Karmart เผยเส้นทางความสำเร็จ 15 ปี เปิดโรดแมพลุยธุรกิจปั้นแบรนด์สู่ระดับโลก พร้อมขยายอาณาจักรความงามมูลค่า 10,000 ล้าน ย้ำวิสัยทัศน์ “Unique Beauty Solutions”

     บริษัท คาร์มาร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ KAMART ฉลองครบรอบ 15 ปีแห่งความสำเร็จ จากธุรกิจครอบครัว สู่การนำเข้าเครื่องสำอางจากเกาหลีใต้ Karmart ได้พัฒนาแบรนด์ชั้นนำในเครือ เช่น Cathy Doll และ Baby Bright ซึ่งกลายเป็นผลิตภัณฑ์ยอดนิยมที่ครองใจผู้บริโภคทั้งในประเทศและตลาดต่างประเทศ อาณาจักรแห่งนี้ไม่ได้เติบโตเพียงแค่ยอดขาย แต่ยังขยายฐานผู้บริโภคด้วยความเข้าใจในเทรนด์และพฤติกรรมของลูกค้า จนสามารถก้าวขึ้นเป็นแบรนด์ผู้นำด้านความงามระดับประเทศที่พร้อมขยายตัวสู่เวทีโลก ล่าสุดประกาศเปิดแผนธุรกิจและผลิตภัณฑ์ใหม่ที่จะสร้างปรากฏการณ์ในตลาดความงามระดับโกลบอล ภายใต้วิสัยทัศน์ Unique Beauty Solutions” ที่เน้นการตอบโจทย์ความงามที่หลากหลายเพื่อครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย ขับเคลื่อนด้วยกลยุทธ์ Influencer Marketing” คีย์ซัคเซสของแบรนด์ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และสร้างสรรค์แคมเปญการตลาดที่เข้าถึงความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย พร้อมมุ่งสู่การเป็น Top of mind แบรนด์อันดับต้นๆ บิวตี้ที่ครองใจผู้บริโภคชาวไทย และก้าวสู่การขยายอาณาจักรความงามมูลค่า 10,000 ล้านบาท

     ชลธิดา สถาวรวิจิตร รองกรรมการผู้จัดการสายงานการตลาด บริษัท คาร์มาร์ท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ตลอดระยะเวลา 15 ปี ที่ผ่านมา Karmart ได้เดินทางจากจุดเริ่มต้นเล็กๆ ในฐานะธุรกิจครอบครัว สู่อาณาจักรความงามที่เป็นที่ยอมรับในระดับประเทศและกำลังก้าวไกลในตลาดโลก ความสำเร็จของเราไม่ได้เกิดขึ้นเพียงเพราะการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายและสร้างสรรค์ แต่เกิดจากการทำความเข้าใจความต้องการของผู้บริโภคอย่างลึกซึ้ง พร้อมกับการปรับตัวในตลาดที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา Karmart มีความภาคภูมิใจในฐานะผู้บุกเบิกหลายเทรนด์ในตลาดเครื่องสำอางไทย ที่ครองใจผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงการพัฒนาพันธมิตรกับ Influencers และการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ที่สะท้อนความเชื่อของเราในเรื่อง ‘Unique Beauty Solutions’ ซึ่งมุ่งเน้นความงามที่เข้าถึงได้ในทุกมิติ”

     สำหรับภาพรวมการดำเนินธุรกิจในปี 2567 นี้ พบว่าเติบโตดีได้ตามเป้าหมายที่คาดการณ์ไว้ โดยบริษัทฯ วางเป้าหมายรายได้ตลอดปีนี้ไว้ที่ประมาณ 3,600 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโตเกือบ 45% จากปีที่ผ่านมามีรายได้ 2,500 ล้านบาท ซึ่งปัจจัยหลักมาจากการที่เพิ่มแบรนด์สินค้าใหม่เข้ามาอย่างต่อเนื่อง ขณะที่แบรนด์เดิมที่ทำตลาดอยู่นั้นก็เติบโตมากขึ้นทุกแบรนด์ ทุกช่องทาง และทุกกลุ่ม โดยเฉพาะในกลุ่มเมคอัพที่เติบโตได้ดี

