Digital Marketing
ทำอย่างไรให้กลายเป็นเศรษฐีในเวลา 1 ปี
Text : Duckkiez_Oil
ใครๆ ก็อยากเป็นเศรษฐีกันทั้งนั้น แต่หลายคนก็คิดว่าต้องใช้เวลาหลายปีหรือบางทีอาจเป็นสิบปีถึงจะกลายเป็นเศรษฐีตามใจฝัน แต่ถ้าลองนำ 5 เคล็ดลับที่กำลังจะเล่าสู่กันฟังไปปรับใช้ให้เหมาะสม ไม่แน่ว่าอาจใช้เวลาเพียง 1 ปีก็สามารถขยับฐานะจากคนทั่วไปมาเป็นเศรษฐีได้
เคล็ดลับที่ 1 ประเมินสถานะทางการเงินปัจจุบัน
เขียนรายรับ-รายจ่ายให้ครบถ้วนจะได้รู้ว่าในแต่ละวันใช้เงินกับอะไรไปบ้าง วิธีนี้ช่วยให้เห็นความชัดเจนของจำนวนเงินที่เสียไปในแต่ละวัน จากนั้นวางแผนการใช้เงินโดยกำหนดรายจ่ายให้ชัดเจนและตัดรายจ่ายที่ไม่จำเป็นออกไปให้ได้มากที่สุด นอกจากนี้ต้องรู้จักออมเงินโดยแบ่งบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ออกเป็น 2 บัญชี คือ บัญชีเงินฝากเพื่อการเกษียณอายุ และบัญชีเงินฝากสำหรับใช้ในยามฉุกเฉิน เมื่อถึงสิ้นเดือนให้ฝากเงินเข้า 2 บัญชีนี้ก่อนนำไปใช้
เคล็ดลับที่ 2 หารายได้เสริม
หลังจากวางแผนการใช้เงินเสร็จเรียบร้อยให้คิดหาช่องทางของการหารายได้เสริม ซึ่งการจะเป็นเศรษฐีได้ไม่ใช่แค่ตัดค่ากาแฟในแต่ละวันออก แต่ต้องหาวิธีเพิ่มรายได้ด้วย เช่น ขายของออนไลน์ ทำงานพาร์ทไทม์ เป็นบล็อกเกอร์ และที่ปรึกษาอิสระ (ในกรณีที่มีความเชี่ยวชาญในเรื่องใดเรื่องหนึ่งเป็นพิเศษ)
เคล็ดลับที่ 3 เพิ่มทักษะใหม่ๆ ให้ตัวเองอยู่ตลอด
การเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ อยู่เสมอช่วยเพิ่มศักยภาพในการทำงานให้ดียิ่งขึ้น ยิ่งรู้มากยิ่งทำให้เข้าหาผู้เชี่ยวชาญคนอื่นๆ ได้ง่ายขึ้น ส่งผลให้มีคอนเนกชั่นเพิ่มขึ้นซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการทำงานหรือการทำธุรกิจ วิธีเพิ่มทักษะให้ตนเองทำได้ทั้งการอ่านหนังสือ ไปงานสัมมนา ทำเวิร์กช็อป เรียนออนไลน์ และฟัง podcasts เรื่องที่สนใจ
เคล็ดลับที่ 4 ประหยัด
การประหยัดเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของการเป็นเศรษฐี วิธีประหยัดที่ทำได้ง่ายๆ เช่น ใช้คูปองส่วนลด ซื้อสินค้าแบรนด์ของซูเปอร์มาร์เก็ต ใช้ระบบขนส่งสาธารณะ และทำอาหารกินเองแทนการไปซื้อ ทั้งนี้ต้องหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่ทำให้เกิดหนี้สิน เช่น ใช้บัตรเครดิตเฉพาะยามฉุกเฉินเท่านั้น
เคล็ดลับที่ 5 อย่าเสียเงินเพื่อคลายเบื่อ
คนเรามีอารมณ์เบื่อด้วยกันทั้งนั้น แต่คนที่จะเป็นคนรวยในวันข้างหน้าจะไม่ช็อปปิ้งเพื่อให้หายเบื่อ แต่จะเลือกทำกิจกรรมที่ไม่ต้องเสียเงินแต่คลายเบื่อได้ เช่น นั่งสมาธิ อ่านหนังสือ ออกกำลังกาย ทำอาหาร และทำธุรกิจที่ชอบ
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลเพื่อธุรกิจเอสเอ็มอี
SME STARTUP: REVIEW
กันตินันท์ ตันวีนุกูล “SLEEK EV” Move Fast, Succeed Faster
จากพนักงานฝึกหัด Co–Working Space เขาใช้เวลาเพียง 6 เดือน เปลี่ยนตัวเองจากพนักงานฝึกหัดสู่การเป็นผู้จัดการ จากพนักงานคนแรกของบริษัทสตาร์ทอัพสิงคโปร์ที่เข้ามาจำหน่ายรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าในประเทศไทย สู่การเป็น startup เต็มตัว ในวัย 24 ปี ด้วยการระดมทุนเปิดบริษัทเป็นตัวแทนจำหน่..
Plant-based is now โอกาสที่ต้องคว้า
Issue 109
