Digital Marketing

รู้ไว้ไม่แป้ก! 5 รูปแบบ Content Marketing ที่จะทำให้เพจไม่น่าเบื่อ

Text : นนท์ธวัช ไชยวัง




Main Idea
 
  • สิ่งที่สำคัญในการทำขายของออนไลน์คือการทำคอนเทนต์เพื่อสร้างความน่าสนใจให้เพจ
 
  • ซึ่งคอนเทนต์นั้นมีหลายรูปแบบตามวัตถุประสงค์ของการใช้งาน วันนี้จะพาไปเรียนรู้การทำ Content Marketing บนเพจไม่ให้น่าเบื่อ




     เป็นที่ทราบกันดีว่าทุกวันนี้ช่องทางการขายของออนไลน์อีกช่องทางหนึ่งที่ปังมาก คือการสร้างเฟซบุ๊กแฟนเพจมาเป็นเครื่องมือในการขายของ  เพราะง่าย ประหยัด เข้าถึงกลุ่มไปหมายได้กว้าง  แต่สิ่งที่สำคัญจำเป็นคือการทำคอนเทนต์เพื่อสร้างความน่าสนใจให้เพจ ให้ลูกค้ามองว่าเราไม่ฮาร์ดเซลล์จนเกินไป วันนี้จะพามาเรียนรู้ 5 รูปแบบการทำ Content Marketing บนเพจไม่ให้น่าเบื่อ ในรูปแบบกราฟฟิก และวิดีโอ ไม่ว่าจะจ้างทำ หรือทำเองผู้ประกอบการก็ควรรู้ไว้


     1. การนำเสนอด้วยรูปแบบ Picpost แผ่นเดียว

         การนำเสนอในลักษณะนี้จะเป็นการนำเสนอบนกราฟฟิกแผ่นเดียว ซึ่งบอกกล่าวรายละเอียดของคอนเทนต์ไว้ในแผ่นนี้ให้หมด คำแนะนำให้ สั้น กระชับ ได้ใจความ เข้าใจง่าย ไม่ใช้อักษรหรือคำรกจนเกินไป ดูเรื่องสี อักษร Mood and Tone ให้ไปด้วยกันได้ รวมถึงเรื่องราวที่จะนำเสนอต้องใช้รูปประกอบอะไร การออกแบบอื่นๆ ให้สื่อความหมายเรื่องราวที่เราต้องการนำเสนอ  รูปแบบหลักๆ คือจะแจ้งรายละเอียดต่างๆ บนกราฟฟิกแผ่นเดียว เช่น จะทำเพจขายเครื่องครัวก็อาจใช้คำว่า CF เสื้อผ้าออนไลน์กันรัวๆ หันมา CF เครื่องครัวให้ครอบครัวบ้าง
 

     2. การนำเสนอด้วยรูปแบบ
Gallery หลายแผ่น

         ต่อมาเป็นการนำเสนอผ่านรูปแบบ Gallery ซึ่งเป็นรูปแบบกราฟฟิกหลายแผ่น แต่ขอแนะนำว่าถ้า 4 แผ่นรวมปกจะดีมาก เพราะสามารถเห็นครบทั้ง 4 แผ่นบนเฟซบุ๊ก แต่หากมากกว่านั้นจะขึ้นเครื่องหมาย + ให้เห็นว่ามีจำนวนกราฟฟิกมากกว่า 4 แผ่นคอนเทนต์ลักษณะนี้ มักเล่นเป็นคอนเทนต์ต่อเนื่องกัน เช่น แผ่นที่ 1 เล่นคำว่า ของขวัญชิ้นไหนที่จะทำให้แฟนคุณตราตึงใจ แผ่น 2 บอกว่า เงินก้อนโต แผ่น 3 บอกว่า กระเป๋าแบรนด์-เที่ยวต่างประเทศ แผ่น 4 บอกว่า หรือจะเป็นชุดเครื่องครัวที่ไว้ทำอาหารกินในบ้าน แผ่นสุดท้ายจะต้องโยงเข้าสินค้าของเราแบบเนียนๆ


     3. การนำเสนอด้วยรูปแบบ Infographics

         มีอีกหนึ่งรูปแบบที่เจ้าของเพจ หรือแอดมินเพจ ที่จะทำ Content Marketing เพื่อให้เพจมีความเคลื่อนไหว นอกจากที่จะโพสต์ขายสินค้าแบบตรงๆ แล้ว คือการนำเสนอคอนเทนต์รูปแบบ Infographics ตรงนี้เหมาะกับการบอกกล่าวข้อมูลสินค้า บริการ หรือเนื้อหาที่มีข้อมูลเยอะๆ เพื่อย่อยข้อมูลให้ดูง่ายขึ้นจะต้องดึงใจความสำคัญ มาย่อยให้สั้นๆ นำเสนอผ่าน Infographics ให้ดูง่าย สบายตา อาจเป็นตาราง รูป แผนภูมิ กราฟ หรือตัวการ์ตูนก็ได้ เช่น คอนเทนต์เรื่องความต้องการของมนุษย์ของมาสโลว์ทฤษฎีพื้นฐานว่า คนเรามีความต้องการเป็นขั้นๆ มนุษย์มีความต้องการอะไรบ้าง ให้ทำเป็นขั้นๆ ไป จากนั้นขั้นสุดท้ายก็โยงเข้าว่า นอกจากนี้ยังต้องการสินค้าของบริษัทเราอีกด้วย

 
     4.
การนำเสนอด้วยรูปแบบ GIF

         ทั้งนี้รูปแบบ GIF ลงเพจก็จะช่วยให้อารมณ์ความรู้สึกคนดู หรือลูกค้า ได้เห็นอะไรกระดุกกระดิก  ตื่นเต้น ไม่น่าเบื่อ อันนี้สามารถเปลี่ยนอารมณ์ได้เพราะปกติผู้ประกอบการ หรือแอดมิน ก็จะใช้ภาพนิ่ง กราฟฟิก เป็นหลัก แต่แนะนำให้ลองเปลี่ยนการนำเสนอแบบ GIF ด้วยก็น่าจะดี เช่น อาจนำคอนเทนต์ยาว ของสินค้ามาย่อยสั้นๆ คล้าย Infographics แต่ตรงนี้เรานำมาทำเป็น GIF ให้มีความกระดุกกระดิก ประเด็นสำคัญคือการทำ GIF มีความยาก และใช้เวลาพอสมควร


     5. การนำเสนอด้วยรูปแบบวิดีโอ

         มีงานวิจัยหลายชิ้นระบุว่า การสื่อสารด้วยรูปแบบวิดีโอมักจะได้ผลดีกว่าการสื่อสารด้วยกราฟฟิกอื่นๆ เพราะมีทั้งภาพ และเสียง การเคลื่อนไหว เพลงประกอบ ซึ่งแนะนำว่าการทำวิดีโอไม่ควรเกิน 5 นาที หรือสั้นเกินไปจะดูไม่รู้เรื่อง หากยาวไปก็จะน่าเบื่อ อย่างไรก็ตามการทำวิดีโอมีหลายรูปแบบ อย่างเช่น ทำคล้ายๆ GIF แต่เพิ่มเสียงเพลงประกอบ หรือภาพเคลื่อนไหวอื่นๆ เข้ามาเสริม หรืออีกแบบทำเป็นเรื่องราว มีสตอรี่ มีการถ่ายทำคล้ายหนังสั้นแต่สุดท้ายก็โยงเรื่องราวเข้ามาหาสินค้าเรา ส่วนรูปแบบสุดท้ายคือ วิดีโอเน้นการขายสินค้า เห็นสินค้า มีเพลงประกอบหรืออาจปล่อยเสียงผู้บริหาร หรือผู้ใช้ที่เคยใช้สินค้ามารีวิว หรือปล่อยเสียงพรีเซ็นเตอร์ด้วยก็ได้
 

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจ Startup