กระทรวงพาณิชย์ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) โดยสถาบันพัฒนาผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่ (NEA) เผยเป็นปลื้มกับโครงการพัฒนาผู้ส่งออกรุ่นใหม่ :Young Exporter from local to Global (YELG) ปี 4 ที่ภาคกลางเป็นที่แรก ภายใต้นโยบายของ จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งได้รับเสียงตอบรับดีจากผู้ประกอบการไทยอย่างล้นหลาม โดยจัดขึ้นในรูปแบบ Virtual Training and Workshop ผ่านระบบออนไลน์ ซึ่งสามารถพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการภาคกลาง และภูมิภาคอื่นๆ รวม 210 ราย ประกอบด้วย นิติบุคคล 122 ราย ผู้จดทะเบียนพาณิชย์ 12 ราย วิสาหกิจชุมชน 4 ราย SMEs 7 ราย และบุคคลธรรมดา 65 ราย เชื่อมั่นจะช่วยผลักดันผู้ประกอบการไทยให้เป็นนักส่งออกอัจฉริยะ และสามารถส่งออกสินค้าไปยังตลาดต่างประเทศได้ประสบความสำเร็จและมีกำลังความสามารถที่แข็งแกร่ง สามารถดึงรายได้เข้าประเทศเพิ่มขึ้น
ภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า “กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ มียุทธศาสตร์สำคัญ ในการมีส่วนช่วยผลักดันให้ผู้ประกอบการรุ่นใหม่ได้มีโอกาสก้าวสู่ตลาดต่างประเทศ ตลอดจนสนองนโยบาย Local to Global ของกระทรวงพาณิชย์ ภายใต้วิสัยทัศน์และการกำหนดนโยบายของ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ในการสนับสนุนผู้ประกอบการในระดับท้องถิ่นหรือภูมิภาคให้ได้ก้าวสู่ตลาดต่างประเทศ เพื่อช่วยผลักดันให้มูลค่าการส่งออกในภาพรวมเพิ่มขึ้น และช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจในระดับฐานราก รวมทั้งยังช่วยเปิดตลาดให้สินค้าอีกหลายประเภทได้มีโอกาสสร้างชื่อในเวทีสากลได้อีกด้วย
กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ได้มอบหมายให้สถาบันพัฒนาผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่(NEA) ดำเนินโครงการพัฒนาผู้ส่งออกรุ่นใหม่ : Young Exporter from Local to Global (YELG) ซึ่งถือเป็นอีกโครงการสำคัญของกระทรวงพาณิชย์ เพื่อสร้างและพัฒนาผู้ส่งออกรุ่นใหม่ทั้งในส่วนกลางและภูมิภาคมาโดยตลอด โดยในปีนี้ได้ดำเนินโครงการเป็นปีที่ 4 ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งถือเป็นการพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการไทย ผู้ประกอบการท้องถิ่นทั่วประเทศให้มีทักษะ ความรู้ ความสามารถในด้านการส่งออกสินค้าไทยให้เป็นที่รู้จักในตลาดต่างประเทศ โดยจัดขึ้นในรูปแบบอบรมเชิงปฏิบัติการ เพื่อลงลึกความรู้พื้นฐานด้านการค้าระหว่างประเทศให้กับผู้ดำเนินธุรกิจในระดับภูมิภาค อาทิ การสร้างธุรกิจ THAILAND 5.0 ด้วย BCG Economy Model เจาะลึกสินค้าไทยในตลาด CLMV พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์เพื่อการค้าระหว่างประเทศขั้นตอนการส่งออก และการจัดการโลจิสติกส์ พร้อมด้วยการให้คำปรึกษาเชิงลึกโดยผู้เชี่ยวชาญด้านการส่งออกชั้นนำ รวมถึงการสร้างการตลาดอิทธิพล หรือ Soft Power Marketing เพื่อเจาะตลาดการค้ายุคใหม่ ด้วยการส่งเสริมสินค้าและบริการให้เป็นจุดเด่นที่สะท้อนสังคม วิถีชีวิตและวัฒนธรรมที่เป็นอัตลักษณ์ของไทย ผ่าน Influencers ที่ส่งผลต่อความชื่นชอบและก่อให้เกิดความต้องการบริโภคสินค้าและบริการของไทย
โดยในปีนี้ โครงการดังกล่าว ได้รับการตอบรับที่ดีและอบอุ่นจากผู้ประกอบการไทย ซึ่งแบ่งการอบรมเป็น 2 ระยะ คือ
ระยะที่ 1 เป็นการสร้างแรงบันดาลใจแก่ผู้ประกอบการ เพื่อปรับมุมมองทางการค้าของตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยมีผู้ประกอบการเข้าร่วมจากภาคกลาง และภูมิภาคอื่นๆ เข้าฝึกอบรมรวม 210 ราย
ระยะที่ 2 เป็นการจัดอบรมเชิงปฏิบัติการแบบเจาะลึกพื้นฐานด้านการส่งออก เพื่อเตรียมความพร้อมผู้ประกอบการในการพัฒนาสินค้าเจาะกลุ่มตลาดเป้าหมายในต่างประเทศ โดยมีผู้ประกอบการที่ได้รับการคัดเลือกจากระยะที่ 1 ที่เป็นนิติบุคคล ผู้จดทะเบียนพาณิชย์ และวิสาหกิจ เข้าร่วมอบรมจำนวน 109 ราย โดยแบ่งเป็นกลุ่มสินค้าต่างๆ ดังนี้ สินค้าเกษตร และอาหารแปรรูป 55.71 % สินค้าเครื่องสำอาง และสมุนไพร 20.47 % และสินค้าหัตถกรรม เครื่องใช้และของตกแต่ง 5.23%
ทั้งนี้ ได้มีการจัดพิธีปิดโครงการพัฒนาผู้ส่งออกรุ่นใหม่ : Young Exporter from Local to Global (YELG) และมอบโล่รางวัล “สุดยอดผู้ประกอบการตัวแทนภาคกลาง” โดยได้รับสิทธิ์จดทะเบียน Trademark ในประเทศจีน (ทั้งภาษาจีนและอังกฤษ) พร้อมสัมภาษณ์บทความลงสื่อภาษาอังกฤษ โดยผู้ชนะ คือ คุณโกศล สีใสเพ็ชร บริษัท เวลท์ตี้ แพลนเนท จํากัด ผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มรังนก แท้ 100% จากแบรนด์ ลดา ซึ่งสะท้อนภาพการส่งเสริมทักษะ ความรู้ และพัฒนาศักยภาพของผู้ประกอบการไทย ผู้ประกอบการท้องถิ่นทั่วประเทศ ที่มีทักษะ ความรู้ ความสามารถในด้านการส่งออกสินค้าไทยให้เป็นที่รู้จักในตลาดต่างประเทศมากยิ่งขึ้น ประกอบกับเป็นการช่วยทำให้มูลค่าการส่งออกในภาพรวมเพิ่มขึ้นเท่านั้น แต่ยังสามารถช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจในระดับฐานราก รวมทั้งยังช่วยเปิดตลาดให้สินค้าอีกหลายประเภทได้มีโอกาสสร้างชื่อในเวทีสากลได้อีกด้วย
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี