Digital Marketing

หยุดยาว...แต่ยอดพุ่งไม่หยุด! 3 เคล็ดลับขายดีบนเฟซบุ๊กแม้ช่วงหยุดยาว





     แม้จะเจอกับวันหยุดยาว แต่นั่นก็ไม่ใช่อุปสรรคในการค้าขายของพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ แต่เพื่อให้ยอดขายไม่หายในช่วงนี้ก็จำเป็นต้องงัดกลยุทธ์ขายของออนไลน์ในช่วงวันหยุดมาใช้หน่อย เพราะถ้าโพสต์ขายสินค้าเหมือนวันปกติอาจทำให้ขายไม่ได้ เนื่องจากวันหยุดทั้งที ลูกค้าส่วนมากก็เลือกที่จะใช้เวลาไปกับการพักผ่อนมากกว่านั่งไถฟีดเฟซบุ๊ก
               
     นี่คือ 3 เคล็ดลับขายดีบนเฟซบุ๊กในช่วงวันหยุดยาวที่ผู้ประกอบการต้องจดไว้เลย
               
     1.โพสต์สินค้าก่อนวันหยุด ก่อนเข้าสู่ช่วงวันหยุดเทศกาล ลูกค้าจะเริ่มคิดถึงของขวัญสำหรับมอบให้กับบุคคลที่รัก ดังนั้นการโพสต์ขายสินค้าในช่วงนี้จึงเป็นสิ่งที่ควรทำอย่างยิ่ง
           
     2.จัดข้อเสนอพิเศษกับสินค้าที่อยากขายในวันหยุด
จากการสำรวจของเฟซบุ๊กพบว่า ส่วนลดสินค้าในช่วงวันหยุด รวมถึงปุ่มกระตุ้นให้ดำเนินการ เช่น ซื้อเดี๋ยวนี้ หรือจองเดี๋ยวนี้ ทำให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อเร็วขึ้น ทั้งนี้ ช่วงเวลาที่เหมาะที่สุดในการโพสต์ข้อเสนอพิเศษ คือ ช่วงต้นสัปดาห์วันหยุด และอย่าลืมส่งข้อความไปเน้นย้ำกับลูกค้าว่า ร้านกำลังขายสินค้าใดในช่วงนี้ พร้อมทั้งแนบข้อเสนอพิเศษไปด้วย
               
     3.ซื้อโฆษณา แม้วิธีนี้จะทำให้โพสต์ถูกมองเห็นมากขึ้น แต่ถึงอย่างนั้นก็อย่าเพิ่งใช้งบโฆษณาหมดไปตั้งแต่ช่วงก่อนวันหยุด ต้องแบ่งงบสำหรับใช้หลังวันหยุดด้วย เพราะหลังวันหยุดลูกค้ายังคงช้อปเหมือนเดิม
           
     Bonut Tips
               
     เพื่อให้มั่นใจว่า ซื้อโฆษณาไปแล้วจะไม่เสียเงินเปล่า ผู้ประกอบการต้องตอบคำถามต่อไปนี้ให้ได้
               
     1.ซื้อโฆษณาเพื่ออะไร? เช่น อยากได้ยอดแชร์ ยอดไลค์ ยอดวิว หรือยอดคอมเมนต์เพิ่ม อยากให้คนมาที่เพจ หรืออยากกระตุ้นให้คนไปที่เว็บไซต์ เป็นต้น
               
     2.กลุ่มเป้าหมายในช่วงวันหยุดคือใคร? เช่น คนที่เคยเข้ามาที่เพจหรือเว็บไซต์แต่ยังไม่เคยสั่งซื้อสินค้า
               
     3.อะไรคือสิ่งดึงดูดความสนใจของกลุ่มเป้าหมาย? เช่น ภาพหรือวิดีโอที่จัดทำขึ้นพิเศษสำหรับวันหยุดนี้ หรือแคปชั่นที่กระตุ้นการตัดสินใจซื้อ
               
     4.ใช้รูปแบบโฆษณาอย่างไร? รูปแบบโฆษณาที่สร้างยอดขายบนเฟซบุ๊กได้ในวันหยุด ได้แก่ 1.โฆษณาแบบภาพสไลด์ โดยภาพในสไลด์ต้องมีความสอดคล้องกัน เช่น โทนสี 2.โฆษณาแบบสไลด์โชว์ เลือกใช้ภาพที่กลุ่มเป้าหมายเข้าใจง่าย เขียนข้อความให้สั้นและวางในตำแหน่งเดียวกันทุกภาพ และ 3.โฆษณาแบบวิดีโอ วิดีโอต้องดึงความสนใจของกลุ่มเป้าหมายได้ใน 2-3 วินาทีแรก


www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี