ธนาคารไทยพาณิชย์ ร่วมกับ สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจ ศศินทร์ แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มอบรางวัลให้กับธุรกิจเอสเอ็มอีที่สร้างความแตกต่างทางธุรกิจได้อย่างโดดเด่นและสามารถพัฒนาศักยภาพทางธุรกิจให้อยู่รอดในทุกสถานการณ์ด้วยพลังผู้ประกอบการควบคู่ไปกับการมุ่งมั่นสร้างความยั่งยืน โดยประกาศผลรางวัลเกียรติยศแห่งความภาคภูมิใจของเอสเอ็มอีไทย “Bai Po Business Awards by Sasin” ครั้งที่ 19 ยกย่อง 5 ผู้ประกอบการไทยที่มีศักยภาพนำพาธุรกิจฝ่าฝันจนประสบความสำเร็จ ทั้งนี้ 5 บริษัทที่ได้รับการคัดเลือกได้แก่ บริษัท กราน-มอนเต้ จำกัด บริษัท โกไฟว์ จำกัด บริษัท ชู โกลบอล จำกัด บริษัท ลายวิจิตร จำกัด และบริษัท เอ.เบสท์ อินเตอร์ โปรดักส์ จำกัด โดยมี นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ นายกกรรมการ ธนาคารไทยพาณิชย์ เป็นประธานมอบรางวัล
อภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ นายกกรรมการ ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า ในช่วงหลังวิกฤติการณ์โควิด 3 ปีที่ผ่านมา ผู้ประกอบการไทยต้องปรับตัวอย่างมากเพื่อก้าวสู่การเป็นองค์กรดิจิทัลและบ่มเพาะวัฒนธรรมองค์กรให้บุคลากรมีความตื่นตัวที่จะปรับเปลี่ยนวิถีการทำงานแบบเดิมให้มีความคล่องตัว ทันต่อเทคโนโลยี ทันต่อความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว และทันต่อคู่แข่งจากทั้งในและต่างประเทศ นอกจากนี้ องค์กรต่างๆ ควรให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน (ESG) ซึ่งครอบคลุมถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล ซึ่งนับเป็นหัวใจในการทำธุรกิจทั้งในปัจจุบันและอนาคต
กฤษณ์ จันทโนทก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า ธนาคารให้ความสำคัญและพร้อมเป็นที่ปรึกษาธุรกิจเอสเอ็มอี เพื่อสร้างความแข็งแกร่งและช่วยพัฒนาธุรกิจให้ประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืนในระยะยาว โดยมองว่าเอสเอ็มอีเป็นรากฐานของระบบเศรษฐกิจของประเทศ อย่างไรก็ตาม ด้วยความรู้จักและเข้าใจลูกค้าอย่างแท้จริงดังวิสัยทัศน์ของธนาคารในการเป็น Digital Bank with Human Touch ที่รู้จักลูกค้าผ่านข้อมูล รู้ใจลูกค้าผ่านความรู้สึก นอกเหนือจากการสนับสนุนเงินทุนแล้ว ธนาคารมองว่าการเสริมภูมิองค์ความรู้ที่จำเป็นก็เป็นอีกบทบาทที่ธนาคารให้ความสำคัญเพื่อติดปีกให้เอสเอ็มอีไปได้ไกลกว่าเดิม หรือแม้แต่การเปลี่ยนแปลงของโลกที่มีความผันผวน การพัฒนา Digital Platform ต่างๆ ก็จะช่วยตอบโจทย์ให้เอสเอ็มอีลดต้นทุน และมีความคล่องตัวมากยิ่งขึ้น โดยธนาคารเชื่อว่าพลังแห่งเทคโนโลยีจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจเอสเอ็มอีได้เป็นอย่างดี สำหรับรางวัล Bai Po Business Awards by Sasin เป็นอีกหนึ่งโครงการที่ธนาคารสนับสนุน ยกย่องเชิดชูเกียรติธุรกิจเอสเอ็มอีไทย เพื่อให้เป็นแบบอย่างที่ดีต่อผู้ประกอบการ รายอื่น ๆ
สำหรับการตัดสินรางวัล Bai Po Business Awards by Sasin ในครั้งที่ 19 นี้ มีธุรกิจที่ได้รับรางวัล จำนวน 5 ราย ซึ่งสามารถเป็นแบบอย่างและสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีรายอื่นๆ ให้มีความกล้าที่จะสร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง โดยมีธุรกิจที่ได้รับรางวัลในปีนี้ ดังนี้
