การทำธุรกิจในยุคดิจิทัล ไม่เพียงแต่สามารถเริ่มต้นได้เร็วกว่าเท่านั้น แต่ยังใช้ทุนที่ต่ำกว่าอีกด้วย โดยเฉพาะการทำธุรกิจออนไลน์ที่มีโซเชียลมีเดียในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย ไปจนถึงมาร์เกตเพลสที่เป็นช่องทางในการนำเสนอสินค้าไปยังผู้บริโภคโดยตรง อย่างไรก็ตาม แม้จะมี 2 เครื่องมือการตลาด และการขายที่สร้างโอกาสได้เป็นอย่างดีแล้ว สำหรับผู้ประกอบการมือใหม่ ยังอาจจะต้องการตัวช่วย เพื่อให้การเริ่มต้น และสามารถไปต่อได้ง่ายยิ่งขึ้น
เพราะโลกทุกวันนี้ คือ การสื่อสาร หลายธุรกิจจึงพยายามแข่งขันกันที่การสร้างคอนเทนต์ให้ดัง ให้ปังกว่า เพื่อหวังว่าให้แบรนด์เป็นที่รู้จักมากขึ้น เมื่อคนเห็นเยอะขึ้น ก็จะได้กลับมาซื้อสินค้าเราเยอะขึ้น แต่ความจริงแล้วเป็นแบบนั้นจริงไหม
ในช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมาได้มีกระแส “ที่สุดของการโฆษณา” เกิดขึ้น จากเพจของ คุณสรยุทธ สุทัศนะจินดา จึงขออนุญาตหยิบยกกรณีศึกษานี้มาพูดคุยกันเรื่อง Marketing 5.0
ในปี 2020 แสดงให้เห็นว่าผู้บริโภคไทยจำนวนหลายล้านคนได้ก้าวเข้ามาสู่โลกออนไลน์มากขึ้น ทำให้ในปี 2021 ได้รู้ว่าโลกออนไลน์นั้นได้อยู่กับเราอย่างถาวรแล้ว ผู้บริโภคในประเทศไทยต่างปรับตัวสู่ไลฟ์สไตล์ที่เน้นดิจิทัลเป็นหลัก
คุณสร้างคอนเทนต์มาเพื่อหวังยอดไลก์ ยอดแชร์ใช่หรือเปล่า?
ในยุคของแพงขึ้นทั้งกระดานในปี 2022 นี้ เราๆ เหล่านักธุรกิจ SME ก็ควรที่จะใช้เครื่องมือฟรีให้เป็นประโยชน์อย่างเต็มที่กับธุรกิจของเรา
มีการคาดการณ์ว่าในปี 2024 ตลาดกาแฟในจีนจะมีมูลค่าเกิน 330,000 ล้านหยวน และจะเติบโตปีละราว 10 เปอร์เซนต์ตลอด 5 ปีข้างหน้า
ในการทำธุรกิจเรามักจะต้องเจอกับปัญหามากมาย ไม่ว่าจะเป็นบุคลากร การบริหารทีมงาน การตลาด บางทีก็ไม่รู้ว่าจะจัดการมันยังไง
เป็นเวลากว่าสองปีแล้วที่วันนี้เรายังคงใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับไวรัสโควิด-19 สถานการณ์ดังกล่าวจึงส่งผลต่อพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป เพื่อเอาตัวรอดให้ได้ธุรกิจก็ควรต้องปรับตามไปด้วย
ในโลกยุคที่การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและฉับพลันทันทีแบบนี้ ต้องสร้างตัวตน เกี่ยวกับแบรนด์และผลิตภัณฑ์ให้โดดเด่น หรือทำให้แบรนด์ Outstanding มากแค่ไหนถึงจะพอ
มีการพิสูจน์แล้วว่า Growth Mindset นับเป็นกรอบความคิดที่สำคัญ ที่ทำให้คนที่มีความคิดแบบนี้สามารถเติบโตได้แบบไม่จำกัด
ว่ากันว่าบางคนไม่ได้ Born to be ต้องพยายาม Try to be ยิ่งในยุคที่มีสื่อโซเชียลคนกลุ่มนี้ก็มักใช้พื้นที่นี้แสดงตัวตนผ่านการโพสต์