Digital Marketing

4 เสาหลักการตลาดยุคใหม่ ถ้าไม่ใช้ระวังยอดขายร่วงรั้งท้ายคู่แข่ง





     จากสถานการณ์การระบาดของโควิด ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงมากมาย เกิดกฏระเบียบการป้องกันการระบาดที่เคร่งครัด พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป  การทำการตลาดในรูปแบบเดิมๆ อาจไม่ช่วยให้ธุรกิจอยู่รอดหรือเติบโตต่อไปได้  LINE ประเทศไทย เผย 4 เทรนด์หลักธุรกิจเติบโตได้ในยุคนี้





     1. Advanced Data Marketing 


     ข้อมูลยังคงเป็นสิ่งสำคัญในการทำการตลาด แต่ต้องเข้มข้นมากขึ้น ธุรกิจไม่ว่าจะขนาดเล็กหรือใหญ่ต้องให้ความสำคัญกับการมีข้อมูลของลูกค้าเป็นของตนเอง (1st Party Data) โดยต้องเป็นข้อมูลที่ลูกค้าอนุญาต ด้วยการสร้าง CDP หรือ Customer Data Platform เป็นของตนเอง เพื่อเดินหน้าสู่การทำ ‘Advanced Data Marketing’ ในทุกภาคส่วน (Full-Loop) ตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำสู่วิถีดิจิทัล ไม่ใช่เพื่อการสื่อสาร การตลาดเพียงอย่างเดียว


     โดยใช้ดาต้ามาพัฒนาตั้งแต่ระบบภายในองค์กรสู่ Cross-Functional Integration คือการ Sync หรือแชร์ดาต้าภายในแผนกต่างๆ ร่วมกันได้ดีกว่าเดิม ต่อยอดไปถึงการพัฒนา Co-Brand Campaign ให้แม่นยำมากขึ้น รวมไปถึงการนำเอาดาต้ามาวางแผน Customer Journey ที่เชื่อมต่อทุก Touchpoint ของธุรกิจให้เป็นหนึ่งเดียวกันเพื่อสร้างประสบการณ์การอันไร้รอยต่อให้กับลูกค้า ตัวอย่างแบรนด์ที่เริ่มสร้าง CDP และมีการนำดาต้ามาสร้าง Journey ที่ดีให้กับลูกค้า เช่น Starbucks และ Central ที่มีการใช้ข้อมูล 1st Party Data ที่ได้รับอนุญาตจากลูกค้าผ่าน LINE Official Account มาเชื่อมต่อกับฐานข้อมูลลูกค้าของตนเองจากช่องทางต่างๆ มาสร้างประสบการณ์การใช้งานของสมาชิกแต่ละคนได้เป็นอย่างดี

 



     2. หมดยุคหว่านแห
 

     ในขณะการยิงโฆษณาด้วยสูตรเดิมๆ อาจให้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพน้อยลง การสร้างกลยุทธ์การตลาดใหม่ๆ ที่ใช่สำหรับคนในแต่ละพื้นที่ Localize และ ‘ถูกจริต’ โดนใจกลุ่มเป้าหมายแม้จะได้จำนวนน้อยแต่มีคุณภาพ จะเป็นบรรทัดฐานใหม่ของกลยุทธ์การตลาดในโลกปัจจุบัน

     เห็นได้จากแบรนด์ใหญ่แบรนด์ดังระดับโลกหลายแบรนด์ ที่เริ่มละทิ้งแพทเทิร์นเดิมแบบสากลที่ทำมาช้านานสู่การสร้างช่องทาง ยอมปรับตัวให้เข้ากับตลาดเป้าหมาย โดยการใช้ LINE มาสร้างประสบการณ์การพูดคุยสื่อสารแบบ Personalize เฉพาะเจาะจงไปถึงผู้ใช้รายคน (1:1) ทำให้ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายรู้สึกใกล้ชิด เข้าถึงแบรนด์ได้ และที่สำคัญ ทำให้ลูกค้ารู้สึกเป็นคนสำคัญของแบรนด์ด้วยการดูแลเอาใจใส่แบบ Personalize ที่ตรงจุด




     

     3. Trust over Price  

     การพูดคุยถึงรายละเอียดสินค้า บริการกับแบรนด์โดยตรงผ่านแชตแบบ 1:1 นำมาสู่ความไว้เนื้อเชื่อใจในการซื้อสินค้า ถือเป็นเอกลักษณ์เฉพาะสำหรับผู้บริโภคไทย โดยลูกค้าจะมีแนวโน้มเลือกซื้อสินค้าจากแบรนด์ที่พวกเขาไว้ใจ มากกว่าปัจจัยเรื่องราคา หรือที่เรียกว่า ‘Trust Over Price’ เห็นได้จากยอดตัวเลขการแชตพูดคุยกับแบรนด์ต่างๆ ผ่าน LINE Official Account ที่พุ่งสูงขึ้นถึง 73% (เปรียบเทียบระหว่างครึ่งปีแรกและครึ่งปีหลังปี 2020) 






     4. Shoppertainment
 
     การขายของผ่าน LIVE ยังคงเป็นการขายของที่มีเสน่ห์โดนใจคนในแถบเอเชียโดยเฉพาะคนไทย การทำ LIVE ขายของที่ผสานความบันเทิง วาไรตี้ได้อย่างลงตัวหรือที่เรียกว่า Shoppertainment ถือเป็นเทรนด์การทำ LIVE Commerce ที่เหมาะกับคนไทยและจะเห็นมากขึ้นในปีนี้ โดยคาดว่าแบรนด์จะมองหาลูกเล่นมาสร้างสีสัน ความสนุกในโลกของ LIVE Commerce มากขึ้น และ Shoppertainment จะกลายเป็นรูปแบบหลักที่ผลักดันให้ LIVE Commerce เติบโต เห็นได้จากรายการ TuesLive x LINE SHOPPING รายการช้อปปิ้งออนไลน์ที่ผสานกลิ่นอายวาไรตี้ความบันเทิง ที่ประสบความสำเร็จด้วยยอดวิวทะลุเกิน 5 แสนคนในทุก Ep. และสามารถสร้างยอดขายสูงสุดจากแบรนด์เดียวได้มากถึงหลายแสนบาทภายใน 1 ชม. จาก Ep. ล่าสุดอีกด้วย
 
 

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจ Startup