Digital Marketing
IGTV แค่ใช้เป็น ลูกค้าก็มา
Instagram โซเชียลมีเดียฮิตที่ปัจจุบันมีผู้ใช้งานกว่า 800 ล้านคนทั่วโลกได้เปิดตัว IGTV แอปพลิเคชันที่มาในรูปแบบของ Long-Form Video ที่อัพโหลดวิดีโอที่มีความยาว 60 นาทีได้ และรับชมได้ทั้งในแอปฯ IGTV และ Instagram โดยจุดเด่นที่ทำให้ IGTV น่าสนใจคือ วิดีโอที่อัพโหลดไปแล้วจะอยู่ตลอด ไม่หายไปเหมือนวิดีโอใน IG Stories และแชร์ไปยังเฟซบุ๊กได้ ซึ่งช่วยให้วิดีโอถูกเห็นมากขึ้น
วิธีการใช้งานแอปฯ นี้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับแบรนด์คือ ทำช่องของแบรนด์ เพื่อใช้เป็นช่องทางแนะนำสินค้าและบริการ ตลอดทั้งส่งต่อคอนเทนต์ที่สร้างสรรค์มาเพื่อผู้ติดตามแบรนด์ โดยสิ่งที่ต้องคำนึงถึงในการทำวิดีโอสำหรับอัพโหลดลงช่อง IGTV คือ ผู้ติดตามแบรนด์คือใคร และมีความชอบแบบไหน เช่น ถ้าเป็นวัยรุ่นที่ชอบดูวิดีโอตลก วิดีโอในช่องก็ควรมีเนื้อหาที่ชวนหัวเราะ ใช้คำที่เข้าใจง่ายและใช้คำฮิตของวัยรุ่นในช่วงนั้น
นอกจากนี้ หากแบรนด์สามารถทำวิดีโอในช่องให้กลายเป็นไวรัลได้จะส่งผลดีอย่างมาก เพราะวิดีโอจะถูกจัดเข้าในหมวด Popular ที่ช่วยให้คนเห็นวิดีโอมากขึ้น และแบรนด์ก็เป็นที่รู้จักในวงกว้างด้วย เนื่องจากระบบจะแสดงวิดีโอในหมวด Popular ของผู้ใช้ทั่วไป ไม่ใช่เฉพาะผู้ติดตามแบรนด์
ตัวอย่างวิดีโอที่มียอดวิวหลักแสน เช่น Taylor Hill’s Workout 360๐ วิดีโอโฆษณาชุดออกกำลังกายคอลเลกชันล่าสุดของ Victoria’s Secret มีความยาว 1 นาที 20 วินาที มียอดวิวสูงถึง 311,000 วิว ในวิดีโอมีภาพที่หมุนชุดออกกำลังกายให้ดูแบบ 360๐ มีบทสัมภาษณ์ของ Taylor Hill เกี่ยวกับการออกกำลังกาย พร้อมทั้งสวมชุดออกกำลังกายของแบรนด์สาธิตการออกกำลังกาย และวิดีโอ Back to School ของ Forever21 ความยาว 40 วินาที มียอดวิว 121,000 วิว เนื้อหาในวิดีโอเล่าถึงความกระตือรือร้นในแต่ละวันของสาวคนหนึ่ง
อีกหนึ่งวิธีที่เป็นที่นิยมในการทำวิดีโอลงช่อง IGTV คือ สร้างรายการรีวิวสินค้าโดยเหล่าคนดังในโลกออนไลน์ จากนั้นอัพโหลดวิดีโอลงในช่องของแบรนด์และช่องของคนดังคนนั้น วิธีนี้จะช่วยให้แบรนด์ได้ฐานลูกค้าเพิ่มและยอดขายพุ่งก็ต่อเมื่อเลือกใช้คนดังที่มีไลฟ์สไตล์หรือมุมมองความคิดเดียวกันกับแบรนด์ เป็นคนที่มีอิทธิพลต่อลูกค้าของแบรนด์ และมีผู้ติดตามหลักแสนขึ้นไป
อย่างไรก็ตาม วิดีโอในช่องจะมียอดวิว ยอดไลค์ และยอดแชร์สูงหรือต่ำขึ้นอยู่กับจำนวนผู้ติดตาม Instagram แบรนด์ด้วย เพราะเมื่อแบรนด์อัพโหลดวิดีโอลงช่อง ระบบจะแจ้งเตือนผู้ติดตามทันที นี่แสดงให้เห็นว่าคนกลุ่มแรกที่ดูวิดีโอคือ ผู้ติดตามแบรนด์ ส่วนกลุ่มที่สองคือ ผู้ใช้ทั่วไปที่ค้นหาช่องของแบรนด์ในช่องค้นหา หรือเจอวิดีโอในหมวด Popular ดังนั้น สิ่งที่แบรนด์ต้องทำอีกอย่างคือ เพิ่มจำนวนผู้ติดตาม
ทั้งนี้ คอนเทนต์เป็นสิ่งที่มีผลต่อการตัดสินใจกดติดตามแบรนด์ ซึ่งเครื่องมือที่ช่วยให้คอนเทนต์สะดุดตาต้องจนกดติดตาม ได้แก่
- Wordswag ช่วยให้คอนเทนต์ดูโดดเด่นโดยการเพิ่มตัวหนังสือลงบนรูปภาพ เพียงแค่ผู้ใช้ทำการพิมพ์ข้อความที่ต้องการผ่านทางสมาร์ทโฟน แล้วกด Save & Close เพื่อทำการบันทึกและปิด โดยมีตัวอักษรหลายแบบและหลายสไตล์ให้แบรนด์ได้เลือกใช้เพื่อสร้างความสะดุดตาให้กับคอนเทนต์นั้นๆ ได้
- Sprout Social จะเข้ามาช่วยให้แบรนด์เข้าถึงข้อมูลที่มีประโยชน์มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการดูข้อมูลในช่วงเวลาที่ต้องการหรือสามารถเปรียบเทียบข้อมูลระหว่างแต่ละโพสต์ได้ นอกจากนี้ ยังสามารถตั้งโพสต์ล่วงหน้าได้ช่วยให้การเผยแพร่คอนเทนต์ต่างๆ มีประสิทธิภาพและสะดวกมากขึ้น
- Hootsuite เครื่องมือจัดตารางเผยแพร่คอนเทนต์ แค่เขียนคอนเทนต์เตรียมไว้ เลือกสื่อที่ต้องการ และกำหนดวันที่เผยแพร่ แล้วโพสต์นั้นจะถูกส่งตรงไปที่ฟีดข้อมูล Instagram ตามเวลาที่กำหนด นอกจากนี้ เจ้าเครื่องมือดิจิทัลนี้ยังช่วยในการตรวจสอบกิจกรรม ติดตามผู้ใช้และวัดประสิทธิภาพด้วยการวิเคราะห์ ทั้งยังอนุญาตให้บัญชี Instagram สามารถจัดการได้โดยผู้ใช้หลายคนพร้อมกัน ช่วยเพิ่มความสะดวกต่อการทำงานร่วมกันและมอบหมายหน้าที่ให้กับสมาชิกในทีมได้
- Repost เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถทำการรีโพสต์คอนเทนต์และให้เครดิตกับงานต้นฉบับโดยผู้ใช้ไม่ต้องมานั่งกังวลเรื่องรูปที่ติดลิขสิทธิ์อีกต่อไป ด้วยเครื่องมือนี้จะช่วยให้แบรนด์สร้างการรับรู้ได้มากขึ้นโดยใช้วิธีการรีโพสต์เนื้อหาจากแหล่งต่างๆ
Must Know about IGTV
* ถ่ายวิดีโอแนวตั้ง เพื่อให้แสดงผลแบบ Full-Screen และรองรับการรับชมผ่านมือถือ
* วิดีโอจะน่าคลิก ถ้ามีชื่อและคำบรรยายสั้นๆ เกี่ยวกับเนื้อหาในวิดีโอ
* อัพโหลดวิดีโอลงช่องได้ทั้งในแอปฯ IGTV แอปฯ Instagram และเว็บไซต์ Instagram
* มีข้อมูลเชิงลึกของแต่ละวิดีโอให้ดู
* คนดูวิดีโอจนจบ เพราะคอนเทนต์ไม่ใช่ความยาว
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจ Startup