Digital Marketing
มิติใหม่หาเงินในยุคดิจิทัล เปลี่ยนความสนุกจากเกมออนไลน์ให้เป็นรายได้ด้วยการขายคอนเทนต์
กิจกรรมยามว่างของคนยุคนี้ถ้าไม่ดู Netflix ก็เล่นเกม ยิ่งต้องกักตัวอยู่กับบ้านมากขึ้น ทำให้ธุรกิจวิดีโอเกมเป็นหนึ่งในธุรกิจที่มีการเติบโตอย่างโดดเด่นในปัจจุบัน
รายได้ของอุตสาหกรรมเกมโลกมีมูลค่าราว 1.46 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นกว่า 3.5 เท่าของรายได้บ็อกซ์ออฟฟิศของโรงภาพยนตร์ทั่วโลกในปี 2019 ส่วนในประเทศไทยเองก็มีผู้เล่นเกมมากกว่า 20 ล้านคน และมีรายได้ของอุตสาหกรรมเกมกว่า 19,000 ล้านบาท
วิดีโอเกมถือเป็นสื่อดิจิทัลที่สามารถสร้าง engagement ได้สูง เกมที่เป็นที่นิยมในปัจจุบัน เช่น Players Unknown Battle Ground (PUGB) Arena of Valor (ROV) Fortnite หรือ Among Us มีลักษณะการเล่นแบบโซเชียลมากกว่าสมัยก่อน โดยผู้เล่นสามารถนัดเพื่อนเข้าไปเล่นเกมด้วยกัน หรือหาเพื่อนใหม่ ๆ ในเกมได้ โดยเกมเหล่านี้ส่วนใหญ่ไม่มีเนื้อเรื่องที่มีจุดจบชัดเจน แต่เป็นลักษณะการเล่นซ้ำได้ เช่น Fortnite ที่เป็นเกมแนวเอาตัวรอดหรือแบตเทิลรอยัล
เช่น ผู้เล่นจะต้องสำรวจพื้นที่ หาอุปกรณ์มาป้องกันตัวเองและกำจัดผู้เล่นคนอื่น ผู้เล่นที่มีชีวิตรอดเป็นคนสุดท้ายจะเป็นผู้ชนะ โดยในแต่ละเกมจะมีผู้เล่นแข่งกันได้ถึง 100 คน หรือ เกม Among Us ที่ให้ผู้เล่น 4-10 คนเข้าร่วมปฏิบัติภารกิจบนยานอวกาศ แต่มีผู้เล่นที่เป็นเอเลี่ยนแฝงตัวมาเพื่อจะฆ่าทุกคน ผู้เล่นจึงต้องร่วมมือหาว่าใครปลอมตัวมาโดยการโหวตคนที่น่าสงสัยออกจากยานอวกาศ
โมเดลธุรกิจของเกมในปัจจุบันจึงไม่ได้พึ่งพาการขายเกมเพียงอย่างเดียว แต่เป็นการสร้าง ecosystem ที่ดึงดูดให้ผู้เล่นใช้เวลากับเกมมากขึ้น ในความเป็นจริงเกมฮิตส่วนใหญ่ผู้เล่นสามารถเล่นได้ฟรี เนื่องจากเกมดีเวลลอปเปอร์สามารถสร้างรายได้จากการขายของในเกมไม่ว่าจะเป็น อาวุธ ความสามารถพิเศษต่างๆ หรือ สกิน (เครื่องแต่งกาย) ได้ โดยผู้เล่นสามารถซื้อสินค้าที่สร้างบุคลิกภาพของตัวละครของตัวเองในเกมได้
เช่นเดียวกับการแต่งกายเพื่อแสดงออกถึงความเป็นตัวตนในชีวิตจริง นอกจากนี้ผู้เล่นก็สามารถขายหรือแลกเปลี่ยนของที่ได้มาในเกมได้ส่งผลให้เกิดตลาดขายสินค้าดิจิทัลที่ใช้ในเกมขึ้น เช่น Steam Community Market เป็นต้น
ดังนั้น เมื่อมีผู้เล่นเกมนั้นๆ มากพอแล้ว เกมดีเวลลอปเปอร์ก็สามารถหารายได้จากผู้เล่นอย่างสม่ำเสมอจากการนำเสนอไอเท็มใหม่ๆ ที่ผู้เล่นต้องการ นอกจากนี้ เกมดีเวลลอปเปอร์ยังสามารถสร้างรายได้จากการขายพื้นที่โฆษณาให้แก่แบรนด์ต่างๆ ได้ด้วย ยกตัวอย่างเช่น การขายพื้นที่โฆษณาข้างสนามฟุตบอลในเกมเหมือนที่มีอยู่ในสนามจริง หรือการทำ product placement ในตัวเกม เป็นต้น
