บริษัท เซ็นทรัลรีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ซีอาร์ซี เดินหน้าขยายธุรกิจค้าปลีกในไตรมาสแรก บุกทำเลศักยภาพเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ตามแผนยุทธศาสตร์ CRC Retailligence ตอกย้ำเจตนารมณ์ของการเป็น Central to Life หรือศูนย์กลางชีวิตของผู้คน ควบคู่การพัฒนาธุรกิจที่จะเติบโตอย่างเข้มแข็งและยั่งยืนไปพร้อมกับชุมชน เปิดโปรเจคใหม่ ‘ศูนย์การค้าโรบินสันไลฟ์สไตล์ และห้างสรรพสินค้าโรบินสัน บ้านฉาง’ เพื่อตอบรับกำลังซื้อและทุกไลฟ์สไตล์ของลูกค้าบนทำเลศักยภาพย่านเขตอุตสาหกรรมสมาร์ทซิตี้ภาคตะวันออก ชูคอนเซ็ปต์ ‘บ้านฉาง บ้านฉัน ให้ทุกวันมีแต่เรื่องดีย์ๆ’ คลื่นความสนุกแห่งใหม่ที่จะมอบประสบการณ์ กิน ช้อป เที่ยว รูปแบบใหม่ที่ครบจบในที่เดียว! แก่นักช้อป พร้อมนำอัตลักษณ์ วัสดุท้องถิ่น และวัสดุธรรมชาติของอำเภอบ้านฉาง มาเป็นองค์ประกอบหลักในการออกแบบ เพื่อกระจายรายได้สู่วิสาหกิจชุมชน พร้อมเพิ่มการจ้างงานอีกกว่า 1,000 อัตรา
ฟิลิปป์ โบรยานิโก้ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานอสังหาริมทรัพย์ และพัฒนาธุรกิจ ศูนย์การค้าโรบินสัน ไลฟ์สไตล์ ในเครือเซ็นทรัล รีเทล เปิดเผยว่า เมื่อพูดถึง อ.บ้านฉาง จ.ระยอง ในแง่มุมของเศรษฐกิจ นับว่าเป็นทำเลที่เต็มเปี่ยมไปด้วยขีดความสามารถและมีศักยภาพสูง เนื่องด้วยตั้งอยู่ในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษในภาคตะวันออก หรือ EEC รวมทั้งมีการขยายตัวของภาคอุตสาหกรรมแบบ Super Cluster รวมทั้งอุตสาหกรรมเป้าหมายของประเทศ ที่จะเป็นกลไกในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทยในอีก 20 ปีข้างหน้า อีกทั้งยังเป็นต้นแบบของเมืองอัจฉริยะ (Smart City) แห่งแรกของประเทศไทย ซึ่งในอนาคตจะกลายเป็นเขตเศรษฐกิจที่มีมูลค่าสูงในแถบอาเซียน ที่พร้อมจะยกระดับเป็นเมืองอุตสาหกรรมแห่งโลกอนาคต และส่งผลให้พื้นที่เขตเศรษฐกิจภาคตะวันออกนี้กลายเป็น “World Class Economic Zone” ด้วยเหตุปัจจัยดังกล่าว จึงเป็นที่มาของการเดินหน้าขยายสาขาใหม่ ‘ศูนย์การค้าโรบินสันไลฟ์สไตล์ บ้านฉาง’ ในเขต EEC อย่างต่อเนื่อง โดยชูคอนเซ็ปต์ ‘บ้านฉาง บ้านฉัน ให้ทุกวันมีแต่เรื่องดีย์ๆ’ ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณว่า นับต่อจากนี้เราจะเป็นคลื่นความสนุกแห่งใหม่ที่จะเข้ามาสร้างสีสันความสนุก และความอบอุ่นให้ทุกครอบครัวชาวบ้านฉาง และจังหวัดระยอง เพื่อให้มีประสบการณ์ที่ดีร่วมกัน และเป็นเสมือนบ้านหลังที่ 2 ของทุกคน
ด้าน โอลิวิเยร์ บรง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มห้างสรรพสินค้า ในเครือเซ็นทรัล รีเทล กล่าวเพิ่มเติมว่า จากศักยภาพของพื้นที่ อ.บ้านฉาง และการตอบรับที่ดีของห้างโรบินสันในสาขาต่างๆ ของภาคตะวันออก ทำให้เรามีความมั่นใจในการขยายธุรกิจที่คาดว่าจะเป็นไปในทิศทางที่ดีอย่างต่อเนื่อง เราจึงพร้อมเดินหน้าส่งมอบสินค้าและบริการจากแบรนด์ไทยและ แบรนด์ระดับโลกชั้นนำที่ได้รับความนิยมกว่า 200 แบรนด์ ครบครันทุกแผนกสินค้าทั้งเครื่องสำอาง, เครื่องแต่งกายสุภาพบุรุษ - สตรี, นาฬิกาและเครื่องประดับ, สินค้าแม่และเด็ก, สินค้าของใช้ภายในบ้าน และเครื่องใช้ไฟฟ้า ภายใต้การตกแต่งห้างที่โดดเด่นด้วยดีไซน์การออกแบบที่มีเอกลักษณ์ โดยได้แรงบันดาลใจมาจากธรรมชาติที่สวยงามของบ้านฉาง และงานศิลปะจากผ้าบาติคท้องถิ่น ซึ่งได้นำเทคนิคการย้อมผ้าบาติคมาเป็นองค์ประกอบหลักของงานออกแบบ โดยใช้สีครามที่สื่อถึงทะเล ทำการย้อมไล่ระดับ ส่วนที่เป็นสีขาวเป็นส่วนที่เป็นฟองคลื่น ส่วนสีน้ำเงินคือ น้ำทะเลสีคราม ซึ่งเราได้สร้างสรรค์ผลงานการออกแบบในครั้งนี้ร่วมกับกลุ่มวิสาหกิจชุมชน ทั้งโลโก้ และงานผ้าบาติค เพื่อเป็นอีกทางหนึ่งของการกระจายรายได้สู่ชุมชนบ้านฉาง และลดการใช้พลังงานโดยเลือกใช้วัสดุผ้าธรรมชาติเป็นหลัก
สำหรับความพิเศษของศูนย์การค้าโรบินสันไลฟ์สไตล์ บ้านฉาง ฟิลิปป์ กล่าวต่อไปว่า ทำเลที่ตั้งของศูนย์การค้าอยู่ห่างจากอ.เมือง จ.ระยอง ประมาณ 20 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางเพียง 30 นาที โดยกลุ่มเป้าหมายที่สำคัญ คือ กลุ่มประชากรในเขตพื้นที่ อ.บ้านฉาง และ อ.มาบตาพุด จ.ระยอง รวมทั้ง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ประมาณ 100,000 คน และประชากรที่ทำงานในภาคอุตสาหกรรมอีกราว 50,000 คน เฉลี่ยอายุตั้งแต่ 25 ปีขึ้นไป ซึ่งเราใช้งบประมาณในการลงทุนครั้งนี้ที่ 686 ล้านบาท บนพื้นที่ราว 38,000 ตารางเมตร แบ่งเป็น 2 ชั้น ซึ่งมีการนำอัตลักษณ์ที่โดดเด่นของบ้านฉางมาเป็นแกนหลักในการออกแบบ ภายใต้คอนเซ็ปต์ Sense of Island ที่สื่อถึง ‘ศูนย์กลางการคมนาคมภาคตะวันออก’ ในปัจจุบัน และวิถีชีวิตดั้งเดิมของชาวระยองกับการเป็น ‘เมืองแห่งการท่องเที่ยวทางทะเลที่สวยงาม” ซึ่งนำมาผสมผสานกันได้อย่างลงตัว พร้อมสร้างประสบการณ์ กิน ช้อป เที่ยว รูปแบบใหม่ ที่ครบจบในที่เดียว ด้วยการรวบรวมร้านค้าและสเปเชี่ยลตี้สโตร์กว่า 100 ร้านค้า และความครบครันทันสมัยของสิ่งอำนวยความสะดวกและเทคโนยีต่างๆ เพื่อยกระดับให้เป็น Central to Life หรือศูนย์กลางชีวิต ที่จะสร้างสรรค์ความสุข สนุกสนานวิถีใหม่ เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของชาวเมืองระยองในทุกมิติอย่างแท้จริง
นอกจากนี้ ‘ศูนย์การค้าโรบินสันไลฟ์สไตล์ และห้างสรรพสินค้าโรบินสัน บ้านฉาง ยังร่วมมือกันสร้างความยั่งยืนแก่ชุมชนบ้านฉางและจังหวัดระยองในหลากหลายรูปแบบ ทั้ง การสร้างงานสร้างอาชีพ เพิ่มอัตราการจ้างงานมากกว่า 1,000 คน การมอบเงินสนับสนุนในกิจกรรมสาธารณกุศลอันเป็นประโยชน์ต่อไปของจังหวัด จำนวน 20,000 บาท แก่เหล่ากาชาด จังหวัดระยอง การฟื้นฟูธรรมชาติทางทะเล ด้วยการร่วมสมทบทุนสนับสนุนโครงการฟื้นฟูแหล่งเพาะพันธุ์หอยหวาน ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่าง ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงทะเลระยอง และสำนักงานท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ด้วยการปล่อยพันธุ์หอยหวานลงสู่ทะเล 400,000 ตัว เพื่อเพิ่มและรักษาความสมดุล และความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรทางทะเล ซึ่งจะดำเนินการในช่วงปลายเดือน เม.ย. 65 พร้อมรณรงค์ส่งเสริมการประหยัดพลังงานและลดมลพิษจากคาร์บอนไดออกไซด์ ด้วยการใช้พลังงานจาก Rooftop Solar Cell โดยมีเป้าหมาย 2 MKKW ในปีนี้
ทั้งนี้ ‘ศูนย์การค้าโรบินสันไลฟ์สไตล์ และห้างสรรพสินค้าโรบินสัน บ้านฉาง’ ยังมีมาตรการ Robinson Lifestyle / Robinson Clean & Safe สะอาด ปลอดภัย อุ่นใจ เสมือนอยู่บ้าน ด้วยการเฝ้าระวังการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด–19 ภายใต้ข้อกำหนด 7 มาตรการหลัก ที่ครอบคลุมในทุกมิติด้านสุขอนามัย และสอดคล้องกับมาตรการของภาครัฐ ดังนี้
1. พนักงานทุกคนต้องได้รับวัคซีน และผ่านการตรวจเชื้อก่อนเข้าบริการที่สาขา
2. ลูกค้าและพนักงานทุกคนตรวจวัดอุณหภูมิ สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา และสแกนไทยชนะ ก่อนเข้าศูนย์การค้าฯ และห้างฯ
3. มั่นใจ สะอาด ปลอดภัย ด้วยมาตรการป้องกันที่ได้มาตรฐาน
4. ทำความสะอาดสินค้า และทุกจุดสัมผัสทุกวัน และฉีดพ่นฆ่าเชื้ออย่างสม่ำเสมอ
5. เว้นระยะห่าง อย่างห่วงใย (1-2 เมตร)
6. ลดการสัมผัสเงินสด และ
7. อากาศหมุนเวียนตลอดเวลา พร้อมระบบการฆ่าเชื้อ
www.smethailandlcub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี