ดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส ผู้นำระดับโลกด้านการขนส่งด่วนระหว่างประเทศ เปิดตัวโปรแกรม GoTrade เพื่ออำนวยความสะดวกทางการค้าให้กับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีในประเทศไทยให้เข้าถึงตลาดโลก โปรแกรม GoTrade อยู่ภายใต้การริเริ่มของกลุ่มบริษัทดีเอชแอล ครอบคลุมการฝึกอบรมและเวิร์คช็อป 'Trade & Grow Beyond Borders' มุ่งเน้นการเพิ่มความเข้าใจของเอสเอ็มอีเกี่ยวกับแนวปฏิบัติทางการค้าโลก กฎระเบียบและกระบวนการศุลกากร โดยร่วมมือกับพันธมิตรสำคัญ ได้แก่ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (OSMEP) ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) และกรมศุลกากร โดยดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส ประเทศไทยจะจัดการฝึกอบรมและเวิร์คช็อปเป็นประจำทุกสัปดาห์ตลอดเดือนสิงหาคม 2567
ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีในไทย 40 รายที่เข้าร่วมการฝึกอบรมและเวิร์คช็อป 'Trade & Grow Beyond Borders' จะได้เรียนรู้จากผู้เชี่ยวชาญGoTrade ที่ได้รับการรับรองจากดีเอชแอล เกี่ยวกับวิธีการส่งออกสินค้าไปยังตลาดโลก ผ่านเครือข่ายการขนส่งระหว่างประเทศของดีเอชแอลครอบคลุม 220 ประเทศทั่วโลก และได้รับประโยชน์สูงสุดจากการเติบโตของโกลบอลไลเซชั่นและอีคอมเมิร์ซ
โปรแกรม GoTrade มีจุดมุ่งหมายในการสร้างโอกาสขยายธุรกิจระดับโลกให้กับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทย จากความเชี่ยวชาญขององค์กรพันธมิตรใน 5 ด้านที่สำคัญ ได้แก่ การค้าและการจัดส่งระหว่างประเทศ พิธีการศุลกากรและการปฏิบัติตามกฎระเบียบในการขนส่งระหว่างประเทศ อีคอมเมิร์ซ การจัดการลูกค้าและทักษะทางธุรกิจ
ปัจจุบันประเทศไทยมีเอสเอ็มอีเป็นสัดส่วนมากถึง 99.54 เปอร์เซ็นต์ของวิสาหกิจทั้งประเทศ หรือมีจำนวนมากกว่า 3.1 ล้านราย มีการจ้างงานกว่า 12.7 ล้านคน หรือคิดเป็น 71.70 เปอร์เซ็นต์ของการจ้างงานทั้งหมดของประเทศ มีมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ที่เกิดจากเอสเอ็มอี 34.2 เปอร์เซ็นต์ของ GDP ทั้งประเทศ เอสเอ็มอีจึงมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ โดยเวิร์คช็อป 'Trade & Grow Beyond Borders' ภายใต้โปรแกรม GoTrade มีเป้าหมายที่จะสร้างอิมแพคเชิงบวกให้กับเศรษฐกิจไทย
เฮอร์เบิต วงศ์ภูษณชัย กรรมการผู้จัดการ ดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย และหัวหน้าภาคพื้นอินโดจีน กล่าวว่า “การค้าระหว่างประเทศเป็นปัจจัยสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ แต่เอสเอ็มอีมักเผชิญอุปสรรคในการขยายธุรกิจไปต่างประเทศ เนื่องจากมีข้อจำกัดเรื่องความรู้ความเข้าใจด้านการค้าและโลจิสติกส์ระหว่างประเทศ รวมถึงความท้าทายด้านพิธีการศุลกากรและข้อกำหนดที่แตกต่างกันในแต่ละประเทศ โครงการ GoTrade ได้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเราในการลดอุปสรรคเหล่านี้ โดยอาศัยความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน รวมถึงความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมของเราเพื่อช่วยให้เอสเอ็มอีเข้าถึงตลาดโลกได้ เราได้ช่วยสนับสนุนความสำเร็จของชุมชนที่เราให้บริการ ซึ่งสอดคล้องกับจุดมุ่งหมายของเราในการเชื่อมโยงผู้คน ยกระดับคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น และเติบโตไปด้วยกัน”
วุฒิศักดิ์ กาญจนาภรณ์ ผู้อำนวยการสำนักตลาดพาณิชย์ดิจิทัล กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กล่าวว่า "ภารกิจของกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) คือการแสวงหาตลาดต่างประเทศและโอกาสในการเติบโตทางธุรกิจให้กับเอสเอ็มอีไทย ในขณะที่การขยายโอกาสไปตลาดต่างประเทศ เอสเอ็มอีมักเผชิญความท้าทายด้านความสามารถในการแข่งขันและอุปสรรคทางการค้าระหว่างประเทศ ความร่วมมือกับดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส และอีกสามองค์กรที่สำคัญนี้ จะใช้ประโยชน์จากความเชี่ยวชาญของแต่ละองค์กร เพื่อช่วยให้เอสเอ็มอีสามารถเอาชนะอุปสรรคเหล่านี้และเข้าถึงตลาดโลกใหม่ๆ ได้สำเร็จ"
วิทวัส ล่ำซำ ผู้อำนวยการฝ่ายความร่วมมือระหว่างประเทศ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) กล่าวว่า "เรามุ่งมั่นที่จะสร้างโอกาสในการการเติบโตอย่างยั่งยืนให้กับเอสเอ็มอีไทย และยกระดับความสามารถในการแข่งขันของพวกเขาในระดับโลก ซึ่งจะส่งผลต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ เมื่อเข้าสู่ช่วงฟื้นตัวหลังการระบาดครั้งใหญ่ ธุรกิจส่งออกจะได้รับประโยชน์จากการขยายตลาด สร้างโอกาสใหม่ๆ ในเวทีโลกให้กับเอสเอ็มอี ความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ GoTrade นี้จะช่วยให้เอสเอ็มอีพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันที่แข็งแกร่ง เพื่อความสำเร็จในตลาดระหว่างประเทศ"
ประเสริฐจิต ศรีนิลทา ผู้อำนวยการอาวุโส ผู้บริหารศูนย์ความเป็นเลิศด้านการค้า ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) กล่าวว่า "ในฐานะผู้ขับเคลื่อนสำคัญของยุทธศาสตร์การค้าของประเทศไทยเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนในระดับโลก เราได้สนับสนุนทั้งด้านเงินทุนและการพัฒนาเอสเอ็มอีมาโดยตลอด แนวทางของเราสอดคล้องกับโครงการของ ดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส ในการเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับเอสเอ็มอีไทยในตลาดการค้าโลก ซึ่งนำไปสู่โปรแกรมความร่วมมือเชิงกลยุทธ์นี้ เรามั่นใจว่าความร่วมมือกับผู้นำในอุตสาหกรรมทั้งสี่แห่งนี้จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการส่งออกของเอสเอ็มอีไทยเป็นอย่างมาก และส่งเสริมความสามารถของเอสเอ็มอีอย่างเต็มศักยภาพในตลาดระหว่างประเทศ"
วิศณุ วัชราวนิช ผู้อำนวยการสำนักงานศุลกากรตรวจสินค้าท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กรมศุลกากร กล่าวว่า “การเพิ่มพูนความรู้เรื่องกระบวนการส่งออก โดยเฉพาะอย่างยิ่งขั้นตอนศุลกากรจะช่วยเสริมศักยภาพให้เอสเอ็มอีสามารถวางแผนเชิงกลยุทธ์ เตรียมพร้อมสำหรับการส่งออกอย่างมีประสิทธิภาพ และประเมินต้นทุนได้อย่างครอบคลุม รวมถึงการจัดการกับกฎระเบียบที่หลากหลายของประเทศต่าง ๆ อย่างมีประสิทธิภาพ ความเชี่ยวชาญนี้จะมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อความสำเร็จในตลาดโลก เรามั่นใจว่าการอบรมและเวิร์คช็อป “Trade Grow Beyond Borders” ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างพันธมิตรชั้นนำในอุตสาหกรรมทั้ง 5 รายนี้ จะช่วยยกระดับศักยภาพเอสเอ็มอีให้มีความได้เปรียบในการแข่งขันที่แข็งแกร่งขึ้นในการค้าระหว่างประเทศ"
สนใจข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับความร่วมมือในโปรแกรม GoTrade และคำแนะนำเรื่องการขนส่งระหว่างประเทศ คลิกที่นี่
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี
