Text : นนท์ธวัช ไชยวัง
 

 

Main Idea
 

• เชื่อว่าการทำเบเกอรีขายบนออนไลน์เป็นความฝันของหลายๆ คน โดยเฉพาะในช่วงที่เศรษฐกิจไม่สดใสและหลายคนคงอยากหารายได้เสริม

 

• แต่ว่าการทำธุรกิจนี้ก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง อะไรคือเทคนิคที่จะทำให้การทำเบเกอรีขายออนไลน์แล้วไปรอด เรามีคำตอบจากณัฐนรี จันทเปรมจิตต์ หรือเชฟนุ่น เจ้าของเพจเชฟนุ่น So Sweet...By ChefNun      

 



     ต้องยอมรับว่าการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้วงการอาหารครึกครื้นกันเลยทีเดียว โดยเฉพาะการขายผ่านออนไลน์ส่งแบบดิลิเวอรี จึงทำให้มีคนสนใจที่จะหาความรู้การทำอาหาร ทำเบเกอรีขายเพื่อหารายได้เสริมมากขึ้น โดยหลายคนลงทุนไปเรียนคอร์สออนไลน์ ส่วนคนงบน้อยก็อาศัยดูคลิปที่สอนฟรีๆ และวันนี้จะพาคนที่สนใจการทำเบเกอรี และอยากเริ่มต้นทำเบเกอรีขายไปเรียนรู้เทคนิคต่างๆ กับยูทูเบอร์ชื่อดังด้านเบเกอรี ณัฐนรี จันทเปรมจิตต์ หรือเชฟนุ่น เจ้าของเพจเชฟนุ่น So Sweet...By ChefNun     


     1. จะทำเบเกอรีขายต้องมีใจรัก

         การจะเริ่มต้นการทำเบเกอรีขาย ก่อนอื่นจะต้องมาจากใจรัก มีความชอบก่อนอันดับแรก เพราะหากมีใจรักแล้วจะมีแรงผลักดันทำให้เราแสวงหาความรู้เพิ่มเติมไปเรื่อยๆ แม้ว่าจะผิดพลาดก็มีแรงที่จะสู้ต่อไป โดยจะต้องขยันหาความรู้เพิ่มเติมใส่ตัว ซึ่งการหาความรู้เพิ่มเติมก็สามารถทำได้โดยการหาช่องออนไลน์ในการดูคลิปทำเบเกอรีที่มีคนติดตามจำนวนมาก แบบบอกสูตรอย่างละเอียด ให้จดสูตรมาลองทำดูหลายๆ ครั้ง หัดปฏิบัติจริงให้เกิดความเคยชิน แล้วความชำนาญก็จะเกิดขึ้น


     2. จดสูตรอย่างละเอียดยิบ ตวงวัดวัตถุดิบให้เป๊ะตามสูตร

         ถ้าจะให้ดีคนที่เริ่มฝึกหัดทำเบเกอรีขาย นอกจากจะดูคลิปแล้วต้องจดให้ละเอียดที่สุด เพราะความยากอยู่ที่เทคนิค ต้องใช้วิธีศึกษาไปเรื่อยๆ แล้วจะเข้าใจอย่างลึกซึ้งเอง ส่วนการเลือกวัตถุดิบก็สำคัญ ต้องเลือกเอามาลองก่อนว่าอันไหนดีไม่ดี ต้องชั่งวัดตวงให้ดี จดข้อผิดพลาดพร้อมแก้ไขในครั้งต่อไป อย่างไรก็ตาม การทำเบเกอรีนั้นห้ามผิดเพี้ยนแม้แต่นิดเดียว ต้องเป็นไปตามสูตรเป๊ะๆ หากผิดสูตร นั่นหมายความว่าพัง หากไม่อร่อยหรือถูกตำหนิจะมีผลต่อความรู้สึกของลูกค้าเป็นอย่างยิ่ง เพราะเราจะต้องพยายามทำอย่างไรให้คนซื้อเบเกอรีเราครั้งต่อไป ไม่ใช่แค่ครั้งเดียวจบ





     3. หัดทำแล้วให้คนอื่นชิม หมั่นพัฒนาสูตร   

          สำหรับคนที่ไม่มีความรู้การทำเบเกอรีมาก่อนเลยให้ทดลองทำแล้วชิมหลายๆ ครั้ง ให้คนรอบข้างชิม พร้อมสำรวจตัวเองให้แน่ใจว่าทำเบเกอรีอร่อยแล้วหรือยัง จนกว่าทุกคนจะบอกว่าอร่อยขายได้ หากสูตรยังไม่ลงตัวอย่าเพิ่งท้อให้ลองทำไปเรื่อยๆ เพราะจะต้องเข้าใจว่าทฤษฎีที่ได้ไปร่ำเรียนมา หรือดูจากคลิปบางอย่างนำไปใช้ในการปฏิบัติจริงไม่ได้ ที่สำคัญจะต้องหมั่นพัฒนาสูตรให้ดียิ่งๆ ขึ้นไป เพราะตัวเชฟนุ่นเองก็ทำแบบนี้มาเช่นกัน และจะต้องหมั่นสังเกตจุดเล็กๆ น้อยๆ ที่คิดว่าไม่สำคัญ เพราะจุดเล็กๆ อาจทำให้เสียหายใหญ่หลวงได้


     4. คุมปัจจัยลบ อากาศ อุณหภูมิ เตาอบ ให้ได้

         อีกหนึ่งเรื่องที่ไม่ใส่ใจไม่ได้เลยคือ เรื่องปัจจัยลบที่คุมยากมาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอุณหภูมิ อากาศ เตาอบ มีผลอย่างยิ่งที่จะทำให้เบเกอรีผิดเพี้ยนไปจากสูตรได้เพราะหากคุมปัจจัยเหล่านี้ไม่ดีพอ หรือหาทางแก้ไขไม่ถูกวิธีก็จะทำให้เบเกอรีเราพังได้ ท่องและจำให้ขึ้นใจไว้เลยว่า เบเกอรีแต่ละชนิดก็ต้องควบคุมปัจจัยเหล่านี้ไม่เหมือนกัน ยกตัวอย่าง เช่น Macaron ถ้ามีความชื้นสูงหน้าจะแตกง่ายมาก เพราะเป็นขนมที่ต้องใช้ความชื้นแบบต่ำ ดังนั้น คนที่จะเริ่มทำธุรกิจเบเกอรีขาย ต้องเรียนรู้เทคนิคเหล่านี้อย่างละเอียด

        ทั้งนี้จะต้องมองว่าการทำเบเกอรีเป็นทั้งศาสตร์ที่เป็นวิทยาศาสตร์และศาสตร์ทางด้านศิลปะ ส่วนเรื่องการใช้ศิลปะส่วนตัวในการตกแต่งหน้าเบเกอรีบางชนิดถ้าทำได้สวยงามก็จะเป็นจุดเด่นดึงดูดของลูกค้าได้เช่นกัน





     5. ภาพลงออนไลน์จะต้องสวยดึงดูด-ตรงปก

         เชฟนุ่นยังบอกอีกว่า การถ่ายภาพเบเกอรีที่จะลงขายบนออนไลน์ก็สำคัญ สามารถช่วยดึงดูดลูกค้าได้ หากภาพสวย น่ารับประทานก็สามารถเรียกแขกได้เป็นอย่างดี ซึ่งตัวเธอเองก็ประสบความสำเร็จจากกลยุทธ์นี้มาแล้ว อีกหนึ่งจุดสำคัญที่ทิ้งไม่ได้คือ ภาพต้องตรงปกด้วยเพราะประเด็นนี้ทำให้ลูกค้าซีเรียสเป็นอย่างมาก การโพสต์ก็ต้องโพสต์แบบสม่ำเสมอไม่ขาดหายไปเป็นเวลานานๆ พยายามสร้างคอนเทนต์บนออนไลน์อยู่ตลอดเวลา


     6. จะทำขายให้ใคร ใช้ช่องทางไหน

        เรื่องของการตลาดก็สำคัญ นอกจากจะทำเบเกอรีให้มีเอกลักษณ์เฉพาะสูตรให้โดดเด่นเหนือคู่แข่งแล้ว ในปัจจุบันการแข่งขันด้านการตลาดก็มีสูงขึ้นเช่นกัน การทำการตลาดดีมีชัยไปกว่าครึ่ง โดยเชฟนุ่นแนะนำว่า จุดสำคัญต้องถามตัวเองให้ได้คำตอบว่าจะทำขายให้ใคร ช่องทางไหน ลูกค้ามีกำลังซื้อที่เท่าไหร่ ถ้าตอบคำถามตรงนี้ได้ พร้อมกับการทดลองทำเบเกอรีจนมีความชำนาญแล้ว ใครๆ ชิมก็ว่าอร่อย ถ้าทำตรงนี้ได้แล้วก็สามารถใส่เกียร์เดินหน้าทำธุรกิจได้เลย แต่ในช่วงแรกอยากแนะนำว่าให้ขายออนไลน์ไปก่อน เพราะจะช่วยประหยัดงบประมาณ หากมีหน้าร้านเลยก็จะทำให้ใช้เงินลงทุนที่สูง ดังนั้น ขายผ่านออนไลน์ และรับออร์เดอร์ผ่านเพจ แล้วทำตามออร์เดอร์ที่สั่งเข้ามา จะทำให้คุมต้นทุนการผลิตได้ง่ายกว่า



 

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจ Startup