     อย่างไรก็ดี บริษัทฯ มองว่าอุตสาหกรรมความงามจะเติบโตได้อีกมาก ด้วยภาพรวมตลาดเครื่องสำอางในประเทศไทยมีมูลค่ากว่า 2.6 แสนล้านบาทในปีที่ผ่านมา (2566) และคาดว่าจะเติบโตเฉลี่ย 6-8% ต่อปีในช่วง 5 ปีข้างหน้า โดยปัจจัยขับเคลื่อนหลักคือความต้องการของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้นในกลุ่มผลิตภัณฑ์สกินแคร์และเมกอัพ ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนถึง 70% ของตลาดรวม จากข้อมูลพบว่า ผู้บริโภคชาวไทยกว่า 67% มีพฤติกรรมทดลองผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เป็นประจำ และ 45% นิยมเลือกซื้อสินค้าเพราะได้รับการแนะนำจาก Influencers หรือรีวิวออนไลน์ เทรนด์นี้สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของการตลาดดิจิทัลและการสร้างความสัมพันธ์กับผู้บริโภคผ่านช่องทางที่พวกเขาเชื่อถือ”

    “ปัจจุบัน Karmart ครองส่วนแบ่งการตลาดในกลุ่มเครื่องสำอางระดับกลางถึงพรีเมียมกว่า 15% โดยแบรนด์ Cathy Doll และ Baby Bright ติดอันดับ Top 5 แบรนด์ที่ผู้บริโภคนึกถึงเมื่อเลือกซื้อสินค้าเมกอัพและสกินแคร์ ในมุมมองของเรา แนวโน้มตลาดความงามในประเทศไทยจะมุ่งไปสู่ความงามเฉพาะบุคคล (Personalized Beauty) และผลิตภัณฑ์ที่มุ่งเน้นคุณค่าเชิงนวัตกรรม เช่น เวชสำอางที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติและสินค้า Clean Beauty ที่กำลังเติบโตสูง โดยเฉพาะในกลุ่มผู้บริโภคอายุ 20-35 ปี ซึ่งคิดเป็น 60% ของกลุ่มเป้าหมายหลักในตลาดนี้ การเติบโตของตลาดนี้ไม่ใช่เพียงโอกาส แต่คือความท้าทายที่ต้องตอบสนองด้วยผลิตภัณฑ์ที่แตกต่างและการสื่อสารที่เข้าถึงจิตใจผู้บริโภค”

     “แนวทางการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ นับจากนี้ จะให้ความสำคัญกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่อย่างแท้จริง ผ่านกลยุทธ์ที่เน้น ‘Unique Beauty Solutions’ ซึ่งผสานนวัตกรรมและการสร้างประสบการณ์เฉพาะบุคคล เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับแบรนด์ และสร้างความแตกต่างในตลาดที่มีการแข่งขันสูงนอกเหนือจากตลาดในประเทศที่เราวางแผนรุกธุรกิจในทุกรูปแบบ ทั้งการเพิ่มพอร์ตสินค้าใหม่ การร่วมมือกับพันธมิตร และการขยายช่องทางการขายสู่ดิจิทัลเต็มรูปแบบ เราเล็งเห็นโอกาสในตลาดต่างประเทศที่เติบโตอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียและตลาดเกิดใหม่อย่างตะวันออกกลางและยุโรป ซึ่งมีความต้องการผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและตอบสนองเทรนด์ Clean Beauty และ Personalization มากขึ้น”