1. บริษัท กราน-มอนเต้ จำกัด ได้รับรางวัลในมิติ องค์กรที่มีการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน (Sustainable Business Practice) การบริหารจัดการด้านการสร้างตราสินค้าและการตลาด (Branding and Marketing) และการสร้างธุรกิจด้วยพลังแห่งการเป็นผู้ประกอบการ (Entrepreneurship) จากไอเดียตั้งต้นที่ตั้งใจซื้อที่ดินบริเวณหุบเขาอโศก เขาใหญ่ ไว้ทำไร่องุ่นเป็นที่พักตากอากาศผนวกกับการมองเห็นโอกาสธุรกิจไวน์ในประเทศไทยที่ยังไม่เป็นที่แพร่หลายมากนัก สู่จุดเริ่มต้นของอาณาจักร “กราน-มอนเต้” ที่ไม่ได้มีเพียงไวน์ไทยเป็นไฮไลท์ แต่ยังต่อยอดไปสู่อีกหลากหลายธุรกิจที่เข้ามาเติมเต็มระบบนิเวศของธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน บุกเบิกการผลิตไวน์ไทยให้พัฒนาสู่มาตรฐานสากลและเป็นไวน์หนึ่งเดียวที่ได้รับเกียรติให้เสิร์ฟในงานประชุมเอเปค 2022 สะท้อนคุณภาพไวน์ไทยแก่ผู้นำระดับโลก พร้อมสร้างความยั่งยืนด้วยการพัฒนาธุรกิจควบคู่ไปกับสิ่งแวดล้อมด้วยการนำ Zero waste ที่เหลือจากกระบวนการผลิตมาต่อยอดให้เกิดประโยชน์ ตลอดจนสร้างงาน สร้างรายได้ให้ชุมชนท้องถิ่น
2. บริษัท โกไฟว์ จำกัด ได้รับรางวัลในมิติ องค์กรที่มีการสร้างสรรค์นวัตกรรม (Innovative Enterprise) การบริหารจัดการด้านสินค้าและบริการที่สร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า (Customer-Focused Product and Service) และการสร้างธุรกิจด้วยพลังแห่งการเป็นผู้ประกอบการ (Entrepreneurship) จากแรงบันดาลใจในการ Transforms ธุรกิจของครอบครัวให้เปลี่ยนจากการใช้ระบบเอกสารมาสู่ระบบดิจิทัลได้สำเร็จ โกไฟว์จึงได้ก่อตั้งขึ้นเพื่อให้บริการซอฟต์แวร์ระดับมาตรฐานสากล ที่จะช่วยยกระดับระบบการทำงานด้านต่างๆ ของธุรกิจทั้งขนาดใหญ่ ขนาดกลาง และขนาดย่อม ให้มีความคล่องตัวมากยิ่งขึ้น เช่น โปรแกรม empeo ที่ช่วยบริหารงาน HR แบบครบวงจร โปรแกรม Venio ที่ช่วยบริหารงาน CRM บริหารทีมขาย และดูแลลูกค้า ซึ่งทั้งสองโปรแกรมนี้ได้รับรางวัล Thailand ICT Awards สาขา Big data และ Business Service จากสมาคมอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศไทย (ATCI) นอกจากนี้ ยังมุ่งสร้างความยั่งยืนด้วยการดำเนินธุรกิจอย่างโปร่งใสภายใต้หลักธรรมาภิบาลและช่วยเหลือผู้ประกอบธุรกิจที่มีบุคลากรน้อยกว่า 20 คน ให้ใช้ซอฟต์แวร์ empeo ได้ฟรี เพื่อช่วยผลักดันให้ธุรกิจเติบโตไปด้วยกัน
3. บริษัท ชู โกลบอล จำกัด ได้รับรางวัลในมิติ การบริหารจัดการด้านการสร้างตราสินค้าและการตลาด (Branding and Marketing) การบริหารจัดการด้านสินค้าและบริการที่สร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า (Customer-Focused Product and Service) และ การสร้างธุรกิจด้วยพลังแห่งการเป็นผู้ประกอบการ (Entrepreneurship) จากจุดเริ่มต้นที่ชื่นชอบแฟชั่น มีการ Mix & Match สไตล์เครื่องแต่งกายใช้เองด้วย Sense of Fashion จนสามารถทำรายได้เลี้ยงตนเองได้ตั้งแต่ยังเป็นนักศึกษา แบรนด์ SHU สะท้อนภาพลักษณ์ด้วยคอนเซ็ปต์ Everyday Lifestyle Fashion และเป็นผู้พัฒนารองเท้า SOFASHOES ที่ผ่านการรับรองโดยแพทย์ด้านศัลยกรรมกระดูกและข้อ ว่ารองเท้าช่วยลดอาการจากโรครองช้ำได้จริง จนได้รับรางวัลนวัตกรรมดีเด่นจากกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ปี 2013 โดดเด่นด้วยพลังแห่งการเป็นผู้ประกอบการที่สามารถนำพาแบรนด์ไทยให้ก้าวเข้าสู่รันเวย์ระดับโลกได้ รวมถึงสร้างความยั่งยืนด้วยการออกแบบสินค้าให้มีสไตล์การใช้งานได้ยาวนานในทุกยุคสมัย เพื่อช่วยลดการเกิดขยะ พร้อมวางแผนจะนำวัสดุที่เป็นมิตรต่อธรรมชาติมาใช้ในการผลิตสินค้าในอนาคต
4. บริษัท ลายวิจิตร จำกัด ได้รับรางวัลในมิติ องค์กรที่มีการสร้างสรรค์นวัตกรรม (Innovative Enterprise) การบริหารจัดการด้านสินค้าและบริการที่สร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า (Customer-Focused Product and Service) และ การบริหารจัดการด้านการสร้างตราสินค้าและการตลาด (Branding and Marketing) จากโรงงานไม้ เจี่ย เซ่ง ฮวด ที่ทำธุรกิจปูพื้นไม้ นำไม้มาแปรรูปทำเป็นไม้ ปาร์เกต์ ซึ่งเป็นเจ้าแรกในไทย จนมาเจอวิกฤติต้มยำกุ้งทำให้ออเดอร์จากต่างประเทศลดลง ดังนั้นเพื่อให้ธุรกิจไปต่อได้ จึงมุ่งมั่นพัฒนาเพื่อตอบโจทย์และแก้ Pain point ให้แก่กลุ่มผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ช่วยลดระยะเวลาในการติดตั้งหน้างาน สามารถให้บริการได้แบบ One Stop Services และตอบโจทย์ลูกค้าด้วยไอเดียเพิ่มพื้นที่ใช้สอย เพิ่มความปลอดภัย นอกจากนี้ ยังเดินหน้านำนวัตกรรมใหม่ ๆ เข้ามาใช้ในการผลิตเพื่อป้องกันปัญหาปลวก พร้อมสร้างความยั่งยืนให้ธุรกิจด้วยแนวคิด Zero Waste นำเศษวัสดุเหลือใช้ มาต่อยอดเป็นเฟอร์นิเจอร์ ของตกแต่งบ้าน ภายใต้แบรนด์ ลลิต บาย ลายวิจิตร อีกด้วย
5. บริษัท เอ.เบสท์ อินเตอร์ โปรดักส์ จำกัด ได้รับรางวัลในมิติ การบริหารจัดการด้านสินค้าและบริการที่สร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า (Customer-Focused Product and Service) การบริหารจัดการด้านการปฏิบัติการ (Operational Best Practice) และการสร้างธุรกิจด้วยพลังแห่งการเป็นผู้ประกอบการ (Entrepreneurship) จากจุดเริ่มต้นธุรกิจโรงกลึง ด้วยความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาต่อยอดธุรกิจผ่านการรับฟังความต้องการของลูกค้า จึงขยายไลน์ธุรกิจมาผลิตบรรจุภัณฑ์พลาสติกควบคู่ไปกับโลหะ โดยเป็นผู้ออกแบบ และผลิตบรรจุภัณฑ์อลูมิเนียม และพลาสติกสำหรับกลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องสำอางและเวชภัณฑ์ต่างๆ ได้มาตรฐานระดับสากล ทั้ง ISO 9001 และ IATF โดยพัฒนากระบวนการผลิตด้วยเทคโนโลยีอันทันสมัย มีการนำแนวคิดเรื่องระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน Circular Economy เข้ามาใช้ในโรงงาน จัดทำ Zero Bin อันเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการ Zero Waste รวมถึงมีผลิตภัณฑ์พลาสติกรีไซเคิลเป็นทางเลือกให้ลูกค้า เพื่อตอบโจทย์ คนใช้ ใส่ใจโลก
ปัจจุบันมีผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่ได้รับรางวัลรวมครั้งนี้ด้วยแล้ว เป็นจำนวนทั้งสิ้น 99 ราย และมีบริษัทที่ได้รับรางวัลเติบโตและเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) และ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ไปแล้ว 15 บริษัท การพิจารณาตัดสินรางวัล Bai Po Business Awards by Sasin ประกอบด้วยคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจากหลากหลายแขนง ผู้ประกอบการที่สมัครเข้ารับการพิจารณาไม่จำเป็นต้องเป็นลูกค้าของธนาคารไทยพาณิชย์หรือศศินทร์ฯ สนใจสมัครหรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ www.baipo-business-award.org หรือ 02-2184001-9 ต่อ 179
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี