“ข้ออ้าง” เป็นสิ่งที่คนมักใช้ในการไม่ลงมือทำอะไรสักอย่างเพียงเพื่อทำให้ตัวเองรู้สึกสบายใจ ยิ่งเฉพาะกับโลกธุรกิจถือว่าเป็นอุปสรรคชิ้นโตคอยขัดขวางผู้คนมากมายให้ไม่กล้าพอที่จะลองสิ่งใหม่และก้าวออกจากพื้นที่คุ้นเคยที่มี มาดู 5 ข้ออ้างยอดฮิตที่หยุดคนให้ไม่เริ่มทำธุรกิจสักทีกัน
 
     1. ยังไม่ใช่เวลาที่เหมาะสม
     ความลับอย่างหนึ่งที่ผู้ประกอบการต้องรู้คือ มันไม่เคยมีเวลาที่เหมาะสมในการเริ่มต้นลงมือทำกิจการ หลายคนอาจเริ่มจับธุรกิจตั้งแต่วัยรุ่น ในขณะที่บางคนกว่าจะเริ่มทำก็เข้าสู่ช่วงท้ายๆ ของชีวิตแล้ว ส่วนคนที่ไม่ลงมือทำสักทีมักจะมีข้ออ้างเข้าข้างตัวเองอยู่เสมอๆ ไม่ว่าจะเป็นยังมีเงินไม่พอ ประสบการณ์น้อย ไม่มีเวลา ไม่มีคอนเนกชั่น ไม่มั่นใจ อยากมีทักษะมากกว่านี้ก่อนสารพัดสารเพจะหยิบยกขึ้นมา ดังนั้นถ้าไม่อยากปล่อยความฝันให้หลุดมือและเสียเวลาไปฟรีๆ ควรมีความศรัทธาว่าตอนนี้แหละคือเวลาที่ใช่และจงก้าวออกไปทำในสิ่งที่ตั้งเป้าเอาไว้
 
     2. ถ้ามันเจ๊งล่ะ
     อีกหนึ่งข้ออ้างที่หยุดคนมานักต่อนักก็คือ ถ้าทำธุรกิจแล้วมันเจ๊งล่ะจะทำยังไง แม้ในความเป็นจริงจะโหดร้ายไปสักหน่อยที่ 80 เปอร์เซ็นต์ของธุรกิจมักจะเจ๊งภายใน 18 เดือนแรกหรือ 1 ปีครึ่งเท่านั้น แต่สิ่งหนึ่งที่ผู้ประกอบการควรมีคือ การยอมรับในความเป็นไปได้ที่จะมีความล้มเหลวเกิดขึ้น และถ้าทำไปแล้วมันพังไม่เป็นท่าอย่างน้อยก็ถือว่าได้เรียนรู้บางอย่างที่มีค่าเกี่ยวกับตัวเอง ธุรกิจและชีวิต ซึ่งอาจชี้นำไปสู่การทำธุรกิจอย่างอื่นหรือบอกให้รู้ว่าทางนี้มันไม่ใช่สำหรับคุณ ซึ่งหากไม่เคยลองทำก็จะไม่มีวันรู้เลย  
 
     3. ไม่มีเงินเก็บมากพอ
     หลายคนที่ปรารถนาอยากจะมีธุรกิจเป็นของตัวเองมักเป็นหัวหน้าครอบครัวและต้องอาศัยการมีเงินเดือนประจำเพื่อนำมาใช้จ่ายในชีวิต ดังนั้น เงิน จึงกลายเป็นอีกปัจจัยหลักที่จะสร้างความกังวลให้กับคนเหล่านั้นในการเริ่มต้นทำกิจการ ทางที่ดีสำหรับผู้ที่อยากจะเข้ามาทำธุรกิจจริงๆ ควรทำการเก็บเงินให้ใช้ได้ถึง 18 เดือนโดยที่ไม่มีรายรับเข้ามาให้ได้ เพราะถือเป็นช่วงเวลาสุ่มเสี่ยงที่วัดว่าธุรกิจจะได้ไปต่อหรือไม่ และถ้าหากมันไม่เวิร์คจริงๆ ก็สามารถที่จะปิดกิจการและหางานใหม่ทำได้  
 
     4. คนอื่นไม่คิดว่าเราเป็นผู้ประกอบการ
     อย่างแรกเลยหากจะเข้ามายืนในวงการนี้ต้องมองข้ามความคิดของคนอื่นที่มีต่อตัวเอง เพราะไม่ว่าจะยังไงคนพวกนี้ก็มักจะสงสัยในชีวิตผู้อื่นอยู่เสมอ หากเลี่ยงได้ก็ควรเลี่ยง แต่สิ่งที่สำคัญมากกว่านั้นคือการลงมือทำธุรกิจให้เกิดขึ้นจริงซึ่งจะช่วยเปลี่ยนความคิดของคนที่ไม่เชื่อในตัวคุณให้หันมามองในฐานะของการเป็นผู้ประกอบการคนหนึ่งได้  
 
 
     5. มันดูยากเกินไป
     แน่นอนว่าการทำธุรกิจเป็นเรื่องที่ยากและอาจจะเป็นสิ่งที่ยากที่สุดในชีวิตสำหรับคนบางคน เพราะจะทำให้ไม่ได้หลับไม่ได้นอน ทะเลาะกับคนรัก ไม่มีเวลาให้ลูกและอาจจะต้องสูญเสียเงิน แต่ถ้ากลัวที่จะต้องเจอกับสิ่งเหล่านี้ก็อย่าไปคิดถึงการทำธุรกิจเลย เพราะถ้ามันง่ายทุกคนก็คงจะโดดเข้ามาทำกันหมด เพราะฉะนั้นจงซื่อสัตย์กับตัวเอง หากเชื่อว่าทำได้ก็ควรเปิดประตูออกไปและทำในสิ่งที่ต้องการซะ    
 
 
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจ Startup