Digital Marketing
ข้อมูลต้องรู้จาก Facebook รับมือกับผู้บริโภคคนไทยในอนาคต
เพราะผู้บริโภคในยุคปัจจุบันมีความต้องการที่ซับซ้อนขึ้น เพื่อทำความเข้าใจเทรนด์ดังกล่าว Facebook และ Ipsos ได้ทำการสำรวจผู้บริโภคจำนวน 12,500 คน ช่วงอายุ 18 ถึง 64 ปี จาก 14 ประเทศ ในช่วงเดือนสิงหาคมถึงกันยายน พ.ศ. 2563 โดยผู้ร่วมตอบแบบสอบถาม 1,000 คนมาจากประเทศไทย
การศึกษาชิ้นนี้มีชื่อว่า ‘Emerging Trends: The Forces Shaping the Future Today’ เป็นการต่อยอดมาจากผลการศึกษาชิ้นก่อนหน้าของ Facebook และได้พบว่าผู้คนนั้นกำลังมองหาหนทางใหม่ๆ ที่จะนำเวลาของพวกเขาคืนมา ค้นหาความสุขในการช้อปปิ้งออนไลน์ การมีปฏิสัมพันธ์กับแบรนด์ และการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาช่วยให้พวกเขามีส่วนร่วมกับชุมชนทั้งในระดับโลกและระดับท้องถิ่น
โดย Facebook ได้ออกมาเผยเทรนด์ล่าสุดของผู้บริโภคชาวไทยที่จะขีบเคลื่อนอนาคตดังนี้
ความสะดวก การมีส่วนร่วม และการรวมตัวออนไลน์
ร้อยละ 86 ของผู้ตอบแบบสอบถามชาวไทยเชื่อว่า ในอนาคต สิ่งต่างๆ ในชีวิตของพวกเขาจะต้องการเวลาของพวกเขามากขึ้นไปอีก ผู้คนจึงล้วนมองหาวิธีที่จะประหยัดเวลาและทำให้ชีวิตง่ายขึ้น
ร้อยละ 89 ของชาวไทยยินดีที่จะจ่ายเพื่อสินค้าและบริการที่ช่วยประหยัดเวลา
ร้อยละ 94 ก็นำเรื่องของความสะดวกสบายมาเป็นปัจจัยควบคู่ไปกับเรื่องของราคาเวลาตัดสินใจซื้อของ โดยที่พวกเขาต้องการนำเวลาไปใช้กับสิ่งที่สำคัญกับพวกเขามากขึ้น
ไม่ว่าจะเป็นการใช้เวลากับคนที่พวกเขารัก (ร้อยละ 60) เพื่อสุขภาพที่ดี (ร้อยละ 60) การเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ (ร้อยละ 60) หรือเพื่อการท่องเที่ยว (ร้อยละ 72) และทำสิ่งดีๆ คืนให้สังคม (ร้อยละ 32)
แต่อย่างไรก็ตาม นอกจากความรวดเร็วและความสะดวกสบายแล้ว ผู้บริโภคหลายคนยังคงต้องการประสบการณ์อันดื่มด่ำและการมีปฏิสัมพันธ์เพื่อการเชื่อมต่อกับแบรนด์ สินค้า และผู้บริโภคคนอื่นๆ ในระดับที่ลึกยิ่งขึ้น
โดยร้อยละ 86 ของผู้ตอบแบบสอบถามชาวไทยกล่าวว่าโซเชียลมีเดียนั้น ทำให้พวกเขาสามารถโต้ตอบและมีความสัมพันธ์กับแบรนด์ต่างๆ ในระดับที่ดีขึ้น
ผลการศึกษาได้แสดงให้เห็นว่าผู้บริโภคทั้งในระดับโลกและระดับท้องถิ่นล้วนแสดงความสนใจต่อประสบการณ์การช้อปปิ้งที่สามารถให้พวกเขาเข้าถึงแบรนด์และมีส่วนร่วมได้อย่างเต็มที่ ซึ่งจะทำให้เกิดการและสร้างความสัมพันธ์ที่ดียิ่งขึ้นระหว่างแบรนด์กับลูกค้า
โดยร้อยละ 65 ของผู้ตอบแบบสอบถามเผยว่ามีการได้ลองช้อปปิ้งผ่านการขายไลฟ์สดมากขึ้นในช่วงปีที่ผ่านมา และร้อยละ 28 ได้เกิดการซื้อของผ่านการไลฟ์สดในช่วงปีที่ผ่านมา และร้อยละ 84 ของคนกลุ่มนี้ก็ยังคงซื้อของผ่านช่องทางดังกล่าวทุกเดือน โดยผู้ตอบแบบสอบถามชาวไทย 9 ใน 10 คน (ร้อยละ 92) คาดว่าจะเพิ่มการซื้อของผ่านการไลฟ์สดในปีนี้
เทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น AR หรือ Augment Reality และวิดีโอนั้น ได้กลายเป็นพื้นฐานของประสบการณ์การช้อปปิ้งสำหรับผู้บริโภคไปแล้ว โดยร้อยละ 88 ของคนไทยกล่าวว่า AR ได้เสริมประสบการณ์รูปแบบดิจิทัลให้พวกเขา และพวกเขาก็หวังที่จะเห็นฟีเจอร์นี้เพิ่มเติมจากแบรนด์ต่างๆ
นอกจากนี้ยังมีการเปิดเผยว่าคนไทย 37 ล้านคนรับชม Facebook Watch อย่างน้อยหนึ่งนาทีในแต่ละเดือน โดนรายงานจาก Kantar ระบุว่าร้อยละ 97 ของผู้ที่รับชมวิดีโอของผู้เผยแพร่นั้น มีการใช้ Facebook Watch เป็นประจำ
เรื่องของชุมชนนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญเสมอมา และประเทศไทยก็เป็นผู้นำในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในแง่ของการพัฒนาชุมชนออนไลน์และเชื่อมต่อกับผู้คนในกลุ่มที่มีความสนใจและความชอบคล้ายๆ กัน โดยผู้คนกว่า 800 ล้านคนในเอเชียแปซิฟิกได้เป็นสมาชิกของกลุ่มกว่า 35 ล้านกลุ่มบน Facebook โดยผู้ตอบแบบสอบถามชาวไทยเกือบทั้งหมด (ร้อยละ 91) กล่าวว่าพวกเขาเป็นสมาชิกของชุมชนออนไลน์ และร้อยละ 81 ก็ยินดีเปิดรับแบรนด์ที่พร้อมที่จะมอบสิ่งดีๆ ให้กับพวกเขา
ตัวเลขเหล่านี้แสดงให้เห็นว่านักช้อปหลายคนมองว่าผู้ประกอบการท้องถิ่นนั้นเปรียบเสมือน “ครีเอเตอร์” กลุ่มสำคัญที่ยังคงพยายามปรับตัวในช่วงโรคระบาดโควิด-19 นี้ แนวความคิดนี้ได้แปลงเป็นความต้องการที่จะแสดงความเป็นหนึ่งเดียวกันของผู้คน โดยเห็นได้จากการที่ร้อยละ 89 ของผู้บริโภคที่ร่วมตอบแบบสอบถามกล่าวว่า พวกเขาซื้อของและสนับสนุนธุรกิจและผู้ประกอบการท้องถิ่น โดยยังยินดีที่จะจ่ายเพิ่มอีกด้วย ตราบใดที่สินค้าและบริการนั้นๆ มีคุณภาพดีเท่ากับตัวเลือกอื่น
“ตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นั้นกำลังอยู่ในช่วงของการเปลี่ยนแปลงทางการค้าแบบดิจิทัลอย่างแท้จริง ความคาดหวังของผู้บริโภคในวันนี้มีการปรับเปลี่ยนอยู่ตลอดเวลา ไม่เพียงแต่ความคาดหวังต่อแบรนด์เท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงความคาดหวังในชีวิตของพวกเขาเองด้วย ประเทศไทยนั้นก็เป็นหนึ่งในกระแสขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงนี้ ดังนั้นแบรนด์ต่างๆ จึงต้องปรับตัวรับกับความคาดหวังในแง่ของความสะดวกสบายจากผู้บริโภค และยังต้องมีแนวทางใหม่ๆ ที่จะช่วยสร้างประสบการณ์การช้อปปิ้งที่ดีให้กับผู้บริโภคยุคดิจิทัลอีกด้วย” แพร ดํารงค์มงคลกุล Country Director ของ Facebook ประเทศไทย กล่าวปิดท้าย
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจ Startup