เพราะออนไลน์กลายเป็นช่องทางสามารถสร้างรายได้ให้กับธุรกิจในปัจจุบัน ที่แบรนด์น้อยแบรนด์ใหญ่ต่างเข้ามาแข่งขัน นี่คือขั้นตอนที่จะทำให้ธุรกิจของคุณดูเป็นมืออาชีพมากขึ้น
 
 
     1. เข้าใจลูกค้าอย่างลึกซึ้ง

     มี 3 คำถามสำคัญที่ผู้ประกอบการต้องตอบให้ได้ คือ 1. ลูกค้าต้องการข้อมูลอะไรบ้าง เช่น สเป็กสินค้า ความเห็นของลูกค้าคนอื่น ราคา โปรโมชั่น 2. ลูกค้าหาข้อมูลสินค้าจากที่ไหน อาจจะเป็นเว็บไซต์ มาร์เก็ตเพลส หรือกูเกิล และ 3. จากข้อมูลเหล่านั้นจึงนำไปสู่การวางแผนการตลาดว่าจะสื่อสื่อสารและทำโฆษณาในรูปแบบใด
 
 
     2. คุณภาพสินค้าเป็นตัวเดินเกม
 
     ในยุคดิจิทัลเอื้อให้เกิดการบอกต่อหรือแนะนำต่อได้ง่ายมากๆ ฉะนั้น ผู้ประกอบการควรมุ่งเน้นไปที่คุณภาพหรือความเจ๋งของสินค้า แม้ไม่ทำโฆษณาคนก็ยังตามมาซื้อ ยกตัวอย่าง ร้านเจ๊ไฝที่โด่งดังไปทั่วโลก
 




     3. ท่องโลกอินเตอร์เน็ต

     ผู้ประกอบการต้องหมั่นติดตามอ่านความคิดเห็นลูกค้าในช่องทางต่างๆ ในสื่อโซเชียลว่าพวกเขารู้สึกกับสินค้าอย่างไร เพื่อนำคำติชมนั้นมาปรับปรุงสินค้า
 
 

     4. ให้ลูกค้าช่วยปิดการขาย

     ปัจจุบันผู้บริโภคมักอ่านรีวิวก่อนจะตัดสินใจซื้อสินค้า การให้แรงจูงใจเพื่อให้ลูกค้าอยากมารีวิวสินค้า หรือขออนุญาตเอาความคิดเห็นจริงของลูกค้ามาเผยแพร่จะช่วยกระตุ้นการตัดสินใจซื้อของลูกค้าได้
 




     5. เริ่มเก็บข้อมูลนำมาวิเคราะห์
 
     ผู้ประกอบการไม่ต้องไปกังวลเรื่องเทคโนโลยีมากนั้น สิ่งสำคัญคือต้องรู้ว่าต้องเก็บข้อมูลเกี่ยวกับอะไรบ้าง เช่น ใช้โทรศัพท์มือถือรุ่นอะไร เพราะรุ่นแพงก็มีโอกาสมีเงินในกระเป๋าเยอะ หรือยอดขายส่วนใหญ่มาจากต่างจังหวัดโดย ถ้ารู้ข้อมูลเหล่านี้ก็จะทำการตลาดได้ดีขึ้น
 

     6. ตั้งงบให้สัมพันธ์กับการขาย
 
     การทำการตลาดดิจิทัลมีผลต่อการลดต้นทุนการจัดจำหน่ายได้ด้วย ดังนั้นจึงสามารถมองงบ 2 ก้อนนี้รวมกันได้ ทำให้มีวิธีการพลิกแพลงและสร้างมิติการตลาดที่หลากหลายขึ้นได้
 

     7. ให้ผู้รู้เป็นคนทำ 

     ทางที่ดีถ้าให้ผู้เชี่ยวชาญเรื่องดิจิทัลมาช่วยดูแลจะทำให้เจ้าของกิจการมีเวลาไปบริหารงานด้านอื่นมากขึ้น
 

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจ Startup