Digital Marketing
10 วิธีมัดใจลูกค้าที่ใช้ได้กับทุกธุรกิจทุกโอกาส
เพราะวันนี้ผู้บริโภคมีตัวเลือกมากมาย ลำพังแค่คุณภาพสินค้าอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอที่จะดึงให้ลูกค้าเข้าหาแบรนด์ได้ 10 วิธีต่อไปนี้จะช่วยทำให้คุณมัดใจลูกค้าได้มากขึ้น ไม่ว่าจะป็นธุรกิจประเภทใดก็นำไปใช้ได้
1. มองธุรกิจจากมุมลูกค้า
การมองธุรกิจของคุณจากมุมมองของลูกค้าเป็นหนึ่งในวิธีที่จะช่วยยกระดับการบริการ และสร้างประสบการณ์ที่ดีแบบรอบด้านให้กับลูกค้า เริ่มจากการที่คุณทำความเข้าใจพฤติกรรมและความต้องการของลูกค้า โดยนำตัวเองเข้าไปอยู่ในจุดยืนของพวกเขาที่กำลังมองหาสินค้าและบริการ แล้วค่อยๆ ลงลึกถึงรายละเอียดและจุดบกพร่องในแต่ละขั้นตอนที่ได้เจอ เพื่อวางแนวทางแก้ไขได้อย่างเหมาะสมและตรงจุด
2. มีแพลตฟอร์มรองรับการขายทุกช่องทาง
นักช้อปแต่ละคนก็ชอบเลือกซื้อสินค้าไม่เหมือนกัน บางคนสะดวกทางซเชียลมีเดีย บางท่านขอบซื้อผ่านเว็บไซด์หรือแอปพลิเคชัน ดังนั้นการรักษาประสบการณ์ที่ราบรื่นและสม่ำเสมอให้กับลูกค้าในทุก ช่องทางจึงมีความสำคัญเป็นอย่างมากในการสร้างการรับรู้ให้กับแบรนด์ ทั้งยังมีส่วนช่วยในการรักษาความจงรักภักดีของลูกค้าที่มีต่อแบรนด์อีกด้วย
3. บริการแบบเฉพาะเจาะลึกรายบุคคล
ในยุคนี้ลูกค้าคาดหวังให้แบรนด์จดจำพวกเขาเหมือนคนพิเศษ มากกว่าเรื่องพื้นฐานเช่น การจำชื่อได้ แต่คุณต้องรวบรวมข้อมูลลูกค้ามากกว่านั้น เพื่อนำข้อมูลเหล่านี้มาประกอบในการปรับแต่งข้อความให้มีความเฉพาะตัวและตรงกับความต้องการของลูกค้าคนนั้นๆ จึงจะสามารถครองใจผู้บริโภคได้
4. กลยุทธ์ Omnichannel
เมื่อสิบห้าปีที่แล้ว ลูกค้าส่วนใหญ่ใช้เพียงสองช่องทางเพื่อประกอบการตัดสินใจในการซื้อสินค้า แต่ทุกวันนี้ ลูกค้าเลือกใช้ถึงหกช่องทางโดยเฉลี่ย! แม้จะฟังดูเป็นเรื่องยุ่งยาก แต่ปัจจุบันมีผู้เชี่ยวชาญที่คอยให้บริการการสื่อสารแบบ Omnichannel อยู่มากมายอาทิ Infobip จะทำให้การทำธุุรกิจทำได้ง่ายขึ้น
5. ซื่อสัตย์และโปร่งใส
ในการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า ความซื่อสัตย์และโปร่งใสเป็นจุดชี่วัดที่แสดงถึงความจริงใจของแบรนด์ ดังนั้น แบรนด์จึงควรเปิดเผยข้อมูลสำคัญให้กับลูกค้าอย่างชัดเจน เพื่อตอบสนองต่อความต้องการในด้านนี้ให้แก่ผู้บริโภค นอกจากนี้ คุณยังต้องมีความจริงใจและซื่อสัตย์ในทุก ๆ ขั้นตอนการสื่อสาร