     “ในปี 2568 บริษัทฯ ตั้งเป้าการเติบโตยอดขายเป็น 4,500 ล้านบาท โดยในส่วนของตลาดต่างประเทศ เรามุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์ Exclusive Product เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าในแต่ละประเทศ และขยายเครือข่ายการจัดจำหน่ายผ่านพันธมิตรที่มีศักยภาพ ซึ่ง Karmart มั่นใจว่ากลยุทธ์ ‘Unique Beauty Solutions’ ของเราจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้แบรนด์ในประเทศและขยายสู่ตลาดโลกได้ตามเป้า เราเชื่อว่าความสำเร็จในระดับสากลจะเสริมสร้างภาพลักษณ์ของแบรนด์ไทยให้ก้าวสู่เวทีโลกอย่างยั่งยืน” คุณชลธิดา กล่าว

Unique Beauty Solutions: เมื่อกลยุทธ์ตอบโจทย์ความงามเฉพาะตัวสร้างความแตกต่างที่เข้าถึงได้อย่างตรงจุด

     “Unique Beauty Solutions” ไม่ใช่เพียงแค่กลยุทธ์ทางการตลาด แต่คือหัวใจสำคัญของ Karmart ที่มุ่งมั่นสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ความงามที่ตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะของผู้บริโภคในแต่ละกลุ่ม โดยเน้นการออกแบบนวัตกรรมที่เฉพาะเจาะจง พร้อมการทำงานร่วมกับ Influencers และผู้เชี่ยวชาญในหลากหลายสาขาอย่างใกล้ชิด เพื่อมอบโซลูชันที่ไม่เหมือนใคร  อีกคีย์ซัคเศสสำคัญคือการใช้กลยุทธ์ “Influencer Marketing” ด้วยการจับมือกับพันธมิตรในแวดวงบิวตี้ ช่วยสร้างมูลค่าแบรนด์ที่เข้าถึงใจกลุ่มเป้าหมาย และช่วยผลักดันผลิตภัณฑ์ใหม่ให้กลายเป็นที่พูดถึงอย่างรวดเร็ว

     พงศ์วิวัฒน์ ทีฆคีรีกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการสายงานตลาดและสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ บริษัท คาร์มาร์ท จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงความสำคัญของกลยุทธ์ Influencer Marketing ซึ่งถือเป็นหนึ่งในหัวใจสำคัญของการขับเคลื่อนความสำเร็จของ Karmart ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยได้เน้นย้ำว่า “Influencer Marketing ไม่ใช่แค่เครื่องมือทางการตลาด แต่เป็นหัวใจสำคัญในการสร้างแบรนด์ Karmart เราทำงานร่วมกับ Influencers อย่างใกล้ชิด เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ลูกค้าอย่างแท้จริง กลยุทธ์นี้ไม่ได้หมายถึงการเลือกคนดังมาโปรโมตสินค้าผ่านสื่อโซเชียลเพียงอย่างเดียว แต่เป็นการสร้างความร่วมมือที่ลึกซึ้งระหว่างแบรนด์กับ Influencers เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างละเอียดและตรงจุด โดยกระบวนการนี้เริ่มต้นตั้งแต่การระบุความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย การค้นคว้าวิจัย และการทดลองสูตร จนถึงการออกแบบแคมเปญที่สามารถเข้าถึงผู้บริโภคในระดับบุคคล ตัวอย่างที่ประสบความสำเร็จอย่างโดดเด่นคือการร่วมมือเหล่าอินฟลูเอนเซอร์รวมถึงผู้เชี่ยวชาญระดับแถวหน้า” อาทิ

ความร่วมมือกับ Influencers และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง

     1. หมวดผลิตภัณฑ์ Makeup

          - Browit by Nongchat ร่วมมือกับ Makeup Artist แถวหน้าของเมืองไทย น้องฉัตร-ฉัตรชัย เพียงอภิชาติ คิ้วสวยเหมือนมีน้องฉัตรมาเขียนให้คิดผลิตภัณฑ์เพื่อตอบโจทย์ผู้หญิงยุคใหม่ที่อยากคิ้วปัง ตาสวย และแต่งหน้าไวขึ้น ในราคาที่จับต้องได้. พร้อมต่อยอดสู่แบรนด์ THA BY NONGCHAT ซึ่งขยายผลิตภัณฑ์ต่อยอดสู่เมกอัพทั้งใบหน้าเจาะกลุ่มวัยรุ่น

          - Lip it by Nisamanee ร่วมมือกับ นัท นิสามณี เลิศวรพงศ์ Influencer ชั้นนำ บุกตลาดลิปแคร์ พร้อมตั้งเป้าเป็น Top 3 ของแบรนด์ลิปแคร์ไทย และมุ่งสู่อันดับ 1 #นึกถึงลิปมันต้องลิปอิท

          - Catchy Nesty ร่วมมือกับ เนสตี้ สไปร์ทซี่ เน็ตไอดอลชื่อดังปั้นแบรนด์ลิปทินต์เน้นการติดทนและกลุ่มเป้าหมายวัยเรียนและนักศึกษา

     2. หมวดผลิตภัณฑ์ Hair Care

          HAIR IT by Saypan ร่วมมือกับ สายป่าน จิรพร บูรณพงศ์ Top Beauty Blogger ผลิตภัณฑ์บำรุงผม ที่มาพร้อมกับนวัตกรรมเสกผมสวย กู้ผมเสีย พร้อมกลิ่นหอมน่าหลงใหล เพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่ใส่ใจสุขภาพเส้นผม

     3. หมวดผลิตภัณฑ์ เวชสำอาง Clean Beauty

         - Intimi ผลิตภัณฑ์ดูแลจุดซ่อนเร้นที่พัฒนาร่วมกับสูตินารีแพทย์ ตอบโจทย์ทั้งผู้ชายและผู้หญิง โดยมี คุณแนน ลฎาภา - Blogger ชื่อดัง จากเพจ 'น้องนี' เป็นเจ้าของแบรนด์

          - NIKS Beginning Of Healthy Skin ” by คุณต่อ-คุณเต๋า-คุณภูมิ-นุ่น นพลักษณ์ มาสก์ผิวระดับพรีเมียมที่พัฒนาโดยแพทย์เฉพาะทาง พร้อมสารสกัดที่ให้ผลลัพธ์แบบ effective dose และเป็น Clean Beauty

          - ACCA by Dr.DSP: เวชสำอางสำหรับสิวและผิวแพ้ง่าย โดยทีมแพทย์จาก The Demis Clinic รวมถึงผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร DSP เพื่อดูแลปัญหาสิวครบวงจร

          - IFME สกินแคร์สำหรับเด็กจากญี่ปุ่น ภายใต้ความร่วมมือกับ Marubeni

     “การทำงานกับ Influencers ไม่ใช่แค่การสร้างกระแสให้สินค้า แต่คือการฟังเสียงของผู้บริโภคผ่านคนที่พวกเขาเชื่อมั่น เราไม่ได้มอง Influencers เป็นแค่ช่องทางโปรโมตสินค้า แต่เป็นพาร์ทเนอร์สำคัญที่ช่วยให้เราเข้าใจความต้องการของตลาดได้ดียิ่งขึ้น ด้วยกลยุทธ์นี้ Karmart ไม่เพียงแต่เพิ่มยอดขายและการรับรู้ในแบรนด์เท่านั้น แต่ยังสามารถสร้างความไว้วางใจในแบรนด์และผลิตภัณฑ์ในกลุ่มเป้าหมายอย่างยั่งยืน ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ Karmart ยืนหยัดในตลาดความงามมาได้อย่างแข็งแกร่งเป็นเวลา 15 ปี การเดินหน้าสู่เป้าหมายการเป็นแบรนด์ระดับโลกของ Karmart ยังสะท้อนให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนและกลยุทธ์ที่ปรับตัวตามยุคสมัย ซึ่ง Influencer Marketing ยังคงเป็นหนึ่งในหัวใจหลักที่ Karmart ให้ความสำคัญในแผนระยะยาวนี้” พงศ์วิวัฒน์ กล่าว

