ด้านการตลาด และเรื่องอื่นๆ ที่เราต้องบริหารจัดการในรายวัน 

    2. หลีกเลี่ยงจากสิ่งที่เราไม่รู้ และยากที่จะเข้าใจ ไม่ใช่ว่าเรื่องการเงินการบัญชีไม่มีความสำคัญ แต่ศาสตร์ประเภทนี้เป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลาเรียนรู้ ช่วงแรกในการทำธุรกิจ เราอาจยังไม่จำเป็นต้องเรียนรู้อย่างลึกซึ้ง แต่ก็ควรมีพนักงานหรือผู้เชี่ยวชาญดำเนินงานด้านเอกสารให้อย่างเป็นระบบ และเรียบร้อย ภายหลังจากที่ธุรกิจหรือร้านค้าเริ่มตั้งตัวได้ เราค่อยหันกลับมาศึกษาและทำความเข้าใจทีละนิดก็ยังไม่สาย

    ด้วยวิธีนี้ ความผิดพลาดที่เกิดขึ้นจะลดลง บางคนมองว่าไม่ต้องการเสียเงินจ้างพนักงาน ผู้เชี่ยวชาญ หรือที่ปรึกษาด้านการเงิน แต่ไม่เคยมองอีกมุมว่า หากเกิดความผิดพลาดขึ้นมา สิ่งที่เราต้องชดเชยนอกจากตัวเงิน (ที่อาจจะมากกว่าค่าจ้าง) แล้วยังมีเรื่องชื่อเสียงองค์กร และเครดิตองค์กรด้วย

     3. ปรับสมดุลชีวิตการทำงาน  หลังจากที่เราทุ่มเทเรื่องการทำธุรกิจด้วยตัวคนเดียวตลอดเวลา เราจะพบว่าเมื่อถึงช่วงเย็น ช่วงค่ำ หรือวันหยุดสุดสัปดาห์ เราแทบจะไม่มีเวลาเหลือให้กับตัวเองหรือคนที่เรารักเลย การแบ่งงานให้ผู้อื่นดูแลรับผิดชอบจะทำให้เรามีเวลาดูแลร่างกายและจิตใจของตัวเองให้มีความพร้อมในการบริหารธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    4. มีมุมมองที่แตกต่างคอยช่วยคิด เราอาจคิดว่าเรารู้เกี่ยวกับธุรกิจของตัวเองดีที่สุดแล้ว แต่เชื่อเถอะว่า การมีคนช่วยคิดและมองในมุมที่แตกต่างนั้น เป็นเรื่องที่ดีและมีความสำคัญเป็นอย่างมาก พนักงานบัญชีจะช่วยนำข้อมูลทางการเงินมาสรุปให้เราได้เห็นว่า ในแต่ละเดือนเราได้รับเงินมาจากใครบ้าง จ่ายค่าอะไรไปบ้าง ใครติด Credit Term กับเราบ้าง ติดอยู่กี่รายและรวมเป็นจำนวนเงินกี่บาท เงินหมุนเวียนทางธุรกิจมีเท่าไหร่ เงินสดในมือเหลืออยู่เท่าใด ทั้งหมดนี้เพื่อทำให้เราได้คิดวิเคราะห์อย่างรอบด้านอีกครั้งว่า ควรทำอะไรก่อนหลัง เครื่องจักรต้องรีบซื้อหรือไม่ ถ้าซื้อไปเงินจะพอจ่ายค่าแรงพนักงานกี่เดือน ต้องติดตามเงินกับลูกค้ารายใดบ้าง และจะได้เงินมาในช่วงวันที่เท่าใด ซึ่งข้อมูลและตัวเลขเหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญชนิดที่เราคิดไม่ถึงทีเดียว

    5. มั่นใจได้ว่า การจ่ายเงินของเราจะตรงเวลา บางทีเราอาจต้องเดินทางไปพบลูกค้า มีนัดด่วน มีธุระส่วนตัว จนลืมจ่ายเงินหรือลืมไปรับเงินจากคู่ค้า แน่นอนว่า ไม่มีใครอยากได้รับผลกระทบจากการชำระเงินล่าช้าหรือถูกเราลืมนัด เพราะฉะนั้นพนักงานด้านการเงินจะช่วยให้เราเบาแรงและเบาใจในเรื่องนี้ได้เป็นอย่างดี

    6. มั่นใจเรื่องแบบฟอร์มภาษี  ภาษี นับว่าเป็นเรื่องที่ยากที่สุดสำหรับผู้ประกอบการ และสำหรับหลายๆ คน นี่คือเรื่องที่ยากที่สุดในการทำธุรกิจ แต่เราจะหมดปัญหาเรื่องแบบฟอร์มภาษี เอกสารแนบ การกรอก ขั้นตอนการยื่น ฯลฯ เพียงแค่เราจ้างพนักงานเอาไว้เท่านั้นเอง 

     7. แก้ไขปัญหาความขัดแย้งด้านผลประโยชน์กับหุ้นส่วน  หากเรามีหุ้นส่วนในการทำธุรกิจมากกว่า 1 คน มีโอกาสที่ความคิดเรื่องการใช้จ่ายเงินจะไม่ตรงกันค่อนข้างสูง บางคนอาจมองเรื่องการจ่ายเงินเพื่อซื้อเครื่องจักรในการผลิต อีกคนมองเรื่องการตลาดออนไลน์ ขณะที่อีกคนมองว่ามียอดขายสูง แต่ทำไมเงินสดถึงเหลืออยู่ในบัญชีไม่มาก ทั้งหมดนี้ถือเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาธุรกิจในระยะยาว ดังนั้น พนักงานการเงินและบัญชี สามารถให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์เหล่านี้กับหุ้นส่วนทุกคนเพื่อให้สามารถทำความเข้าใจได้ตรงกัน

    8. ช่วยลดความเสี่ยงด้านการเงิน แม้ว่าเราจะคิดว่าเราช่วยประหยัดเงินทุกบาททุกสตางค์ให้กับองค์กรหรือการทำธุรกิจในทุกๆ ทางจนสุดความสามารถแล้ว แต่เชื่อเถอะว่า พนักงานการเงินและบัญชี ช่วยได้มากกว่านั้น เพราะเขามีความรู้ ช่วยอุดช่องว่างความผิดพลาดจาก Human Error ในเรื่องต่างๆ จากเจ้าของธุรกิจที่ยังไม่ชำนาญได้อย่างแน่นอน