ดังนั้น จึงเห็นได้ว่าธุรกิจเกมในปัจจุบันมีลักษณะเป็น ecosystem มากขึ้น ผู้เล่นเกมในปัจจุบันไม่เพียงสนใจในการเล่นเกมอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังสนใจในการมีส่วนร่วมที่จะสร้างสรรค์เกมด้วย ส่งผลให้โมเดลธุรกิจแบบ User Generated Content:UGC หรือการให้ผู้เล่นสามารถผลิตคอนเทนต์ด้วยตัวเอง เป็นที่น่าจับตามอง
โดยแพลตฟอร์ม UGC ที่เป็นที่คุ้นเคยคือ YouTube ที่มีรายได้ใน Q3 2020 กว่า 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยรายได้ส่วนใหญ่มาจากการขายโฆษณา (เทียบกับ Netflix ที่ผลิตคอนเทนต์เองและมีรายได้ 6.44 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ จาก subscribers) ในอุตสาหกรรมเกม สองผู้เล่นสำคัญที่ใช้โมเดลธุรกิจนี้ได้แก่ Minecraft และ Roblox
Minecraft เป็นเกมแซนด์บ็อกซ์ 3 มิติที่ไม่มีจุดมุ่งหมายในเกมชัดเจน คือผู้เล่นมีอิสระในการเลือกว่าจะเล่นเกมอย่างไร กราฟิกในเกมมีลักษณะเป็นบล็อกคล้ายเลโก้ให้ผู้เล่นสามารถใช้บล็อกในการสร้างโลกเกมได้ ไม่ว่าจะเป็นเก็บทรัพยากรและสร้างสิ่งก่อสร้างเพื่อเอาชีวิตรอด (survival mode) หรือ โหมดสร้างสรรค์ (creative mode) เช่นการสร้างโลกแฟนตาซีตามหนังสือ Lord of the Rings หรือการสร้างเมืองในอนาคต เป็นต้น และเมื่อสร้างเสร็จแล้วผู้เล่นยังสามารถนำโลกที่ตนเองสร้างขึ้นขายใน Minecraft Marketplace ได้ โดย Minecraft จะแบ่งส่วนแบ่งรายได้ให้แก่ครีเอเตอร์ที่นำของมาขายในมาร์เก็ตเพลส ในเดือนสิงหาคม 2020 Minecraft มีจำนวนผู้เล่นต่อเดือน (monthly active users) กว่า 126 ล้านคน และเป็นหนึ่งในเกมที่ขายดีที่สุดที่มียอดขายกว่า 200 ล้านเกม
Roblox เป็นแพลตฟอร์มของ USG 3 มิติที่มีจำนวนผู้ใช้กว่า 150 ล้านคนต่อเดือน ซึ่งรวมถึงหนึ่งในสามของเด็กอายุต่ำกว่า 16 ปี ในสหรัฐฯ Roblox ไม่มีเกมที่สร้างเองแต่ให้เครื่องมือสำหรับผู้เล่นในการสร้างเกมและไอเท็มต่าง ๆ เพื่อจะเอามาขายบนแพลตฟอร์มและแชร์ส่วนแบ่งรายได้ให้แก่ดีเวลลอปเปอร์ ณ เดือนกุมภาพันธ์ 2020 มีดีเวลลอปเปอร์กว่า 2 ล้านคนใช้ Roblox เพื่อสร้างเกมมากกว่า 50 ล้านเกม โดยดีเวลลอปเปอร์ส่วนใหญ่เป็นผู้เล่นเกม Roblox มาก่อนซึ่งจะอายุน้อยตามฐานผู้เล่นของแพลตฟอร์ม
ยกตัวอย่างเช่น Anne Shoemaker เกมดีเวลลอปเปอร์อายุ 20 ปีได้เงินจาก Roblox ราว 500,000 ดอลลาร์สหรัฐ ในระหว่างเดือนมีนาคมถึงเดือนสิงหาคมของปีนี้ และ Alex Balfanz ดีเวลลอปเปอร์อายุ 21 ปีเจ้าของเกม Jailbreak ที่มีการเล่นกว่า 4 พันล้านครั้งบน Roblox และสร้างรายได้หลายล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี โดยในปี 2020 Roblox คาดว่าจะจ่ายเงินให้แก่ดีเวลลอปเปอร์กว่า 250 ล้านดอลลาร์
ความสำเร็จของโมเดลธุรกิจแบบ User Generated Content ชี้ให้เห็นว่าเส้นแบ่งระหว่างผู้เล่นและดีเวลลอปเปอร์เริ่มหายไป และโอกาสในการสร้างรายได้ของผู้ที่มีความคิดสร้างสรรค์ก็เปิดกว้างมากขึ้น
Cr:SCBEIC
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจ Startup