ก้าวต่อไปของ Karmart: สู่ความสำเร็จระดับโลกด้วยผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์

     ในโอกาสฉลองครบรอบ 15 ปีแห่งความสำเร็จ Karmart เปิดตัวผลิตภัณฑ์และแบรนด์ใหม่ที่สะท้อนถึงวิสัยทัศน์ "Unique Beauty Solutions" พร้อมมุ่งหน้าสู่การเป็นผู้นำด้านความงามระดับโลก ด้วยการผสมผสานเทคโนโลยีล้ำสมัย ความคิดสร้างสรรค์ และความใส่ใจในความงามเฉพาะบุคคล

     - เปิดตัว "Get Skin": นิยามใหม่ของงานผิวที่เหนือกว่า

     "Get Skin" แบรนด์รองพื้นและแป้งงานผิวที่เกิดจากความร่วมมือกับ คุณ Eyeta บิวตี้อินฟลูเอนเซอร์ชื่อดังในไทย เปิดตัวด้วยผลิตภัณฑ์ BETTER SKIN FOUNDATION SPF50+ PA++++ รองพื้นกู้ผิวระดับพรีเมียมที่ใช้เวลาพัฒนาสูตรถึง 2 ปี โดยมีคุณสมบัติเด่นคือ เนื้อกึ่งแมตต์ บางเบา เกลี่ยง่าย ให้การปกปิดเยี่ยม, รวมคุณสมบัติของ Makeup + Skincare ด้วยส่วนผสมบำรุงผิว, ปราศจากสารที่อาจเป็นอันตราย เหมาะสำหรับทุกสภาพผิว แม้คุณแม่ตั้งครรภ์, เป็น Vegan Product ตอบโจทย์เทรนด์รักโลกและใส่ใจสุขภาพ โดย Get Skin ตั้งเป้าเป็นแบรนด์ Target Premium สำหรับผู้ที่ต้องการผลิตภัณฑ์คุณภาพที่ให้ผลลัพธ์สวยสมบูรณ์แบบ พร้อมเดินหน้าสู่ตลาดความงามระดับโลก

     - รื่นรมย์ (Ruenrom): สืบสานภูมิปัญญาไทยสู่ผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์ระดับโลก

     แบรนด์ที่เน้นการอนุรักษ์และต่อยอดภูมิปัญญาไทย ผ่านการพัฒนา Creative Lifestyle Product ด้วยกลิ่นอายของไทยที่ทันสมัย โดยมีกลุ่มผลิตภัณฑ์หลัก 3 กลุ่ม:

          1. Personal Care: สบู่, แฮนด์ครีม, โลชั่น, และสครับ (เตรียมเพิ่มแชมพูเร็วๆ นี้)

          2. Home Fragrance และ Spa Product: น้ำหอมปรับอากาศ, ก้านหอม, ยาหม่อง

          3. Food & Beverage: น้ำพริก, ผลไม้อบแห้ง, และผลิตภัณฑ์ชุมชน

      โดยในปี 2568 รื่นรมย์เตรียมลุยตลาดมากขึ้นด้วยการเปิดตัวกลิ่นใหม่กลิ่นองุ่น 5 กลิ่น พร้อม แผนพัฒนาสินค้าในกลุ่ม Makeup และ Accessories ตลอดจนการ Collaboration กับศิลปินไทยชื่อดัง เพื่อสร้างความพิเศษให้กับผลิตภัณฑ์

     - KMGI: ความงามมาตรฐานนางงามระดับสากล

           โดยการจับมือร่วมกับ Miss Grand International เพื่อก่อตั้งบริษัทใหม่ KMGI สร้าง 2 แบรนด์เรือธง

          1. BEAUTILOX: ผลิตภัณฑ์กลุ่มสกินแคร์

          2. Face it: ผลิตภัณฑ์กลุ่มเมกอัพ

     ทั้งสองแบรนด์ถูกพัฒนาด้วยแนวคิด "ความงามที่เป็นมาตรฐานนางงาม" ตอบโจทย์ผู้บริโภคที่ต้องการความสมบูรณ์แบบและความงามระดับมืออาชีพ พงศ์วิวัฒน์ กล่าวทิ้งท้าย

     ด้าน วงศ์วิวัฒน์ ทีฆคีรีกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท คาร์มาร์ท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “เป้าหมายหลักของ KARMART คือการนำแบรนด์ในทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ขึ้นสู่อันดับหนึ่งในตลาดประเทศไทย พร้อมทั้งปูทางสำหรับการขยายตัวในระดับภูมิภาคอาเซียนและสู่เวทีโลกในระยะยาว การสร้างความเข้าใจเชิงลึกเกี่ยวกับความต้องการของผู้บริโภคในแต่ละพื้นที่จะช่วยให้เราสามารถพัฒนาและนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ เราให้ความสำคัญกับการนำจุดแข็งของบริษัทฯ อย่างกลุ่มสินค้าที่มีศักยภาพเข้าสู่ตลาดใหม่ ผ่านการทำงานร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจที่พร้อมเติบโตไปด้วยกัน เพื่อสร้างการเติบโตอย่างมั่นคงและยกระดับแบรนด์ให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล”

ในด้านการพัฒนาบุคลากร ให้หลักการ ESG เป็นแนวคิดเกี่ยวกับการพัฒนาขององค์กรอย่างยั่งยืน เพื่อพาไปสู่เป้าหมายที่ตั้งไว้

     E – Environmental  เป็นหลักเกณฑ์ที่คำนึงถึงในด้านความรับผิดชอบของบริษัทต่อสิ่งแวดล้อม

     S - Social เป็นหลักเกณฑ์ที่ใช้วัดว่าบริษัทมีการจัดการความสัมพันธ์และมีการสื่อสาร กับ ลูกจ้าง suppliers ลูกค้า หรือผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย (stakeholders) อย่างไร

     G – Governance  เป็นหลักการที่ใช้วัดว่าบริษัทมีการจัดการบริการความสัมพันธ์ในเชิงการกำกับดูแลอย่างไร เพื่อการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพโปร่งใส ตรวจสอบได้

Karmart ลุยตลาดต่างประเทศเต็มสูบ พร้อมขยายสู่เวทีโลก

     Karmart ไม่ได้หยุดเพียงการครองตลาดในประเทศ แต่ยังมุ่งสร้างอิทธิพลในระดับโกลบอล โดยส่งออกผลิตภัณฑ์ความงามไปยังตลาดสำคัญทั่วเอเชีย โดยปัจจุบันมีการส่งออกไปยัง 29 ประเทศ ภายใต้วิสัยทัศน์ที่มุ่งมั่น Karmart วางแผนขยายตลาดต่างประเทศ
ด้วยกลยุทธ์ที่ผสมผสานการสร้างแบรนด์ระดับโลกและการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคในแต่ละภูมิภาค

บทสรุปแผนธุรกิจ Karmart: เป้าหมายยอดขาย 4,500 ล้านบาท ภายในปี 2568

      ภายใต้แผนธุรกิจเชิงกลยุทธ์ที่เน้นการสร้างสรรค์นวัตกรรม Karmart ตั้งเป้าหมายยอดขายทะลุ 4,500 ล้านบาทภายในปี 2568 โดยวางรากฐานการเติบโตแบบก้าวกระโดดในตลาดความงามผ่านกลยุทธ์ Unique Beauty Solutions ที่ออกแบบเพื่อตอบสนองความต้องการความงามเฉพาะบุคคลอย่างตรงจุด

     ด้วยวิสัยทัศน์และความพร้อมในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ตอบโจทย์ผู้บริโภค Karmart มุ่งมั่นที่จะก้าวเป็นผู้นำด้านความงามทั้งในประเทศและระดับโกลบอล

 

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี 

NEWS & TRENDS