Digital Marketing

4 ข้อคิด ปรับสมดุลชีวิต+ธุรกิจ

Text : ไศลธร เหมะสิขัณฑกะ


 
    
 
     

    ในยุคที่คนประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อย หลายๆ คนเริ่มเป็นผู้ประกอบการตั้งแต่ในวัยเรียน ทำให้นอกเหนือจากการศึกษาแล้วยังต้องบริหารธุรกิจของตนควบคู่ไปด้วย ความจริงแล้วเราสามารถเดินทั้งสองทางพร้อมกันได้เพียงแต่ต้องอาศัยการปรับสมดุลที่ลงตัว มาดูกันว่าหลักในการปรับสมดุลให้ลงตัวนั้น มีอะไรบ้าง


     1.ชั่งน้ำหนักความสำคัญ ไม่ว่าจะเรื่องเรียนหรือเรื่องธุรกิจ ล้วนมีความสำคัญเท่าเทียมกัน แต่ไม่ว่าจะเท่ากันขนาดไหน ก็จำเป็นต้องเลือกให้ความสำคัญกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งก่อนเสมอ ในบางสถานการณ์ที่เลี่ยงไม่ได้และจำเป็นต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เคล็ดลับคือ ให้ชั่งน้ำหนักความสำคัญ ณ ขณะนั้นก่อนว่าเรื่องใดสำคัญกว่ากัน เรื่องใดที่สามารถผ่านไปได้โดยเราไม่จำเป็นต้องเช้าไปลุยด้วยตัวเอง พลาดแล้วจะเปลี่ยนชีวิตเราไปตลอดกาล เช่น หากมีนัดสำคัญกับลูกค้าแต่เวลามาชนกับคาบเรียน ถ้าหากเป็นวิชาที่ไม่มีการเช็คชื่อเราก็อาจใช้วิธีฝากเพื่อนอัดเทปหรือถ่ายคลิปที่อาจารย์สอน เป็นต้น


     2.บริหารจัดการตารางเวลา นื่คือหลักการบริหารเบื้องต้น ในส่วนของการเรียนเรามีตารางเรียนที่ตายตัวอยู่แล้ว วันไหนเรียนวิชาอะไรกี่โมงถึงกี่โมง เวลาไหนว่าง ซึ่งขึ้นอยู่กับหลักสูตรและการเลือกลงวิชาเรียนของแต่ละคน บางคนอาจเรียนแค่สัปดาห์ละ 4 วัน วันละ 2 วิชา เป็นต้น เราก็สามารถนำตารางเรียนมาใช้อิงกับตารางชีวิตประจำวันได้ โดยจัดเวลาให้รัดกุมและใส่ทุกรายละเอียดรวมถึงช่วงเวลาว่างด้วย จะทำให้เราสามารถจัดสรรเรื่องงานและชีวิตส่วนตัวได้ชัดเจนยิ่งขึ้น


     3.กัลยาณมิตร เพื่อนดีเป็นศรีแก่ตัว การเรียนไปด้วยทำธุรกิจไปด้วยก็เช่นกัน คงจะไม่ดีแน่ๆ หากต้องเหนื่อยมารับภาระทุกอย่างไว้บนบ่าคนเดียว ดังนั้นเพื่อนที่ดี ครูอาจารย์ และคนในครอบครัว คือกำลังสนับสนุนที่ดีที่สุด เพื่อนช่วยแบ่งเบาภาระในเรื่องของการเรียนได้ ครูอาจารย์คือผู้แนะนำให้คำปรึกษารวมถึงการเจรจาในกรณีที่จำเป็นต้องขาดเรียนด้วยธุระเรื่องงาน ส่วนครอบครัวคือคนที่จะช่วยแบ่งเบาภาระเรื่องธุรกิจได้เป็นอย่างดี อย่างน้อยธุรกิจหรืองานก็สามารถฝากฝังไว้กับคนในครอบครัวได้


     4.อย่าทำอะไรเกินกำลัง จุดแข็งของคนรุ่นใหม่คือความมีไฟและความกล้าที่จะท้าทายและค้นหาสิ่งใหม่ๆ อยู่ตลอด และไม่ชอบหยุดนิ่งอยู่กับที่ อย่างไรก็ดี ในการก้าวกระโดดแสวงหาความก้าวหน้าและขยายธุรกิจนั้น ต้องไม่ลืมที่จะหันกลับมาดูตนเองว่า เราไหวหรือเปล่า เพราะรสชาติของความสำเร็จขั้นต้นต่อให้เป็นความสำเร็จเพียงเล็กน้อยแต่ก็มีความหอมหวานเสมอ แต่ความสนุกบนความหอมหวานนั้นควรอยู่บนพื้นฐานของข้อเท็จจริงว่า ไหวหรือไม่ เพราะถ้าหากฝืนทำอะไรที่เกินกำลังแล้วท้ายที่สุด ผลลัพธ์ย่อมไม่เป็นอย่างที่คาดหวัง


www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี