Digital Marketing

รู้ไว้ไม่เจ๊ง! กับ 5 เทคนิคสำหรับร้านอาหารเดลิเวอรี่มือใหม่


 

Main Idea
 
  • ในช่วงนี้อาหารเดลิเวอรี่กำลังมาแรง ร้านอาหารจำนวนมากปรับตัวเข้าไปใช้ช่องทางนี้ในการสร้างรายได้ให้กับธุรกิจ
 
  • และนี่คือเทคนิคพื้นฐานเพื่อเป็นทิศทางและสร้างความมั่นใจให้กับร้านอาหารเดลิเวอรี่มือใหม่




     หลังจากที่ภาครัฐต้องออกมาตรการต่างๆ เพื่อควบคุมไม่ให้เกิดการแพร่ระบาด รวมถึงการไม่ให้นั่งรับประทานอาหารที่ร้าน ทำให้ร้านอาหารต้องปรับตัวด้วยการการเพิ่มช่องทางการขายทางออนไลน์มากขึ้น โดยการเข้าร่วมกับแอปฯ เดลิเวอรี่อาหาร แต่สำหรับร้านอาหารมือใหม่ อาจจะยังไม่มั่นใจกับการขายอาหารช่องทางนี้ ดังนั้น LINE MAN จึงได้ประมวล 6 เทคนิคพื้นฐานเพื่อเป็นทิศทางและสร้างความมั่นใจในการเริ่มต้นธุรกิจร้านอาหารบนแพลตฟอร์มเดลิเวอรี่ ดังนี้
 

     1. สร้างจุดเด่นให้ร้าน นำเสนอเมนูให้โดน 

         ท่ามกลางร้านอาหารจำนวนมาก ทั้งแบรนด์ใหญ่แบรนด์เล็กที่ผ่านตาลูกค้าวันละหลายๆ ร้าน การทำให้ร้านมีจุดเด่นและน่าสนใจเป็นเรื่องสำคัญ ผู้ประกอบการต้องสามารถดึงจุดเด่นของแบรนด์และเมนูผ่านการสร้างเรื่องราวที่น่าสนใจ แม้จะเป็นเมนูธรรมดาก็ตาม ตั้งแต่ความพิเศษของวัตถุดิบ วิธีการปรุง รสชาติ ที่มาของเมนู รวมไปจนถึงการนำเสนอที่น่าสนใจ เชิญชวนให้ลูกค้าถ่ายรูปและบอกต่อบนโลกโซเชียล เป็นการโปรโมทร้านต่อไปเป็นทอดๆโดยไม่ต้องลงทุนด้านสื่อ 


     2. รู้จักกลุ่มเป้าหมาย

         
ไม่เพียงแค่รู้ว่าจะขายอะไร  แต่ต้องรู้ว่าร้านจะขายให้กับใคร กลุ่มลูกค้าประเภทไหนที่จะเป็นผู้จ่ายเงินซื้ออาหารจากร้านเรา ข้อนี้เปรียบเสมือนอีกจุดเริ่มต้นข้อแรกๆ ที่ร้านจะต้องทำการบ้าน ซึ่งกลุ่มเป้าหมายจะเกี่ยวข้องกับการคิดเมนูและการวางราคาที่เหมาะสมให้สอดคล้องด้วยเช่นกัน 


    3. ไม่จำเป็นต้องมีหลายเมนู

         
หากร้านของคุณไม่ใช่ร้านอาหารที่ลูกค้าคุ้นเคยกับสั่งหลากหลายเมนูอยู่แล้ว การมีเพียงไม่กี่เมนูนั้นเป็นอีกกลยุทธ์ที่เหมาะสำหรับการเริ่มต้นขายอาหารผ่านช่องทางเดลิเวอรี่ เริ่มต้นจากการเน้นขายเมนูซิกเนเจอร์ของร้านเพียง 1-3 เมนู จะช่วยให้ร้านเป็นที่จดจำของกลุ่มลูกค้าได้ง่ายขึ้น อาจจะถามตัวเองด้วยคำถามง่ายๆ ว่า “อยากให้คนรู้จักร้านเราจากเมนูอะไร” ทั้งนี้ การขายเพียงไม่กี่เมนูยังช่วยควบคุมต้นทุน และทำให้บริหารวัตถุดิบได้ดีอีกด้วย  



   

     4. โปรโมชั่นสำหรับเดลิเวอรี่โดยเฉพาะ
 

         พฤติกรรมของการสั่งเดลิเวอรี่นั้นแตกต่างจากการสั่งทานหน้าร้าน การมีโปรโมชั่นที่รองรับพฤติกรรมและความต้องการการทานที่บ้าน จะยิ่งช่วยดึงดูดลูกค้าและช่วยเพิ่มยอดขายได้ไม่ยาก เช่น เมนูเสริมในราคาพิเศษ เพื่อเชิญชวนให้สั่งไปทานคู่กับเมนูหลัก หรือ การจัดชุดเมนูที่สามารถทานได้ทั้งวัน ก็ต่างเป็นสิ่งที่ลูกค้าเดลิเวอรี่ส่วนใหญ่ต้องการ โดยเฉพาะในช่วงที่ต้องจำเป็นต้องอยู่บ้านตลอดทั้งวันแบบนี้


    5. เมนูและปริมาณที่เหมาะสม

        
ไม่ใช่ทุกเมนูจะเหมาะกับการจำหน่ายผ่านบริการเดลิเวอรี่ เพราะบางเมนูมีข้อจำกัดเรื่องการควบคุมคุณภาพของอาหาร อาจจะขนส่งไม่สะดวกและเหมาะกับการทานที่ร้านมากกว่า เช่น ร้านชาบู - ปิ้งย่าง สามารถพลิกแพลงนำวัตถุดิบที่มีมาปรับเป็นเมนูผัดหรือต้มสำเร็จรูปพร้อมทาน หรือร้านที่มีเมนูขนาดใหญ่         ก็สามารถปรับให้เหมาะกับการทาน 1-2 คน เพื่อให้สะดวกต่อการทานและขนส่ง ง่ายต่อการตัดสินใจสั่ง และเพิ่มโอกาสการขายได้อีกด้วย 


     6. ใส่ใจ Packaging เพื่อเดลิเวอรี่ 

        บรรจุภัณฑ์อาหารสำหรับการเดลิเวอรี่นั้นเป็นเรื่องที่สำคัญ เพราะจะต้องคำนึงถึงการใช้บรรจุภัณฑ์ที่สะดวกต่อการขนส่ง รักษาคุณภาพทั้งรสชาติและหน้าตาของอาหารที่อาจเปลี่ยนไปจากระยะเวลาการเดินทาง เพื่อให้ลูกค้ารู้สึกได้ถึงคุณภาพอาหารที่ยังคงที่เมื่อเปิดทาน โดยเฉพาะปัจจุบัน บรรจุภัณฑ์แบบ Reuse สามารถนำกลับมาใช้ได้อีก หรือแบบที่สามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ ก็เป็นอีกข้อที่ร้านเดลิเวอรี่หันมาใส่ใจเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการรักษาสิ่งแวดล้อม 





     ทั้งนี้ วรานันท์ ช่วงฉ่ำ หัวหน้ากลุ่มพัฒนาธุรกิจและการตลาด LINE MAN เผยว่า LINE MAN เปิดกว้างตั้งแต่เริ่มต้น ซึ่งร้านอาหารต่างๆ ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพื่อที่จะขายบนแอปฯ โดยสามารถลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชั่น Wongnai Merchant App (WMA) ได้ด้วยตัวเอง ทำให้ในช่วงที่ผ่านมา (22 – 31 มีนาคม)  มีร้านอาหารใหม่เพิ่มเข้ามาถึงประมาณ 3 – 5 เท่าหรือมากกว่าประมาณ 15,000 ร้าน   ขณะเดียวกันได้พัฒนาฟีเจอร์ Self Pick-up สำหรับลูกค้าให้สามารถสั่งอาหารผ่านแอปฯและไปรับที่หน้าร้านด้วยตนเองโดยไม่เสียค่าสั่ง โดย LINE MAN จะไม่หักค่าธรรมเนียมใดๆจากออเดอร์นั้น แม้จะเป็นร้านพันธมิตรประเภท GP ก็ตามในเวลานี้ เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระทั้งลูกค้าและร้านอาหาร และยังได้เร่งขยายร้านอาหารที่รับชำระเงินผ่านบัตรเครดิต เพื่อช่วยร้านอาหารให้มีวิธีการชำระเงินที่ครบครัน และสามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้”


     ขณะเดียวกันผู้ประกอบการร้านอาหารทุกประเภท สามารถเข้าถึงเครื่องมือในการทำการตลาดได้ด้วยตัวเองผ่าน  Wongnai Merchant App (WMA) ซึ่งเป็นแอปพลิเคชั่นจัดการออเดอร์ที่ LINE MAN และพันธมิตรอย่าง Wongnai ร่วมกันพัฒนาขึ้นมาเพื่อเป็นการติดอาวุธให้กับร้านอาหารบนสนามฟู้ดเดลิเวอรี่ ไม่ว่าจะเป็นการบริหารจัดหน้าร้านออนไลน์ รับออเดอร์เดลิเวอรี่และ การสรุปยอดขายเดลิเวอรี่ในแต่ละวัน ฟังก์ชั่นถ่ายภาพอาหารเพื่อโปรโมทข้ามแพลตฟอร์มราวกับมืออาชีพ ทั้งยังสามารถจัดทำโปรโมชั่นเพื่อสื่อสารไปยังลูกค้าได้ด้วยตัวเอง (Self Promotion)  โดยทั้งหมดนี้ไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ซึ่งเหล่านี้เป็นการตอกย้ำความมุ่งมั่นของ LINE MAN ในการเป็นผู้ช่วยเบอร์หนึ่งสำหรับพันธมิตรร้านอาหารเพื่อขับเคลื่อนตลาดฟู้ดเดลิเวอรี่อย่างมีประสิทธิภาพ 
 

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจ Startup