การทำตลาดด้วยวีดิโอ หรือ Video Marketing เป็นเรื่องที่ผู้ประกอบการทุกคนควรเรียนรู้ ทำความเข้าใจ และก้าวข้ามความกลัวว่าจะไม่รู้เรื่องไปให้ได้ เพราะ Video Marketing จะไม่หายไปเร็วๆ นี้อย่างแน่นอน ซึ่งจากข้อมูลของ Forbes ระบุว่า
     - 90% ของลูกค้าให้ความเห็นว่าวิดีโอแนะนำผลิตภัณฑ์ มีส่วนช่วยให้เขาตัดสินใจซื้อสินค้า
     - 64% ของลูกค้ามีแนวโน้มที่จะซื้อสินค้าออนไลน์หลังจากได้รับชมวิดีโอ
     - 65% ของลูกค้าที่ได้ชมวิดีโอ มีโอกาสเข้าไปชมเว็บไซต์ต่อ
 
     แล้วทำอย่างไรให้วิดีโอออนไลน์ของเราประสบความสำเร็จ
     
     1. ตั้งเป้าหมายในการทำวิดีโอออนไลน์ การทำตลาดทุกประเภท เราต้องรู้ว่าเราทำเพราะอะไร เพื่อกำหนดวิธีที่จะทำให้กลยุทธ์ประสบความสำเร็จ ยกตัวอย่างเช่น ต้องการสร้างวิดีโอให้มีความสนุก น่าสนใจ เพื่อทำให้ผู้ที่ได้ชมมีความต้องการเข้าไปยังเว็บไซต์เพื่อเรียนรู้ผลิตภัณฑ์อื่นๆ ของเราต่อไป หรือต้องการให้ผู้ที่รับชมสมัครสมาชิกและรับสิทธิพิเศษ เป็นต้น

     2. เลือกรูปแบบการนำเสนอวิดีโอให้เหมาะสม เราอาจสร้างวีดิโอขึ้นมาเพื่อแนะนำการใช้งานผลิตภัณฑ์หรือวิธีการเก็บรักษาผลิตภัณฑ์ก็ได้ อย่างไรก็ตามวิดีโอที่เราสร้างขึ้นมา ควรอยู่บนพื้นฐานความต้องการรับรู้หรือชื่นชอบของลูกค้าด้วย ดังนั้น ลองหาข้อมูลดูว่า กลุ่มลูกค้าของเราชอบกด Like หรือกด Share เนื้อหาประเภทใด เพื่อสร้างวิดีโอให้มีความสอดคล้องหรือเลือกเนื้อหาที่ใกล้เคียงกัน

     3. โฟกัสที่คุณภาพ ไม่ใช่ปริมาณ ทุกวันนี้สมาร์ทโฟนส่วนใหญ่สามารถบันทึกวิดีโอ แก้ไข เพิ่มเทคนิคพิเศษ ใส่ชื่อ และคำบรรยายได้แบบม้วนเดียวจบ กระบวนการที่สะดวกสบายนี้อาจทำให้เราบันทึกวีดิโอและอัพโหลดลงบนสื่อโซเชียลมีเดียบ่อยเกินความจำเป็น แม้ว่าเราไม่จำเป็นต้องสร้างวิดีโอที่ดีขนาดได้รับรางวัลออสการ์ แต่วิดีโอที่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกิจ ก็ควรผ่านกระบวนการทางความคิด มีเนื้อหาที่ดี น่าสนใจ และมีคุณภาพ มากกว่าปริมาณ

     4. ทำให้วิดีโอสามารถเปิดบนโทรศัพท์ได้ ในปัจจุบัน ผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตใช้เวลาในการดูวิดีโอผ่านโทรศัพท์มือถือเป็นเวลาเฉลี่ย 29 นาที ซึ่งตัวเลขนี้มีแนวโน้มว่าจะสูงอีก 25 % ขึ้นในปีหน้า และจะสูงขึ้นถึง 29 % ในปี พ.ศ. 2562

     5.ใช้คำบรรยายใต้ภาพ เชื่อหรือไม่ว่า วิดีโอกว่า 50% ใน เฟซบุ๊กของต่างประเทศ สามารถรับชมได้โดยไม่ต้องฟังเสียง ซึ่งคำบรรยายสามารถช่วยให้ผู้รับชมเข้าใจเนื้อหาได้โดยไม่ต้องรบกวนผู้อื่น (หรือทำให้เจ้านายไม่รู้ว่าเราแอบเล่นเฟซบุ๊กอยู่)     

     6. ทำให้สั้นและกระชับ แม้ว่าวิดีโอบางประเภทจะมีความยาวเกิน 3 นาที แต่การที่ผู้รับชมวิดีโอต้องดูนานๆ ย่อมไม่ใช่เรื่องดี เพราะถ้าไม่สนุก ก็จะเบื่อและไม่ชอบไปเลย ซึ่งผลวิจัยระบุไว้ว่าความยาวที่เหมาะสมของการรับชมวิดีโอนั้น เฉลี่ยอยู่ที่ 51 วินาที


 
     ลองนำทุกสิ่งมาผสมผสานกัน แล้วเราจะพบว่า การทำการตลาดด้วยวิดีโอเป็นเรื่องที่สนุก และไม่ยากเกินความพยายามอย่างแน่นอน


www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลเพื่อธุรกิจเอสเอ็มอี