Digital Marketing
นินจา แวน ชูจุดแข็งส่งง่าย เข้าใจทุกความต้องการลูกค้า
เมื่อตลาดอี-คอมเมิร์ซไทยเติบโตต่อเนื่องไม่หยุด จึงทำให้บริการขนส่งขยายตัวสูงตามไปด้วย และมีหลายแบรนด์ตบเท้าเข้ามาลงทุนในไทย รวมถึง นินจา แวน อีกหนึ่งบริษัทที่ให้บริการด้านโลจิสติกส์จากประเทศสิงคโปร์
วีรชัย ชูสกุลพร หัวหน้าผู้บริหาร นินจา แวน ประจำประเทศไทย บอกว่า ผู้ก่อตั้งนินจา แวน ทำธุรกิจอี-คอมเมิร์ซมาก่อนที่สิงคโปร์ และแม้อี-คอมเมิร์ซจะบูมมากๆ แต่ก็ยังมีปัญหาการให้บริการโลจิสติกส์ที่ดีที่ส่งทั่วถึง จึงตัดสินใจทำธุรกิจโลจิสติกส์ นินจา แวนขึ้นมา ฉะนั้นนินจา แวนจึงเข้าใจทุกความต้องการในการส่งพัสดุของผู้บริโภคอย่างแท้จริง โดยนอกจากสิงคโปร์แล้ว ขณะนี้ยังขยายธุรกิจไปกว่า 6 ประเทศ ในระยะเวลาเพียง 3 ปี ได้แก่ มาเลเซีย อินโดนีเซีย เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และไทย
สำหรับจุดเด่นของนินจา แวนนั้น วีรชัยอธิบายว่าคือ การให้บริการแก้ปัญหาการจัดส่งพัสดุด้วยเทคโนโลยีทันสมัย การบริการเข้ารับและจัดส่งสินค้าที่เหมาะกับทุกธุรกิจตั้งแต่ธุรกิจเล็กจนถึงธุรกิจขนาดใหญ่
“เพื่อให้เราสามารถไล่ตามธุรกิจอี-คอมเมิร์ซที่เติบโตทุกวันทัน ทุกอย่างจะทำอยู่บนเทคโนโลยี อย่างเช่น การติดตามพัสดุ การอัพเดตเรียลไทม์ การส่งต่อที่ตรงเวลา พัสดุไม่เสียหาย เราเข้าใจตรงจุดนี้แล้วเราปรับเทคโนโลยีของเรา ที่สำคัญเราเข้าใจว่า คนไทยยังใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตไม่สูงมาก ส่วนใหญ่อยากเห็นสินค้าก่อนค่อยจ่ายเงิน เราจึงมีบริการเก็บเงินปลายทาง โดยสามารถมองเห็นตัวเลข การโอนเงินคืนที่ถูกต้องแม่นยำภายในเวลาที่เราตกลงกันไว้ผ่านแอพพลิเคชัน”
ทั้งนี้ นินจา แวน มี 2 บริการหลักๆ คือ Ninja Easy เป็นแอพพลิเคชันที่ใช้เรียกเข้ารับพัสดุ สำหรับลูกค้ารายเล็กและรายกลาง โดยอาจจะเป็นพ่อค้าแม่ค้าที่ขายของผ่านออนไลน์ และบุคคลทั่วไปที่ต้องการส่งพัสดุ ลูกค้าเหล่านี้สามารถโหลดแล้วกดเรียกผ่านแอพฯ จะมีพนักงานไปรับถึงที่ภายใน 90 นาที โดยบริการเรียกพนักงานไปรับนี้ครอบคลุมกรุงเทพฯ จังหวัดนนทบุรี ปทุมธานี และสมุทรปราการ
ขณะเดียวกัน ด้วยความเข้าใจธุรกิจอี-คอมเมิร์ซ ซึ่งในทุกๆ วันจะต้องส่งสินค้าจำนวนมากๆ นินจา แวนจะมีบริการอีกตัวเรียกว่า Ninja Premium เพื่อรองรับลูกค้าธุรกิจและผู้ประกอบการรายใหญ่ที่จัดส่งสินค้าเป็นประจำทุกวัน หรือมากกว่า 2 ครั้งต่อสัปดาห์ ซึ่งจะสามารถเชื่อมเข้าดูรายละเอียดการจัดส่งสินค้าจำนวนเป็นร้อยเป็นพันชิ้นได้ง่ายๆ ด้วยตนเอง
“ความที่เราเป็นบริษัทในภูมิภาคที่มีบริการในหลายประเทศ จึงมีความได้เปรียบตรงที่สามารถทำงานอย่างใกล้ชิดกับอี-คอมเมิร์ซในทุกๆ ประเทศ ซึ่งธุรกิจอี-คอมเมิร์ซเติบโตทั้งในประเทศและนอกประเทศ มีการขนส่งข้ามประเทศกัน ทำให้เราสามารถเข้าไปเสริมธุรกิจอี-คอมเมิร์ซในทุกๆ ประเทศในภูมิภาคนี้ได้”
อย่างไรก็ตาม เพื่อขยายการบริการให้ครอบคลุมยิ่งขึ้น วีรชัยวางเป้าหมายที่จะเพิ่มจุดรับพัสดุเพิ่มขึ้น 3 เท่าในปีนี้ และขยายการขนส่งไปในจังหวัดใหญ่ๆ เช่น อุดรธานี เชียงใหม่ สุราษฎร์ธานี ภูเก็ต ฯลฯ รวมกว่า 50 จังหวัดภายใน 8 เดือนนี้
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี