“Taiwan Excellence Pavilion” กลับมาจัด แสดงที่ประเทศไทยอีกครั้ง พร้อมนำเสนอนวัตกรรมชั้นนำจากไต้หวันทั้งในด้าน smart living กีฬาและ นันทนาการ โซลูชั่นด้าน ESG รวมทั้งเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร โดยงานในครั้งนี้เน้นย้ำให้เห็น ถึงความมุ่งมั่นของไต้หวันในการส่งมอบสินค้าที่มีคุณภาพ การออกแบบที่ดีเยี่ยม และความยั่งยืนต่อผู้ บริโภคผ่านโซลูชั่นที่ล้ำสมัยจากผลิตภัณฑ์ที่ได้รับรางวัลจำนวนกว่า 58 รายการ
ผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่นภายในงานประกอบด้วย ฟิล์ม “Optiqb Qbarmour” สร้างประสบการณ์การ รับชมแบบสามมิติด้วยตาเปล่าจากอุปกรณ์ขนาดพกพา, “YZTEK e+Autoff Compact” อุปกรณ์ควบคุม การทำงานเตาทำอาหารอัจฉริยะเพื่อความปลอดภัย, “ible” เครื่องฟอกอากาศแบบสวมใส่ที่ช่วยฟอกอากาศ บริสุทธิ์ได้ทุกที่ทุกเวลา, “mbranfiltra” ตัวกรองน้ำแบบพกพาที่สามารถผลิตน้ำดื่มสะอาดได้ทุกที่ และ “BenQ W4000i” โปรเจคเตอร์เพื่อสร้างบรรยากาศที่เสมือนโรงภาพยนตร์ในบ้านที่ให้ภาพคมชัดระดับ 4K
ไฮไลท์สำหรับปีนี้คือ “มาสคอตน้องหมี FU BEAR” และ “แคมเปญ Red Tag” สำหรับมาสคอต น้องหมี FU BEAR นั้นถือเป็นตัวแทนสำคัญของไต้หวันซึ่งเปิดตัวครั้งแรกในประเทศไทย โดยสามารถพบ เจอได้ทั้งบริเวณรถไฟฟ้า BTS และอาคารที่มีป้ายโฆษณา ซึ่งไฮไลท์ทั้งสองช่วยเพิ่มมิติทางวัฒนธรรมให้ กับการจัดงาน Taiwan Excellence Pavilion ในครั้งนี้
ที่สำคัญคณะผู้จัดงานได้เปิดตัวแคมเปญ "The Best Made in Taiwan Red Tag" ไปทั่วโลก โดย ประเทศไทยเป็นหนึ่งในสถานที่จัดงานที่ยิ่งใหญ่ สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของไต้หวันในการส่งเสริม คุณภาพของอุตสาหกรรมที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นด้านสถาปัตยกรรม กีฬา และการแล่นเรือ นอกจากนี้ “ป้ายแท็กราคาสีแดง” หรือ Red Tag ถือเป็นสัญลักษณ์ของความเป็นสิริมงคลและความเป็นเลิศ รวมทั้งยัง แสดงให้เห็นถึงฝีมือการผลิตที่ยอดเยี่ยมและ ความพิถีพิถันของคนไต้หวัน ซึ่งคณะผู้จัดงานได้นำมาใช้เป็น ไฮไลท์สำคัญในการจัดแสดงในงานครั้งนี้ โดยมีจุดประสงค์ในการแบ่งปันวัฒนธรรมให้ทั้งไทยและไต้หวัน ได้ชื่นชมความงดงามร่วมกันอีกทั้งยังเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ยั่งยืนกับประเทศไทยด้วย
ภายในงานยังได้รับเกียรติจากบุคคลที่มีชื่อเสียงชาวไทยหลายท่าน อาทิ เจี๊ยบ-ลลนา ก้องธรนินทร์, มอส-ภาณุวัฒน์ โสประดิษฐ, แบงค์-มณฑป เหมตาล, เจมส์-เกษม กาญจนวัฒนาม, เชอรี่-เข็มอัปสร สิริสุขะ, ธนา ฉัตรบริรักษ์ และ วีเจ จ๋า-ณัฐฐาวีรนุช ทองมี
การปรากฏตัวภายในงานของพวกเขาจะช่วยดึงดูดแฟนๆ และสื่อมวลชนจำนวนมาก รวมทั้งเพิ่ม ความน่าสนใจให้กับ Taiwan Excellence Pavilion และยังเป็นโอกาสในการนำเสนอผลิตภัณฑ์จากไต้หวันสู่ผู้ชมในวงกว้าง แขกผู้มีเกียรติที่กล่าวมาไม่เพียงยกระดับความน่าสนใจของงาน แต่ยังตอกย้ำถึง ความสัมพันธ์ทางวัฒนธรรมและเศรษฐกิจที่แน่นแฟ้นระหว่างไต้หวันและไทย ทำให้งานในปีนี้เป็นการผสม ผสานระหว่างนวัตกรรมและมิตรภาพอย่างแท้จริง
นอกจากนี้ คณะผู้จัดงานกำลังเตรียมนำ “ป๊อปอัพสโตร์” มาเปิดในประเทศไทยช่วงปีหน้า โดยจะนำ เสนอนวัตกรรมล้ำสมัยและผลิตภัณฑ์ในหมวดหมู่ไลฟ์สไตล์จากไต้หวัน โดยงานในครั้งนี้ถือเป็นโอกาสพิเศษ ของคนไทยที่จะได้สัมผัสผลิตภัณฑ์คุณภาพจากไต้หวันซึ่งออกแบบมาเพื่อยกระดับชีวิตประจำวันของทุกคน
Taiwan Excellence มุ่งมั่นที่จะเสริมสร้างความสัมพันธ์ทางวัฒนธรรมและเศรษฐกิจกับประเทศ ไทยผ่านรูปแบบการจัดงาน โดยเฉพาะจุดประสงค์ของงานในปี้นี้ เพื่อส่งเสริมความเข้าใจและความร่วมมือซึ่ง กันและกัน โดยป๊อปอัพสโตร์จะมีการสาธิตการใช้งานผลิตภัณฑ์แบบที่ผู้เข้าชมสามารถสัมผัสสินค้าได้จริง การจัดแสดงแบบอินเทอร์แอคทีฟ และโปรโมชั่น พิเศษมากมายซึ่งตอกย้ำถึงความตั้งใจของไต้หวันในการ ส่งเสริมความเป็นเลิศด้านเทคโนโลยีและการออกแบบมากไปกว่านั้น Taiwan Excellence ยังจะไปเปิด พาวิเลียนในงานแสดงสินค้าที่สำคัญ เช่น Architect Expo 2025 และ Manufacturing Expo 2025 เพื่อขยายการเข้าถึงไปยังผู้ประกอบการเฉพาะกลุ่มอีกด้วย นอกเหนือจากการจัดงานแบบออนไซต์แล้ว คณะผู้จัดงานยังส่งเสริมการมีส่วนร่วมทางดิจิทัลด้วยการเปิดตัวกิจกรรมออนไลน์หลากหลายรูปแบบ เช่น การจัดแสดงผลิตภัณฑ์ผ่านช่องทางออนไลน์ เนื้อหาแบบอินเทอร์แอคทีฟ และโปรโมชั่นพิเศษที่ออกแบบมา เพื่อเชื่อมโยงนวัตกรรมของไต้หวันกับผู้ชมชาวไทยในโลกดิจิทัลอีกด้วย
ท้ายที่สุดคณะผู้จัดงาน Taiwan Excellence ขอเชิญชวนทุกท่านติดตามและมีส่วนร่วมใน กิจกรรมออนไลน์เหล่านี้ ท่ามกลางความพยายามของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการสร้างสะพานเชื่อม วัฒนธรรมและแบ่งปันความเป็นเลิศทางอุตสาหกรรมของไต้หวันกับประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี