Digital Marketing
ผู้ประกอบการมือใหม่ตั้งราคาอย่างไรไม่ให้เจ๊ง!
Main Idea
- ปัญหาหนึ่งของผู้ประกอบการมือใหม่คือ ไม่รู้ว่าจะตั้งราคาสินค้าอย่างไรดี กลัวว่าถ้าตั้งราคาสูงเกินไปก็จะไม่มีใครซื้อ แต่ถ้าตั้งราคาต่ำมากๆ ก็จะไม่เหลือกำไร
- นี่จึงเป็นคำแนะนำถึง 4 วิธีการตั้งราคาแบบง่ายๆ ที่จะช่วยให้ธุรกิจไม่เจ๊ง
ผู้ประกอบการมือใหม่มักผ่านโลก ผ่านประสบการณ์อะไรมาไม่มาก และมักเจอปัญหาโลกแตก คือ การตั้งราคาสินค้า ซึ่งถ้าตั้งไว้ต่ำเกิน กำไรก็หายหมด ดีไม่ดีเข้าเนื้ออีก แต่ถ้าตั้งไว้สูงก็ขายยาก และอาจทำให้เกิดปัญหาอื่นตามมา เช่น สินค้าค้างสต็อก และธุรกิจไม่มีเงินหมุน
แม้ว่าปัญหาเรื่องการตั้งราคาจะชวนปวดหัวจนต้องกินยาพารา แต่ถ้าลองนำ 4 วิธีตั้งราคาอย่างง่ายไปใช้ รับรองว่านอกจากจะเลิกกุมขมับแล้ว ยังทำให้ร้านไม่เจ๊งด้วย
1. ดูราคาคู่แข่ง เข้าไปดูราคาของร้านคู่แข่งที่ขายสินค้าประเภทเดียวกันหรือคล้ายคลึงกันกับสินค้าของร้านเรา แล้วกลับมาตั้งราคาสินค้าให้ต่ำกว่า เพื่อดึงลูกค้ามาที่ร้าน แต่ถ้ามั่นใจว่าสินค้าดีกว่าคู่แข่ง แนะนำให้ตั้งราคาสูงกว่า แต่ต้องเป็นราคาที่กลุ่มลูกค้าเอื้อมถึงได้ ถ้าอยากรู้ว่าราคาใดเป็นราคาที่ลูกค้ายินดีซื้อ แนะนำให้ถามคนที่มีแนวโน้มเป็นลูกค้า
2. อย่าลืมบวกค่าอื่นๆ ผู้ประกอบการหน้าใหม่ส่วนใหญ่ตั้งราคาจากต้นทุนเท่านั้น จึงไม่น่าแปลกใจถ้าจะเกิดเหตุการณ์ทุนหาย กำไรหด แต่ถ้าไม่อยากเผชิญเหตุการณ์นี้ให้ตั้งราคาจาก (ต้นทุนคงที่ X 2) + 20 เปอร์เซ็นต์ ซึ่ง 20 เปอร์เซ็นต์นี้ครอบคลุมค่าแรงตัวเอง ค่าแพ็กเกจจิ้ง ค่าขนส่ง และค่าอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
3. ลงท้าย 9 เป็นดี การตั้งราคาที่ลงท้ายด้วยเลข 9 เช่น 99, 199 หรือ 299 กระตุ้นให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อเร็วกว่าราคา 100, 200 หรือ 300 เพราะแม้จะแตกต่างกันแค่ 1 บาท แต่ลูกค้าก็อยากประหยัดเงินจำนวนนี้ไว้
4. อย่าตั้งต่ำเกินไป เพราะลูกค้าจะมองว่าสินค้าไม่มีคุณภาพ และหากขึ้นราคาในภายหลัง จะทำให้ลูกค้าชะลอการตัดสินใจซื้อและอาจสูญเสียพวกเขาไปให้ร้านอื่น แต่ถ้าตั้งราคาสูงแล้วลดราคาในภายหลัง จะทำให้ลูกค้าเกิดความสนใจในสินค้า
นี่ก็เป็นอีก 4 วิธี เคล็ดลับที่ไม่รับในการตั้งราคาอย่างง่ายลองนำไปใช้กันดูรับรองว่านอกจากจะเลิกกุมขมับแล้ว ยังทำให้ร้านไม่เจ๊งแน่นอน
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจ Startup