6. ใช้เทคโนโลยีแต่บริการแบบมนุษย์
ถึงแม้ว่า Chatbots จะเข้ามามีส่วนช่วยในการสื่อสารกับลูกค้า แต่การสร้างความสัมพันธ์ด้วยตัวบุคคลนั้นยังเป็นสิ่งที่จำเป็นในบางสถานการณ์เช่นกัน หรือเมื่อมีเรื่องของความรู้สึกเข้ามาเกี่ยวข้อง ดังนั้น สิ่งสำคัญคือต้องมีพนักงานที่คอยสนับสนุนและพร้อมพูดคุยกับลูกค้า เพราะระบบการตอบกลับอัตโนมัติควรเข้ามาเพียงเพื่อสนับสนุนและเพิ่มประสิทธิภาพให้กับการทำงานของมนุษย์เท่านั้น ไม่ใช่เข้ามาเพื่อแทนที่โดยสมบูรณ์แบบ
7. ผู้นำทางบริการ
เมื่อคุณสร้างสรรค์การบริการลูกค้าแบบใหม่ที่เหนือกว่าคู่แข่ง คุณจะมีโอกาสสร้างลูกค้าใหม่ ๆ ให้กับแบรนด์ของคุณ ซึ่งพวกเขานี่แหละที่จะเป็นกระบอกเสียงเพื่อแนะนำแบรนด์ให้กับเพื่อน ๆ ของเขาต่อไป
หนึ่งตัวอย่างที่เกิดขึ้นคือ การที่แบรนด์เครื่องสำอางให้ลูกค้าสามารถทดลองใช้ผลิตภัณฑ์เสมือนจริงผ่านทางเว็บไซต์ได้ ตอบสนองการเว้นระยะห่างทางสังคม ในการสร้างบริการซึ่งเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าพวกเขามองเห็นสิ่งที่ลูกค้าต้องการเป็นหลัก นั่นก็คือการได้ลองผลิตภัณฑ์โดยไม่จำเป็นต้องไปหน้าร้านค้า หรือ สัมผัสกับสินค้าโดยตรงนั่นเอง
8. รู้จักวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้า
มีผลวิจัยชี้ให้เห็นว่า 90% ของนักธุรกิจ เชื่อว่าข้อมูลวิเคราะห์มีความสามารถในการพัฒนายอดขายได้มากกว่า 20%! เนื่องจากคุณสามารถใช้การวิเคราะห์นี้ในการเพิ่มประสิทธิภาพของการตัดสินใจได้อย่างมีเหตุผลมากขึ้น และเนื่องจากแบรนด์ใช้ช่องทางส่วนใหญ่ในการทำการตลาดที่เน้นการสนทนากับผู้บริโภค จึงทำให้แบรนด์สามารถรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับประสบการณ์ของลูกค้าได้ง่ายยิ่งขึ้น ยกตัวอย่างเช่น ช่วงเวลาที่ลูกค้ามีการใช้งานมากที่สุด ข้อความที่ลูกค้ามีการตอบสนองมากที่สุด และช่องทางที่ลูกค้าเลือกใช้เพื่อสื่อสารมากที่สุด เป็นต้น
9. รับฟังเสียงลูกค้า
งานวิจัยของ Harvard Business Review ชี้ว่าธุรกิจที่สามารถปรับใช้กลยุทธ์การสร้างความสัมพันธ์ทางอารมณ์กับผู้บริโภคได้นั้น มีอัตราการเติบโตด้านยอดขายเหนือคู่แข่งถึง 85%!
10. รวดเร็วทันใจ
ไม่ว่าคุณจะอยู่ในธุรกิจไหน สิ่งที่ผู้บริโภคส่วนใหญ่ให้ความสำคัญคือ เวลา! ไม่มีลูกค้าคนไหนชอบรอ
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจ Startup