6 วิธีขายของออนไลน์ปลดหนี้ 8 แสนใน 2 ปีจากคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว จิรัญญ์นันท์ รัตนพันธ์
Text: Neung Cch.
หากมองจากภายนอกที่ผู้หญิงคนหนึ่งสามารถเลี้ยงดูส่งเงินให้แม่ใช้ได้เดือนละหนึ่งหมื่นบาทกับส่งลูกสาวอีกหนึ่งคนเรียนวิศวกรรม เธอคนนี้คงจะมีฐานะการงานและรายได้ที่มั่นคงออกไปทางมั่งคั่ง และคงมีชีวิตบั้นปลายที่สบาย
อนาคตเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน คำนี้ยังใช้ได้ดีเสมอเช่นเดียวกับชีวิต จิรัญญ์นันท์ รัตนพันธ์ ที่จู่ๆ มารดาล้มป่วยกะทันหัน ต้องมีค่าใช้จ่ายในการรักษาสูงถึง 2 ล้านบาท แม้จะเป็นข้าราชการ ทำงานในตำแหน่งเจ้าหน้าที่อาวุโส ฝ่ายพัฒนาผู้ประกอบการและร่วมลงทุน 1 ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย แต่เธอก็สามารถเบิกค่ารักษาได้เพียง 1 ล้านกว่าบาทเท่านั้น ส่วนต่างที่เหลือทำให้เธอต้องเป็นหนี้บัตรเครดิตกว่า 30 ใบกับวงเงินรวมถึง 8 แสนบาท ที่ต้องเสียดอกเบี้ยตกเดือนละเจ็ดหมื่นบาท
หนี้มีได้ก็ปลดได้ถ้าใจสู้
ไม่มีเวลาให้คิดมาก ความหวังในการรักษาแม่อยู่ที่โรงพยาบาล ส่วนการะค่าใช้จ่ายคือความรับผิดชอบของผู้เป็นลูก จิรัญญ์นันท์จึงตัดสินใจเดินหน้าทำงานหารายได้เพิ่มเติมในช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ โดยการนำของสะสมสุดรักตั้งแต่วัยเด็ก เช่น ธนบัตร เหรียญ แสตมป์ มาจำหน่ายตามตลาดนัดวันละ 4 แห่ง ออกจากรั้วบ้านตั้งแต่ตี 4 จนกระทั่งตะวันตกดินถึงได้กลับเข้าบ้าน เรียกว่าทั้งสัปดาห์เธอไม่เคยมีวันหยุด ไม่ปล่อยให้มีเวลาว่าง เพราะทุกนาทีของเธอมีค่า ถึงไม่ได้ออกไปขายของข้างนอกบ้านก็ใช้สื่อออนไลน์ให้เป็นประโยชน์ โดยเฉพาะไลน์ที่เธอนำมาใช้เป็นเครื่องมือขายของให้กับเพื่อนๆ
เมื่อเห็นว่าเครื่องมือออนไลน์ก็สามารถทำเงินได้ จากที่ใช้แค่โปรแกรมไลน์ก็พัฒนาตัวเองในวัยสี่สิบเรียนรู้วิธีการขายของในเฟซบุ๊ก กรุ๊ป เมื่อตั้งใจจริงอายุก็ไม่ใช่อุปสรรค ทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้นแล้ว เจ๊ปากแดงกลายเป็นชื่อที่คนในวงการเรียกขานเธอ และรู้กันในกลุ่มนี้ว่าใครอยากได้แบงก์หรือเหรียญจากกรมธนารักษ์ ไม่ผิดหวังเพราะเธอมีสะสมไว้มากมายหลายรุ่นตั้งแต่เหรียญนิกเกิ้ลธรรมดา เหรียญเงิน เหรียญทอง ฯลฯ
สูตรขายของออนไลน์ให้ได้เงินเป็นกอบเป็นกำฉบับเจ๊ปากแดง
นับตั้งแต่เข้าสู่วงการอาชีพแม่ค้าออนไลน์เมื่อ 4 ปีที่แล้ว เจ๊ปากแดงสามารถใช้อาชีพขายของออนไลน์ช่วยปลดหนี้ให้กับตัวเองได้ภายในเวลาสองปี วันนี้เธอยอมเปิดเผยวิธีวิธีขายของออนไลน์ที่เธอเรียนรู้ด้วยตัวเองว่าหากจะให้สำเร็จต้องมีองค์ประกอบใดบ้างให้ชาว SME startup ได้ปรับใช้
หนึ่ง ต้องสร้างความเชื่อมั่นให้ลูกค้าก่อน
“การขายออนไลน์คือ การที่ลูกค้าเขาเอามาเงินให้เราก่อนถึงจะได้ของ ฉะนั้นเราต้องทำทุกอย่างให้ลูกค้าเชื่อใจให้ได้มากที่สุดเพื่อที่เขาจะได้กล้าจ่ายเงินให้เรา เช่น รูปภาพที่ถ่ายลงเฟซบุ๊กกับของจริงต้องเหมือนกัน”
สอง ต้องมีความพยายามที่เป็นเลิศ
กว่าจะขายของให้ลูกค้าได้สักคนไม่ใช่เรื่องง่าย เป็นแม่ค้าต้องรู้จักอดทน ไม่ล้มเลิกความตั้งใจง่ายๆ
สาม ต้องมีความรู้ในสิ่งที่ขาย
ไม่ว่าจะเป็นสินค้าอะไรก็ตาม ตัวคนขายต้องมีความรู้จริงในตัวสินค้า เช่น เหรียญมีกี่รุ่น ธนบัตรแต่ละรุ่นเรียกว่าอะไร หรือแม้แต่วิธีการสังเกตว่าของแท้ต่างจากของปลอมอย่างไร
สี่ ต้องรู้จักกลุ่มเป้าหมาย
ยิ่งทำความรู้จักลูกค้าได้มากเท่าไหร่โอกาสที่ขายของก็มีมากขึ้น
ห้า ต้องรู้วิธีปิดการขาย
ถ้าการที่มีลูกค้าสนใจสินค้า ตกลงราคาสั่งซื้อเป็นที่เรียบร้อยแล้วนั่นคือการปิดการขาย แต่สำหรับเจ๊ปากแดงเธอไม่ได้หยุดแค่นั้น แต่จะเริ่มสานต่อโทรศัพท์ไปหาลูกค้าเพื่อแนะนำว่ามีสินค้าตัวอื่นๆ เพิ่มเติม
“บางครั้งลูกค้าอาจไม่ทราบว่าเรามีสินค้าอะไรบ้าง และบางทีสินค้าชิ้นนั้นก็อาจเป็นที่สนใจของลูกค้า ซึ่งส่วนตัวชอบใช้วิธีโทรศัพท์คุยกับลูกค้ามากกว่าการโต้ตอบทางตัวอักษร เพราะมีโอกาสประสบความสำเร็จในการขายได้มากกว่า จากที่ทำตรงนี้มาปรากฏว่าจากที่ลูกค้าซื้อสินค้าชิ้นเดียวก็ซื้อเพิ่มอีกถึง 6 ชนิดในคนๆ เดียวกัน”
หก ต้องให้ความรู้ลูกค้า
“นอกจากขายของแล้ว ต้องให้ความรู้กับลูกค้าด้วย เช่น การเลือกสะสมธนบัตรที่มีเลขสวย 9 หน้า 9 หลัง เมื่อสะสมไว้นานๆ ราคาก็จะเพิ่มขึ้น 4-5 เท่า หรือธนบัตรที่ลายเซ็นต์คนสำคัญ จากที่ลูกค้าจะซื้อแค่ 1 ใบก็ซื้อเพิ่มอีกหลายใบ อันนี้คือสิ่งที่คนขายต้องมีความรอบรู้ในงานที่ทำ”
เบื้องหลังยอดนักขาย
นอกจากเคล็ดลับดังกล่าวแล้วเจ๊ปากแดงยังเสริมด้วยว่า ถ้าอยากขายของออนไลน์เก่ง ทางที่ดีควรเริ่มจากการขายของทางออฟไลน์มาก่อน เพราะจะทำให้ได้รู้จักพฤติกรรมลูกค้า วิธีการสังเกตท่าทาง วิธีการพูดคุย ถ้าฝึกบ่อยๆ ข้อมูลเหล่านี้จะเป็นประโยชน์ช่วยในการขายของได้ เช่น บางคนต้องปล่อยให้เขามีเวลาเลือกดูของเอง แต่บางคนต้องไปนำเสนอให้เขา
“เราเองเป็นแม่ค้าตั้งแต่เด็ก เอาผักบุ้ง ปลาไปขายตามบ้าน บ้านไหนที่ซื้อแล้ววันต่อไปเขาก็ไม่ซื้อ เราก็ยืนรอ สมัยนั้นคนสงสารเขาช่วยซื้อแต่ไม่เอาของ เรียกว่าขายทุกอย่าง ประกันชีวิตก็ขาย แล้วตอนนั้นบ้านอยู่ที่สุราษฎร์ธานีคิดดูว่าบ้านคนต่างจังหวัดแต่ละบ้านอยู่ห่างกันแค่ไหน ต้องเดินเป็น 50 กิโลเมตร ต้องใช้ความพยายามมากแค่ไหน กว่าจะปิดได้ 1 ราย พอเข้าเรียนมหาวิทยาลัยก็ยังขายอยู่แต่เปลี่ยนมาเป็นทำธุรกิจขายตรง ได้ระดับเพชร"
เธอเล่าต่อไปว่า เมื่อเรียนจบแล้วก็เคยไปทำงานที่ร้านวาตะศิลป์โลหะการ ขายอุปกรณ์ก่อสร้าง มีสินค้าเป็นพันๆ ชิ้น หน้าที่ของเธอคือการขายของ และสิ่งที่เธอต้องทำคือ ท่องจำรายละเอียดและราคาสินค้า เพื่อเวลาลูกค้าสอบถามสามารถตอบได้ทันทีเป็นการสร้างความประทับใจและความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า
"สิ่งเหล่านี้เหมือนเป็นประสบการณ์เพิ่มทักษะการขายให้กับตัวเองเรื่อยๆ การทำงานทุกอย่างต้องรู้จักอดทน ต้องรู้จักวิธีแก้ปัญหาจัดการกับความล้มเหลวที่เกิดขึ้น การทำงานให้ประสบความสำเร็จต้องแลกมาด้วยใจ" จิรัญญ์นันท์ กล่าวทิ้งท้าย
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจ Startup